เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย fazhi2006
ณัฐวุฒิ ยันคนเสื้อแดงไม่เรียกร้องเก้าอี้ โต้เสื้อแดงแตกคอ ยันจะหาเวลานั่งคุยกันให้มากขึ้น
วานนี้ (7 กรกฎาคม) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง และว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 ที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกร โดยเนื้อหาส่วนใหญ่ของการสัมภาษณ์เป็นเรื่องบทบาทของคนเสื้อแดงในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย
โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า คนเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิมมาทั้งหมด เคยร่วมงานการเมืองกันมา และเป็น ส.ส.มาอยู่ก่อนแล้วก่อนที่จะเกิดการรัฐประหาร ยกเว้น นพ.เหวง โตจิราการ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ที่ไม่เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่พรรคได้ชักชวนให้มาลงสมัคร ส.ส.เพื่อไทยด้วย เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ประชาชนยอมรับ ดังนั้น พวกตนจึงไม่ได้ใช้ความเป็นคนเสื้อแดงมาลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะจริง ๆ แล้วทำงานด้านการเมืองกับพรรคมาด้วยกันก่อนแล้ว
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่มีกระแสข่าวว่า ทางพรรคเพื่อไทยอาจจะไม่ตั้งคนเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรี เพราะกลัวเกิดกระแสคัดค้าน นายณัฐวุฒิ ตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่คนจะแสดงความคิดเห็นภายใต้วัตถุประสงค์แตกต่างกัน ตนรับฟังและเข้าใจว่านี่เป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง พวกตนเข้ามาทำงานกับพรรคไม่ได้มีข้อเรียกร้องใด ๆ เพราะเข้าใจ และเคารพกระบวนการของพรรคอยู่แล้ว ยืนยันว่า หลังการเลือกตั้ง ตนไม่เคยคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ หรือกรรมการบริหารพรรคคนไหน เพื่อเรียกร้อง หรือหาตำแหน่งอะไร สำหรับตนก็ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารของพรรคว่าจะมอบหมาย หรือไม่มอบหมายอย่างไร ซึ่งจะดูจากเนื้องานเป็นหลัก
สำหรับที่หลายคนมองว่า หากมีแกนนำเสื้อแดงมาเป็นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอาจทำให้รัฐบาลอายุสั้นลงนั้น นายณัฐวุฒิ มองว่า พวกตนได้เป็น ส.ส.อย่างถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตย
"พวกเราไม่ได้หลบซ่อนอยู่ที่ไหนแล้วพอพรรคชนะก็โผล่ออกมา พวกเราแสดงตัวตั้งแต่ต้นในฐานะผู้สมัคร ส.ส. นี่คือสิ่งที่พวกเราได้พิสูจน์ตัวเองผ่านการตัดสินใจของประชาชน และไม่เคยประกาศว่าจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี มีแต่นายอภิสิทธิ์ ที่ประกาศว่าถ้าเลือกพรรคเพื่อไทย จะได้ ณัฐวุฒิ จตุพร เป็นรัฐมนตรี จนพรรคเพื่อไทยได้มา 265 เสียง" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนประเด็นที่ นายเสนาะ เทียนทอง ออกมาพูดว่า ได้คุยกับคนเสื้อแดง และผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยแล้วว่าจะไม่มีคนเสื้อแดงเป็นรัฐมนตรีนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนและพรรคพวกยังไม่ได้สนทนากับนายเสนาะ และไม่ทราบว่า คนเสื้อแดงที่นายเสนาะคุยด้วยหมายถึงใคร แต่อย่างไรก็ตาม นายเสนาะเป็นผู้อาวุโสของพรรค ความคิดเห็นของท่านเราต้องรับฟัง
จากนั้น นายสรยุทธ ได้ถามย้ำว่า แสดงว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เรียกร้องเป็นรัฐมนตรี แต่ก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค หากยังไม่ตัดสินใจว่าจะให้ใครทำอะไร ตนจะไปปฏิเสธหรือตอบรับก่อนก็ไม่ใช่ หากตนปฏิเสธแต่ทางพรรคบอกต้องทำ มันก็ไม่ใช่ เพราะทุกอย่างมันมีขั้นตอนของมัน ต้องปล่อยให้กรอบระยะเวลาเดินไปข้างหน้า และหากแกนนำเสื้อแดงไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็มั่นใจว่าจะไม่มีคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวกดดันแน่นอน
เมื่อถามว่าบทบาทของคนเสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร จะยังมีการชุมนุมอยู่ไหม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คิดว่าหลังจากนี้บทบาทการต่อสู้เรียกร้องของคนเสื้อแดงในรูปแบบการชุมนุมจะลดลง เพราะได้มีการยุบสภาและเลือกตั้งตามประชาธิปไตยแล้ว แต่ยังมีภารกิจการตรวจสอบความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ผ่านมาที่ต้องทำอยู่ รวมทั้งการเยียวยา และคืนความยุติธรรมให้ทุกฝ่าย โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาของคนเสื้อแดง แต่เป็นปัญหาของประเทศ ของทุกรัฐบาลที่ต้องมาตรวจสอบความจริง และยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดจะไปแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ชุดของนายคณิต ณ นคร แต่อย่างใด แต่ทางคนเสื้อแดงจะตรวจสอบคู่ขนานกับ คอป.ไปด้วย
ส่วนประเด็นที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังตรวจสอบเรื่องคดีอยู่นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คาดหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะสามารถขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมให้เป็นธรรมอย่างแท้จริงกับทุกคน ทุกฝ่าย คนที่ถูกดำเนินคดีในฐานะแกนนำ หรือผู้ชุมนุม ก็ยินดีเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก และควรสอบสวนไปยังฟากอำนาจรัฐบ้าง เพราะคนในรัฐบาลก็ก็ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
"ในระยะแรก เราจะไม่ไปเรียกร้องกดดันอะไรเลย เพราะถือว่าเริ่มต้นรัฐบาลใหม่ ต้องให้เวลา ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์พูดว่า คนเสื้อแดงจะไปขี่คอพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องคดี ก็คงเกิดจากอารมณ์ค้างที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล จึงโจมตีพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดงอยู่ทุกวัน แต่สำหรับเราตอนนี้ยังไม่มีรัฐบาลมาบริหารประเทศ เราจะไปเรียกร้องเอาอะไรจากใครได้ ก็ต้องให้เขาตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยสังเกตการณ์ว่าจะเป็นอย่างไร" นายณัฐวุฒิ กล่าว
สำหรับเรื่องที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นหนึ่งใน ศอฉ. และ ศอฉ.ถือเป็นคู่กรณีของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะสามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้หรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเป็นหน้าที่การตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
จากนั้น นายสรยุทธ ได้ถามว่า ทางพรรคเพื่อไทยพยายามจะทำให้เกิดการปรองดอง แต่ฟากคนเสื้อแดงพยายามจะออกมาเรียกร้องคลี่คลายเรื่อง 91 ศพ จะทำให้บรรยากาศขัดกันหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ขัดกัน เพราะการปรองดองคือการเปิดเผยความจริง หากต้องมีคนรับผิดชอบตามกฏหมายก็ว่ากันไป อย่างตนก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการเข้าไปอยู่ในเรือนจำมาแล้ว 9 เดือน ถ้าบ้านเมืองนี้อยู่กันด้วยความจริง แล้วกระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของทุกฝ่ายได้ ก็ปรองดองกันได้
"เรื่องการนิรโทษกรรมถูกคนยกขึ้นมาใช้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ทำให้คนเข้าใจว่า การนิรโทษกรรมเป็นปลายทางของการปรองดอง ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่ เพราะตามหลักการ การนิรโทษกรรมเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งที่อาจจะยกขึ้นมาใช้ หรือไม่ใช้ในการปรองดองก็ได้ แต่เป้าหมายจริง ๆ คือการทำให้คนที่มีความเห็นแตกต่างอยู่ร่วมกันได้ และต้องทำให้สังคมนี้มีสันติภาพ และเสรีภาพอย่างแท้จริง" นายณัฐวุฒิ กล่าว
สุดท้าย นายณัฐวุฒิ ยังได้กล่าวถึงประเด็นที่มีข่าวว่า แกนนำเสื้อแดงแตกคอขับไล่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. ว่า จริง ๆ แล้วเป็นความแตกต่างทางความคิดของกลุ่มนายชินวัฒน์ หาบุญพาด กับนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ พอตนเห็นข่าวนี้ในหน้าหนังสือพิมพ์ ก็ได้สอบถามไปยังคนที่มีชื่อในข่าว ก็ได้ทราบว่า จริง ๆ แล้วเป็นเพียงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนโต๊ะอาหาร ไม่คาดคิดว่าจะออกมาเป็นข่าวในสื่อ สำหรับนายชินวัฒน์ ตนได้โทรศัพท์ไปหารือด้วยแล้ว ทราบว่า นายชินวัฒน์มีความคิดเห็นเช่นนี้จริง ตนจึงได้บอกไปว่า น่าจะคุยกันภายในมากกว่า เพราะคนเสื้อแดงเป็นพี่น้องกัน ร่วมต่อสู้มาด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พี่น้องเสื้อแดงไม่ต้องกังวล เพราะหลังจากนี้ทางพวกตนจะหาเวลามานั่งคุยกันให้มากขึ้น และยืนยันว่าไม่เป็นปัญหาแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก รายการเจาะข่าวเด่นช่อง 3
