สุเทพ ปัดนายกยุบสภา 3 พ.ค. - จำเป็นขยาย พรบ. (ไอเอ็นเอ็น)
รองนายกฯสุเทพ ระบุ ไม่กังวลใจ กรณีพรรคประชาสันติ เตรียมลงชิงเก้าอี้ ส.ส. กรุงเทพมหานคร ปัดข่าว รัฐบาลเตรียมยุบสภา 3 พฤษภาคม พร้อมย้ำต้องขยาย พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ต่อ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ตอบรับเป็นหัวหน้าพรรคประชาสันติ และเตรียมชิงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวลใจในเรื่องนี้ ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แต่ก็ยังให้การนับถือผู้แข่งขันทุกคนไม่ประมาท ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังยืนยันใช้แนวนโยบายของพรรคในการหาเสียงตามปกติ โดยจะเน้นการใกล้ชิดประชาชนเป็นหลัก ส่วนการร่วมงานทางการเมืองกับพรรคประชาสันติ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องรอหลังผลการเลือกตั้ง โดยเวลาลงสนามแข่ง ทุกคนต้องแข่งขันกันอย่างเต็มที่
นายสุเทพ ยังกล่าวถึง การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. แสดงความเป็นห่วงถึงการเลือกตั้งที่อาจจะมีความรุนแรง ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสถานีทั่วประเทศดูแลความเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตั้งด่านตรวจสอบจับกุมอาวุธทุกชนิด โดยเฉพาะอาวุธสงครามในทุกพื้นที่ ให้มีการขึ้นบัญชีมือปืนรับจ้าง พร้อมทั้งให้จับกุมดำเนินคดีทันที นอกจากนี้ยังต้องคอยดูความเรียบร้อยในพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
นอกจากนี้ นายสุเทพ ปฏิเสธกระแสข่าวการยุบสภา ในวันที่ 3 พฤษภาคม และเลือกตั้งในวันที่ 26 มิถุนาย โดยระบุว่า รัฐมนตรียังไม่ได้มีการกำหนดวันที่ชัดเจน แต่ยืนยันได้ว่าในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ระหว่างวันที่ 1-10 พฤษภาคม และจัดการเลือกตั้งในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เสร็จทันเวลา ส่วนการแบ่งเขตการเลือกตั้งที่หลายฝ่ายยังกังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบนั้น นายสุเทพ ย้ำว่าเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมายรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยังยืนยันว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขยายเวลา การประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกไปอีก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ จนกว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะยุติการปักหลักชุมนุม จากนั้นจึงจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะใช้ความนุ่มนวลในการปฏิบัติงาน ส่วนความเหมาะสมหรือไม่ ในการชุมนุมนั้นตนขอให้สังคมเป็นผู้วินิจฉัย
