กกต.กำหนดห้ามนำสถาบัน ไปหาเสียง (ไอเอ็นเอ็น)
กกต. ประชุมพรรคการเมือง และกำหนดเกี่ยวกับห้ามนำสถาบันไปหาเสียงเป็นข้อควรปฏิบัติ โดยพรรคการเมืองส่วนใหญ่เห็นด้วย
วันนี้ (2 พฤษภาคม) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. เป็นประธานเปิดการประชุมผู้บริหารพรรค โดยได้กล่าวขอความร่วมมือให้ทุกพรรคการเมือง ดำเนินการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ให้เป็นอย่างสุจริตเที่ยงธรรม พร้อมกับยอมรับผลการเลือกตั้ง และขอให้ทำความเข้าใจกับกลุ่มมวลชนต่าง ๆ ที่สนับสนุนพรรค ให้ออกมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบสิทธิ์ของกฎหมาย
ทั้งนี้ ได้มีหัวหน้าพรรคและตัวแทนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพียงกัน อาทิ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ซึ่งจากที่ กกต. ได้มีการเชิญทั้งหมด 55 พรรค ปรากฏว่ามี 9 พรรคการเมือง ที่ไม่ได้เดินทางมาเข้าร่วมประชุม อาทิ พรรคการเมืองใหม่
ทางด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงการประชุมผู้บริหารพรรคการเมืองในวันนี้ว่า เป็นการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองจากทุกพรรค เข้าร่วมรับทราบแนวทาง และร่วมหารือถึงประเด็นการหาเสียงเลือกตั้ง โดยเบื้องต้นจะเป็นการหารือถึงการกำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่าย ในการเลือกตั้ง ที่เดิมกำหนดไว้ 1,500,000 บาท ว่าจะเพียงพอและต้องมีการปรับเพิ่มหรือปรับลดหรือไม่ รวมถึงการขอความร่วมมือ ไม่ให้นำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ในการหาเสียงเลือกตั้ง ตลอดจนการสอบถามถึงความพร้อมของพรรคการเมือง ในการลงสัตยาบัน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการหารือถึงระเบียบของ กกต. ถึงการกำหนดว่ามิบังควรนำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาหาเสียงเลือกตั้งว่า ระเบียบดังกล่าวถือเป็นข้อบังคับหรือข้อควรปฏิบัติ ซึ่ง นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. ด้านการบริหารงานเลือกตั้ง ชี้แจงว่าเป็นข้อควรปฏิบัติที่พรรคการเมืองควรดำเนินการ
ขณะที่ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แสดงความเห็นด้วย และพร้อมกับให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตาม เช่นเดียวกับ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่เห็นว่าควรมีการกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจน รวมทั้งอยากให้การดำเนินการดังกล่าว เป็นการกระทำความผิดเฉพาะตัว ไม่โยงไปถึงพรรคการเมือง ซึ่ง กกต.ก็รับที่จะนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณารายละเอียด
ดังนั้น ทุกพรรคการเมือง ได้เห็นความร่วมมือในการลงนามพันธสัญญาของพรรคการเมือง ว่าด้วยความร่วมมือในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2554 ที่มีข้อกำหนดว่า มิบังควรจะนำสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง และจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย ระเบียบประกาศอันเกี่ยวกับการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด รวมทั้งจะไม่ใช้กับกลไกของรัฐ หรือทรัพยากรของรัฐมาเป็นประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้ง และจะหาเสียงเลือกตั้งโดยสันติวิธี ไม่ข่มขู่คุมคามด้วยวิธีการใด ๆ และไม่ใช้วิธีการรุนแรงในการเลือกตั้ง รวมทั้ง จะต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ตามที่ประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการเลือกตั้งอย่างจริงใจ
