x close

แพทย์ยืนยัน เด็ก10ขวบตายแล้วฟื้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด



น้องจ่อย



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

          แพทย์ยืนยันเด็กชาย 10 ขวบไม่ได้ตายแล้วฟื้น เหตุเด็กไม่เคยเสียชีวิต ชี้ญาติอาจจะเข้าใจผิดไปเอง ขณะที่แม่น้องจ่อยพาลูกชายไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เล็งเปลี่ยนชื่อ พิฆเนศ เป็น บุญมาก

          เป็นข่าวที่คนให้ความสนใจมากที่สุดข่าวหนึ่ง จากกรณี น้องจ่อย เด็กชายพิฆเนศ คล้ายทอง เด็กชายวัย 10 ขวบ ที่ถูกระบุว่า เสียชีวิตไปแล้วถึง 14 วัน แต่กลับฟื้นคืนชีพได้อย่างปาฏิหาริย์ จนสร้างความฮือฮาไปทั่ว ล่าสุด ข่าวนี้ได้กลายเป็นประเด็นใหม่อีกครั้ง เมื่อแพทย์ออกมาระบุว่า น้องจ่อย ไม่เคยเสียชีวิต

          โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา น.พ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เด็กชายคนดังกล่าวไม่เคยเสียชีวิตแต่อย่างใด เพราะมีบันทึกการรักษาไว้อย่างชัดเจน ว่า เด็กมีความบกพร่องของหัวใจตั้งแต่แรกเกิด โดยเส้นเลือดหัวใจห้องล่างขวาตีบตับ ผนังกั้นหัวใจห้องล่างมีรูรั่ว และเส้นเลือดหัวใจเกิน และเคยถูกส่งตัวมารักษายังสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (ร.พ.เด็ก) ตั้งแต่อายุได้เพียง 4 วัน แพทย์จึงได้ผ่าตัดช่วยเหลือครั้งแรกเมื่ออายุได้ 14 วัน ก่อนจะผ่าตัดอีกครั้งเมื่ออายุ 10 ขวบ และต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูเป็นเวลานาน เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

          น.พ.เรวัติ กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันเด็กชายคนดังกล่าวมีอาการดีขึ้นแล้ว แต่มือเท้ายังเป็นสีดำ เพราะเกิดจากขณะที่อยู่ในภาวะวิกฤต ความดันตก ทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายไม่ทัน จนเกิดภาวะขาดเลือด และเลือดแห้งค้างอยู่ แต่จะไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม

          ด้าน น.พ.วิเชาว์ กอจรัญจิตต์ นายแพทย์เชี่ยวชาญศัลยแพทย์หัวใจ ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ กล่าวว่า หลังจากทำการผ่าตัดน้องจ่อยเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เด็กก็มีอาการทรุดลงอย่างมาก และระบบต่าง ๆ ของร่างกายเริ่มล้มเหลวต้องนอนในห้องไอซียูและอยู่ได้ด้วยยา และเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งตอนนั้นแพทย์ได้แจ้งให้ญาติทำใจแล้ว แต่ขณะนั้น เด็กยังไม่เสียชีวิต ซึ่งญาติอาจจะเข้าใจผิดไป และภายหลังเด็กตอบสนองต่อยา จนอาการดีขึ้น และออกจากห้องไอซียูได้เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม และกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ

           ขณะที่นางสมคิด คล้ายทอง อายุ 48 ปี แม่ของน้องจ่อย เมื่อวานที่ผ่านมา (19 สิงหาคม) ได้พาบุตรชายไปตระเวนไหว้พระ และทำพิธีสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา หลังจากเคยบนไว้ในช่วงที่ลูกชายหยุดหายใจ โดยนางสมคิด กล่าวว่า ตอนนี้ได้พาลูกชายไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อบอกกล่าวว่าไม่ลืมที่ได้บนบานไว้ แต่ตอนนี้ครอบครัวมีฐานะยากจน และไม่มีเงินเลย จึงมาบอกกล่าวไว้ก่อนว่าไม่ลืม หากพร้อมแล้วจะมาแก้บนทันที และเตรียมจะเปลี่ยนชื่อลูกชายจากเด็กชายพิฆเนศ เป็นบุญมาก เพราะมีพระทักว่า ชื่อพิฆเนศเป็นชื่อของหัวโขน หัวครูซึ่งเป็นชั้นสูง ไม่ควรที่จะนำมาตั้งชื่อ



ตายแล้วฟื้น

ตายแล้วฟื้น

ตายแล้วฟื้น


[19 สิงหาคม] ตะลึง! 10 ขวบ ตายแล้วฟื้น เผยเห็นนรก-กระทะทองแดง

          เด็ก 10 ขวบ ป่วยหนัก นอนไอซียู 14 วัน ก่อนจะฟื้นอีกครั้ง บอกเห็นวิญญาณล่องลอยเห็นคนตาย-กระทะทองแดง แต่ถูกส่งกลับเพราะยังไม่ถึงเวลาตาย

          วานนี้ (18 สิงหาคม) เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งเหตุประหลาด เด็กตายไปแล้ว 14 วัน แต่กลับฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์ที่ ต.มงคลธรรมนิมิต อ.สามโก้ จ.อ่างทอง โดยเด็กชายรายนี้ ทราบชื่อว่า ด.ช. พิฆเนศ คล้ายทอง หรือ น้องจ่อย อายุ 10 ปี ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเข้ารับการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเด็ก ก่อนจะเสียชีวิตไปแล้วและฟื้นขึ้นมาดังกล่าว

          จากการเปิดเผยของ นางสมคิด คล้ายทอง แม่น้องจ่อย ทราบว่า น้องจ่อยเกิดมามีโรคประจำตัวรุมเร้ามาตั้งแต่เกิด ตนได้นำน้องจ่อยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสามโก้ จ.อ่างทอง ก่อนจะส่งตัวไปทำการผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพฯ ซึ่งน้องจ่อยเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยหมอก็บอกว่าให้เตรียมใจเอาไว้ว่า อาการอาจแย่จนถึงขั้นเสียชีวิตก็ได้ หลังผ่าตัดออกมา น้องจ่อยก็นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูตลอด 14 วัน

          โดยตลอด 14 วันที่อยู่ในไอซียูนี้ น้องจ่อยใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดและไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบใด ๆ ไม่มีความดันในร่างกาย ไม่หายใจ ตัวเย็นเฉียบ จนหมอและพยาบาลจึงบอกว่าน้องจ่อยตายไปแล้ว และเตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจออกในวันที่ 9 พฤษภาคม เนื่องจากเห็นว่าเด็กตายแล้วแน่ ๆ เพราะแขนขาเขียวคล้ำไปหมด นิ้วมือและนิ้วเท้าแห้งจนแข็งดำ หงิกงอ ผิวหนังแห้งเกรียม โดยเฉพาะที่นิ้วเท้าด้านขวาแห้งจนหลุดออกมา จึงให้นางสมคิดเตรียมเรื่องงานศพได้เลย แต่นางสมคิดก็ขอเวลาอีกวันหนึ่ง ด้วยรอคอยปาฏิหาริย์ว่าน้องจ่อยจะฟื้นขึ้นมา เพราะเธอได้ไปบนไว้หลายที่มาก

          และวันต่อมา ก่อนที่หมอจะทำการถอดเครื่องช่วยหายใจนั้น นางสมคิด ได้สังเกตเห็นว่าใต้ตาของน้องจ่อยนั้นมีเหมือนเหงื่อซึมตามผิวหนังอยู่ และเท้ากระดิกได้ จึงรีบไปตามหมอมาดู เมื่อหมอเอาเครื่องวัดความดันมาวัด ต่างพากันตกตะลึงในสิ่งที่เห็น เพราะความดันเริ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตัวก็เริ่มอุ่นขึ้น จึงรีบช่วยกันรักษาพยาบาลอีกครั้ง

          ด้านน้องจ่อย ได้เล่าให้ผู้เป็นแม่ฟังว่า ตอนที่นอนอยู่นั้นเหมือนวิญญาณออกจากร่างล่องลอยไปที่ไหนไม่รู้ มีแต่หมอกควัน เห็นคนหลายคนโดนแทงบ้าง เห็นกระทะทองแดง นอกจากนี้ยังพบตาที่ตายไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว แล้วก็เห็นว่ามีผู้ชายและผู้หญิงเดินมาบอกตาว่า ให้พาเด็กคนนี้ไปส่ง เพราะยังไม่ถึงเวลา ตาจึงพามาส่งที่ชั้น 2 ของโรงพยาบาล บอกว่าให้รีบไป เดี๋ยวจะไม่ทัน จากนั้นตาก็หายไปทันที

          อย่างไรก็ตาม นพ.วิเชาว์ กอจรัญจิตต์ แพทย์เจ้าของไข้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การผ่าตัดน้องจ่อยค่อนข้างยากมาก เพราะมีโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง หลังการผ่าตัดพบว่าคนไข้อยู่ในขั้นวิกฤติ แนวโน้มช่วงแรกมีโอกาสเสียชีวิตค่อนข้างสูง แต่แพทย์ก็ทำการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ อย่างไรก็ตาม น้องจ่อยยังมีอาการอีกหลายอย่างที่ต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น อาการเนื้อที่ปลายมือปลายเท้าดำ เพราะเนื้อตายไปแล้ว เป็นต้น



คลิป ข่าว เด็กตายแล้วฟืน





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการเรื่องเล่าเช้านี้  
   



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แพทย์ยืนยัน เด็ก10ขวบตายแล้วฟื้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด อัปเดตล่าสุด 22 สิงหาคม 2554 เวลา 11:57:47 163,824 อ่าน
TOP