x close

นํ้าท่วมภาคใต้ ภัยพิบัติสั่นสะเทือนเศรษฐกิจ



 


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยโพสต์

           สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมจนถึงปัจจุบัน สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยพิบัติซึ่งมี 10 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา กระบี่ จังหวัดพังงา นราธิวาส และสตูล โดยประเมินความเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 1,100 ล้านบาท

            แน่นอนว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งคือ การหดตัวของภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งภาคเอกชน ในนามคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดภาคใต้

           โดย นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาครวมมากนัก เนื่องจากธุรกิจส่วนใหญ่ 40-50% อยู่ในส่วนกลาง ดังนั้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2554 จะสามารถขยายตัวได้ 4-5% เป็นอย่างน้อย สำหรับการคาดการณ์ในระยะยาวยังไม่สามารถตอบได้ เนื่องจากอาจมีปัจจัยทางการเมืองที่จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะนักธุรกิจต่างชาติที่กังวลความต่อเนื่องของรัฐบาล รวมถึงการเมืองไทยภายหลังการเลือกตั้ง

            ทางด้าน นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ กล่าวว่า  ภาคเอกชนเห็นว่าปัญหาน้ำท่วมเป็นเรื่องปกติของภาคใต้ที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงมากกว่าทุกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นเห็นว่า ภาครัฐควรมีความช่วยเหลือทางเงินให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เช่น วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งอาจจะเจรจาสถาบันการเงินเพื่อผ่อนปรนการชำระสินเชื่อออกไป 3-6 เดือน เพื่อให้ธุรกิจฟื้นตัว

           ขณะที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุว่า ผลกระทบหากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายก่อนช่วงสงกรานต์จะอยู่ที่ 8,000-12,000 ล้านบาท โดยจะมาจาก

            1. ความเสียหายของถนนหนทางสถานที่ราชการ วัดวาอาราม ประมาณ 2,000 ล้านบาท

            2. โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีการประเมินตัวเลขอยู่ที่ 500-600 ล้านบาท แต่หากรวมทรัพย์สินของภาคเอกชนจะอยู่ที่ 1,500-2,000 ล้านบาท

            3. สินค้าเกษตร เช่น ภาคประมง กุ้ง เนื่องจากประมงชายฝั่งออกหาปลาไม่ได้ ความเสียหายประมาณ 1,000-1,500 ล้านบาท แต่หากน้ำท่วมขังนานกว่านี้ ความเสียหายจะเพิ่มขึ้น

            4. ความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยว ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อวัน ถ้าหากสถานการณ์ยืดเยื้อเกิน 7 วัน ความเสียหายจะอยู่ที่ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท

            5. ผลกระทบด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการค้า การทำธุรกิจประเภทต่าง ๆ ประมาณ 500-1,000 ล้านบาท

            นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบทางด้านจิตวิทยากรณีที่น้ำไม่ลดอีกประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท และถ้าหากช่วงก่อนสงกรานต์มีฝนตกลงมากอีก หรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำ คาดว่าความเสียหายจะมีอีกประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท

 

 

  ข่าวน้ำท่วม บริจาคผู้ประสบภัยน้ำท่วม คลิกเลยค่ะ

 

 



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นํ้าท่วมภาคใต้ ภัยพิบัติสั่นสะเทือนเศรษฐกิจ อัปเดตล่าสุด 4 เมษายน 2554 เวลา 17:23:43 7,680 อ่าน
TOP