x close

สบน.เตือนเศรษฐกิจผิดปกติ ดอกเบี้ยสั้นสูงกว่าระยะยาว






สบน.เตือนเศรษฐกิจผิดปกติ ดอกเบี้ยสั้นสูงกว่าระยะยาว-จองบอนด์เงินเฟ้อ 6.5 หมื่นล้าน (ไทยโพสต์)



           สบน.เตือนเศรษฐกิจไทยเริ่มผิดเพี้ยน ดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าระยะยาว เพิ่มแรงจูงใจนักลงทุนโยกเงินเข้าตราสารหนี้ระยะสั้นมากขึ้น ไม่เชื่อ ธปท.ขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อได้ สะกิดรีบจองซื้อบอนด์เงินเฟ้อ หลังยอดจองพุ่งทะลุ 6.5 หมื่นล้านบาท

           นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณทางเทคนิคที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่าดอกเบี้ยระยะยาว มีผลทำให้เกิดการโยกเงินลงทุนจากตราสารหนี้ระยะยาวไประยะสั้นมากขึ้น โดยที่สภาพคล่องในระบบไม่มีปัญหา และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องมีการออกตราสารระยะสั้นเพื่อบริหารจัดการตลาดเงินมากขึ้น ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดปกติของระบบเศรษฐกิจ

           "ตอนนี้ต่างชาติเข้ามาลงทุนระยะสั้นมากขึ้น เพราะดอกเบี้ยระยะสั้นแพงกว่าดอกเบี้ยระยะยาว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากระบบเศรษฐกิจไม่ปกติ แต่ระบบเศรษฐกิจปกติ ดอกเบี้ยระยะยาวต้องสูงขึ้นระยะสั้น ตอนนี้ดอกเบี้ยระยะสั้นขึ้นเร็วมากแซงดอกเบี้ยระยะยาวที่นิ่ง ๆ ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาทำให้เงินไหลไปลงทุนระยะสั้นมากขึ้น" นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

           ทั้งนี้ การที่ ธปท.ต้องการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยการที่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นการสร้างภาระต้นทุนที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการและประชาชนระดับล่าง แต่ ธปท.ยังไม่สามารถชี้ให้เห็นผลดี-ผลเสียที่เกิดขึ้นในการขึ้นดอกเบี้ยได้ชัดเจน

           "การใช้ดอกเบี้ยควบคุมเงินเฟ้อได้ผลจริงหรือ เพราะ 40% ของเงินเฟ้อมาจากปัจจัยของราคาอาหาร ที่เหลือมาจากน้ำมัน หากขึ้นดอกเบี้ยคุมเงินเฟ้อ ต้นทุนสูงขึ้น แต่ราคาอาหารและพลังงานไม่ได้ลดลง" นายจักรกฤศฏิ์กล่าว

           นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า ผู้ที่สนใจลงทุนในพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (ILB) ที่จะเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 11-13 ก.ค.นี้ ควรรีบไปจองซื้อ เพราะคาดว่าวงเงินจะเต็ม 4 หมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็ว และในปีงบประมาณนี้จะไม่มีการออกจำหน่ายเพิ่มอีก เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการลงทุนมากกว่าวงเงินที่ตั้งไว้ถึง 1.6 เท่า หรือ 6.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีการจองซื้อถึง 5.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นนักลงทุนต่างชาติ 2.5 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนในประเทศรวม 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นนักลงทุนสถาบัน 2.4 หมื่นล้านบาท และนักลงทุนรายย่อย 4,000 ล้านบาท

           ทั้งนี้ สบน.คาดว่าจะจัดสรรพันธบัตร โดยนักลงทุนในประเทศ 2 ใน 3 ของวงเงินที่ออกขาย คือนักลงทุนสถาบัน เช่น บริษัทประกันชีวิต กองทุน และสถาบันการเงินต่าง ๆ 1 ใน 3 และนักลงทุนรายย่อย รวมถึงสถาบันที่ไม่แสวงหากำไร เช่น สหกรณ์ของสถาบันการศึกษาและมูลนิธิต่าง ๆ อีก 1 ใน 3 ซึ่งหากรายย่อยจองซื้อไม่หมด จะมีการโอนให้นักลงทุนสถาบันในประเทศเข้าซื้อแทน และอีก 1 ใน 3 จัดสรรให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งล่าสุดมีกองทุนจาก 10 ประเทศ แสดงความสนใจลงทุน

           นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า การจำหน่ายพันธบัตร ILB ไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง เพราะตั้งแต่ที่ สบน.ไปโรดโชว์ต่างประเทศ ก็ไม่มีการสอบถามถึงเรื่องเหล่านี้ รวมถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้งยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถจองซื้อพันธบัตรผ่านธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย



ขอขอบคุณข้อมูลจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สบน.เตือนเศรษฐกิจผิดปกติ ดอกเบี้ยสั้นสูงกว่าระยะยาว อัปเดตล่าสุด 9 กรกฎาคม 2554 เวลา 11:42:31 5,423 อ่าน
TOP