เป็นไรไหม? ถ้าไอโฟนของคุณ กำลังจับตาคุณอยู่ (ไทยโพสต์)
นักวิจัยหลายคนได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันก่อนว่า พวกเขาได้พบอะไรบางอย่างที่คล้ายกับเป็นไฟล์ลับบน iPhone ที่คอยแทร็กโลเกชั่นหรือติดตามตำแหน่งของผู้ใช้และบันทึกเก็บไว้ในเครื่อง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของเครื่อง แต่ยังไม่มีความชัดเจนแน่ชัดว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกใช้เพื่ออะไร และทำไม Apple ถึงเก็บรวบรวมมันไว้ใน iOS โปรดักต์ ที่มีเสารับสัญญาณ 3G มาได้เกือบปีแล้ว
อัลลาสแดร์ อัลลัน นักวิจัยระดับสูงด้านดาราศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ และนักเขียนดัง พีท วอร์เดน ผู้ซึ่งค้นพบล็อกไฟล์ หรือแฟ้มบันทึก และได้สร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลดังกล่าวเป็นภาพ ที่เข้า ใจได้ง่ายขึ้น กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ว่า ข้อมูลเหล่านั้นถูกส่งไปทาง Apple หรือใครบางคน แต่ถึงกระนั้น ดาต้าที่ว่าก็ไม่ได้ถูกเข้ารหัสไว้ ทำให้ใครก็ตามที่สามารถเข้าถึงเครื่องโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ที่เก็บแบ็ก อัพเหล่านั้นไว้ สามารถที่จะได้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตประจำวันของเจ้าของเครื่องได้หมด
เพื่อช่วยให้ผู้ ใช้ได้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกเก็บรวบรวมไว้ อะไรคือความเสี่ยง และสิ่งที่พวกเขาพอจะสามารถทำได้ CNET ได้รวมรวบสิ่งเหล่านี้ลงเป็น FAQ
นักวิจัยเหล่านั้นเป็นใคร แล้วพวกเขาค้นพบมันได้อย่างไร?วอร์เดน ซึ่งเคยทำงานที่ Apple (แต่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับ iPhone) และ อัลลัน ได้เคยร่วมงานในบางโปรเจ็กต์เกี่ยวกับ location data visualization ซึ่งก็รวมถึงการแสดงภาพระดับของรังสีที่วัดได้ในช่วงเวลาหนึ่งในประเทศ ญี่ปุ่นหลังการเกิดแผ่นดินไหว "หลังจากเราได้ขุดคุ้ยต่อไปและได้เห็นข้อมูลที่แตกไฟล์ออกมาได้ มันเริ่มชัดเจนว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเราเป็นจำนวนมาก" พวกเขาเขียนข้อความลงในบล็อก
สิ่งนี้เริ่มขึ้นเมื่อไหร่ และข้อมูลอะไรที่เครื่องกำลังติดตามรวบรวมบันทึก?จากการเปิดเผยของอัลลัน และวอร์เดน การแทร็กข้อมูลเพิ่งมีใน iOS 4 ซึ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2010 เป็น iOS เวอร์ชั่นแรกที่ลดการสนับสนุนดีไวซ์หลายอย่าง เช่น iPhone ตัวแรก สำหรับ iPhone รุ่นต่างๆ และ iPads ที่เป็น 3G-enabled มีการแทร็กข้อมูลเช่นกัน แต่ไม่ชัดเจนว่าจริงด้วยหรือไม่สำหรับคนที่ถืออุปกรณ์ 3G แต่ไม่ได้เปิดบริการคุยสาย
การแทร็กกิ้งดาต้าเพิ่งถูกพบจริง ๆ เมื่อปีที่แล้ว เป็นทูลที่พัฒนาโดยพอล กูร์บิส โปรแกรมเมอร์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งคล้ายกับทูลที่เปิดตัวออกมาโดยอัลลัน กับ วอร์เดน สามารถพล็อตอัพได้มากถึง 10,000 ดาต้าพอยต์จากดาต้าเบสไฟล์ลง กูเกิลแม็พ
แล้วพวกเขาได้ติดต่อแจ้งทาง Apple กับสิ่งที่พวกเขาพบหรือไม่?นักวิจัยนั้นๆ กล่าวว่า พวกเขาได้ติดต่อไปยัง Product Security team ของทาง Apple แล้ว แต่ไม่ได้คุยสาย และไม่ได้รับการติดต่อกลับ
ข้อมูลเหล่านี้ถูกเก็บบันทึกไว้ที่ไหน?ดาต้าเบสของข้อมูลโลเกชั่น ถูกเก็บบันทึกไว้ในโทรศัพท์ของคุณเอง อย่างไรก็ตาม จากระบบการแบ็กอัพเครื่องของ iOS ใน iTunes ไฟล์เหล่านี้สุดท้ายสามารถลงไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย เมื่อ iTunes เซฟแบ็กอัพเหล่านี้ ซึ่งถูกตั้งไว้เป็นดีฟอลต์ให้ระบบดังกล่าวทำงานทุกครั้งเมื่อคุณซิงก์ข้อมูล กับ iOS ดีไวซ์
ที่น่าสนใจคือล็อกเหล่านี้สามารถส่งต่อผ่านอุปกรณ์ได้ หลายตัวตราบเท่าที่อุปกรณ์เหล่านั้นใช้จุดคืนค่าเดียวกัน ดาต้าเบสดังกล่าวถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็กต์ระหว่าง iPhone 3GS กับ iPhone 4 โดยที่ตัวหลังทำการเรียกจุดคืนค่า
อัลลันกับวอร์เดนมีข้อมูล ทางเทคนิคมากกว่านี้ และมีแอพพลิเคชั่นสามารถดาวน์โหลดได้ เพื่อดูภาพแสดงของดาต้าที่เก็บรวบรวมจากโทรศัพท์ของคุณ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่แอพพลิเคชั่นดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้บนเครื่อง iPhones ของ Verizon
อะไรที่อยู่ในดาต้าเหล่านี้?ดาต้าเบสของเสาส่งสัญญาณบันทึกเวลาและค่าต่าง ๆ เพื่อบอกว่า เมื่อไหร่ที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อเข้ามา ซึ่งรวมถึงโอเปอเรเตอร์ค่ายไหนที่คุณกำลังใช้สัญญาณและรหัสประเทศ นอกจากนั้นก็ยังมีข้อมูลของ Wi-Fi เน็ตเวิร์ก ที่คุณเชื่อมต่อด้วยแอพพลิเคชั่นที่ใช้สามารถแสดงจุดใหญ่สีฟ้า เพื่อบ่งบอกสิ่งที่คุณทำเป็นประจำ และจุดเล็กสีแดงหรือส้มบอกกิจกรรมที่เกิดขึ้นน้อยกว่า
อันตรายอย่างไรกับดาต้าต่าง ๆ ที่ถูกเก็บรวบรวมและบันทึกไว้ในเครื่อง?จากการที่สามารถเห็นตำแหน่งหรือโลเกชั่นของคุณโดยไม่ต้องขออนุญาตทาง Apple ได้ทำให้ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นทั้งลับและไม่ลับ ไล่ตั้งแต่คู่สมรสขี้หึงจนถึงนักสืบ เพื่อล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของคุณทั้งหมด
แล้วเราจะสามารถปกป้องข้อมูลไม่ให้คนอื่นเห็นได้อย่างไร?ดาต้าไฟล์ ในตัวของมันเองไม่ได้มีการเข้ารหัสอะไรเลยแม้แต่น้อย เท่ากับว่า ใครก็ตามที่หยิบคว้าโทรศัพท์ของคุณไปสักแป๊บก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างอิสระ ในมุมของ iTunes นั้นมีออพชั่นให้ทำการเข้ารหัสแบ็กอัพของคุณ ซึ่งก็พอจะช่วยได้บ้างบนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยตอนต่อเครื่องเรียกใช้ iPhone ให้ติ๊กที่ Encrypt iPhone Backup ใน Options ส่วนบนเครื่อง iPhone หรือ iPad 3G ทางดีสุดคือ ไม่ให้ใครฉกเครื่องคุณไป และไปหา Find My iPhone แอพฯ ฟรีของ Apple มาใช้ เพื่อช่วยคุณรีไมต์เข้าไปล้างข้อมูลได้หากเครื่องหายหรือถูกขโมย
ประเด็นนี้เริ่มมีการถกเถียงกันมากขึ้นในสัปดาห์นี้ และมีการฟันธงแล้วคือ ทาง Apple เจตนาที่จะให้มีการบันทึกข้อมูลดังกล่าว ในคอนเฟอเรนซ์ Apple ไม่ขอตอบในหลาย ๆ คำถาม (ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารวมถึงเรื่องฟ้อง Samsung แล้วเจอฟ้องกลับหรือเปล่า) ขณะที่ Google ซึ่ง HTC Android ถูกพบว่า มีการบันทึกข้อมูลด้วยแล้วเช่นกัน ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย จึงไม่สามารถให้รายละเอียดตรงนั้นได้ อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในเครื่องเหล่านั้นก็เป็นประโยชน์อยู่เช่นกัน โดยมีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเรียกข้อมูลดังกล่าวเพื่อช่วยในการ สืบค้นและตรวจสอบคดีอาชญากรรมมาแล้ว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก askoo.fr , osxdaily.com, apple.com
