เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก leggo.it
ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอยู่ไม่น้อย ที่เด็กคนหนึ่งที่มีแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่บนใบหน้า ซึ่งเกิดจากการประสบอุบัติเหตุเมื่อวัยเด็ก ต้องใช้เวลานานถึง 13 ปี ในการรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขา และรอการศัลยกรรมใบหน้าขึ้นมาใหม่
โดยเดลีเมล์ สื่อดังของอังกฤษรายงานเมื่อ 18 พฤษภาคมว่า เด็กคนดังกล่าวมีชื่อว่า เลวิส อัลส์ตัน วัย 14 ปี ชาวอังกฤษ มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้า ซึ่งมีผลมาจากการประสบอุบัติเหตุ คลานจากเตียงและพลัดตกลงหม้อน้ำร้อน เมื่อครั้งที่เขาอายุได้เพียงแค่ 4 เดือนครึ่งเท่านั้น จากอุบัติเหตุดังกล่าว ทำให้ เลวิส ได้รับบาดแผลตั้งแต่ ข้อมือทั้ง 2 ข้าง หน้าอก ยาวเรื่อยมาจนถึงบริเวณใบหน้าทั้งหมด ซึ่งแพทย์ได้ทำการตัดจมูกของเขาออก ทำการศัลยกรรมด้วยการใช้ผิวหนังจากขา มาใช้ปะในส่วนของปาก จมูก และดวงตา ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธที่จะสร้างจมูกของเขาขึ้นมาใหม่จนกว่าเขาจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น
โดยในช่วงเวลาตั้งแต่วัยเด็กเรื่อยมาจนมาถึงช่วงวัยรุ่นนั้น เลวิส ต้องถูกเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนล้อเลียนเรื่องแผลเป็น และวิ่งหนีตัวเขาอยู่เป็นประจำ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาถูกเพื่อน ๆ เรียกกันว่า "เอเลี่ยน" และ "ไอ้หน้าประหลาด"
มาในวันนี้ เลวิส มีใบหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการรักษาโดยมีเงินทุนทั้งจากการระดมเงินและจากการบริจาคผ่านองค์กรการกุศลจนมีจำนวนเงินมากถึง 47,000 ปอนด์ (หรือประมาณ 2,294,000 บาท) เมื่อปี 1998 (พ.ศ. 2541)
ด้าน เรเชล อัลส์ตัน แม่ของเลวิส กล่าวว่า "เลวิสมีจิตใจที่เข้มแข็ง เขาเคยได้รับการผ่าตัดมาแล้วถึง 15 ครั้ง แต่ก็ยังมีทัศนคติที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ เวลาที่เขาไปโรงเรียนก็มักจะถูกเพื่อนล้อเลียน และวิ่งหนีอยู่เสมอ เมื่อเขากลับมาบ้าน ก็จะมาเล่าให้ฟังว่าถูกเพื่อน ๆ ล้อเลียน ซึ่งฉันก็มักจะบอกเขาอยู่เสมอว่า ให้ทักทายกับพวกเขา และหัวเราะเข้าไว้ ซึ่ง เลวิส เองก็ทำแบบนั้นมาโดยตลอด ฉันภูมิใจในตัวเขามาก"
เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องขอยกนิ้วให้ในความใจสู้ ไม่ท้อถอย และยิ้มให้กับปัญหาที่เกิดขึ้นของหนุ่มน้อยเลวิสจริง ๆ