เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ไม่ใช่แค่จะทำงานงก ๆ ไปวัน ๆ เท่านั้นนะ นอกจากจะทำงานที่รับมอบหมายให้ดีที่สุดแล้ว ใคร ๆ ก็ต้องแอบหวังเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงานกันอยู่บ้างแหละ หลังจากลองประเมินตามความคิด(แบบไม่เข้าข้าง)ตัวเองดูแล้ว คุณคิดว่าตัวเองก็น่าจะเข้าข่ายได้รับการพิจารณาให้เลื่อนตำแหน่งกับเขาอยู่เหมือนกัน เพราะคุณภาพงานที่คุณทำก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใครเขา(บางทีก็ดีกว่าด้วยซ้ำ) แต่ผลสุดท้ายกลับปรากฎว่าคุณต้องกลับมานั่งกินแห้วช้ำใจซะนี่ เกิดอะไรขึ้นหนอ ???
...ความจริงก็คือ อาจมีคุณสมบัติหรือพฤติกรรมบางอย่างที่คุณมองว่าเป็นเรื่องหยุมหยิม หรือเป็นเรื่องที่คุณคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเสียหน่อย ซึ่งมันก็คงไม่เกี่ยวกับเรื่องงานหรือคุณภาพของงานจริง ๆ นั่นแหละ แต่มันกลายเป็นตัวชี้สำคัญวัดให้คุณด้อยกว่าคู่แข่งคนอื่นที่ทำงานได้เหมือน ๆ กัน เรื่องที่ว่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่น่าสำคัญเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันค่ะ
1. รอยสักแม้มันจะเป็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลที่จะให้รอยสักปรากฎอยู่ที่ส่วนไหนของร่างกายได้ก็ตาม แต่รอยสักก็มักถูกตีความว่าเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความก้าวร้าวหรือหุนหันพลันแล่น แม้ว่าความจริงแล้วคุณจะไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลยก็เถอะ หากบอสของคุณไม่ให้คุณสอบผ่านเพราะเรื่องนี้ล่ะก็ อย่าเพิ่งด่วนตีความหาว่าเขาใจแคบไปล่ะ เหตุผลมันก็มีอยู่เหมือนกัน เพราะการได้รับเลื่อนตำแหน่งนั้นหมายถึงหน้าที่รับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น และต้องพบปะผู้คนหลากหลายขึ้น ทั้งพนักงานด้วยกัน รวมทั้งลูกค้าคนสำคัญด้วย ซึ่งลูกค้าบางรายก็คงรู้สึกไม่ประทับใจนักหากเห็นว่าผู้ที่จะมาทำงานให้มีรอยสักอยู่บนตัว
ทั้งนี้ หากบอสของคุณเห็นรอยสักของคุณเข้าก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการประเมินพิจารณาแล้วล่ะก็ อย่าเพิ่งตระหนกตกใจไป คุณไม่ถึงกับต้องไปลบรอยสักออก เพียงแค่พยายามแต่งตัวให้มิดชิด หรือหาวิธีซ่อนรอยสักเหล่านั้นจากสายตาของผู้คน โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเข้าร่วมการประชุม หรือออกไปพบลูกค้า หรือแม้แต่เข้าร่วมงานปาร์ตี้ของบริษัท เพราะเป็นการส่งสัญญาณบอกบอสของคุณอ้อม ๆ ว่า คุณรู้ดีว่านี่อาจเป็นสิ่งที่ไม่ชวนให้ประทับใจเท่าไหร่ และคุณก็รู้สึกรับผิดชอบกับรอยสักนี้นะ
2. กลิ่นลมหายใจไม่สะอาดคุณไม่จำเป็นขนาดต้องมีกลิ่นลมหายใจสดชื่นตลอดเวลา เพียงแค่รักษาให้มันเป็นกลิ่นสะอาด ๆ ไม่ใช่กลิ่นของกาแฟ กระเทียม หรืออะไรก็ตามที่คุณกินเข้าไปก็พอ การอมยาอม เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหลังอาหารแต่ละมื้อสามารถช่วยคุณได้ หากคุณมีกลิ่นปากที่ไม่ใคร่จะสดชื่นนัก บอสของคุณอาจประเมินว่าคุณคงสร้างความประทับใจที่ไม่ดีนักเมื่อไปพบลูกค้าหรือร่วมประชุมกับคนอื่น ๆ ก็เป็นได้
3. ดำเมี่ยมเพราะแดดเผาอย่างที่เรารู้กันดีว่าแสงแดดนั้นทำลายผิว แต่ที่ยิ่งกว่านั้นคือมันอาจขัดขวางเส้นทางสู่ดวงดาวในหน้าที่การงานของคุณด้วย หากผิวคุณแค่ออกสีแทนแบบคนสุขภาพดีทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มดำคล้ำจนล้ำกว่าสีผิวจริงคุณไปหลายระดับ นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณละเลยที่จะเอาใจใส่ดูแลตัวเอง แล้วยังเสียบุคลิกภาพอีกต่างหาก ขนาดตัวเองยังดูแลให้ดูดีไม่ได้แล้วจะให้บอสเขามั่นใจว่าคุณจะทำงานกับหน้าที่รับผิดชอบที่มากขึ้นให้ดีได้อย่างไรล่ะ
4. เล็บเยินเหมือนหนูแทะคุณไม่จำเป็นต้องเข้าซาลอนเพื่อทำเล็บให้สวยเนี้ยบอย่างเหล่าเซเลบริตี้ทั้งหลาย เพียงแค่ดูแลให้เล็บสะอาดและดูดีอยู่เสมอ ปลายเล็บไม่เป็นรอยขยึกขยักเหมือนโดนแทะเท่านั้นก็เพียงพอ ปลายเล็บเยิน ๆ ของคุณอาจทำให้บอสคิดว่าคุณเป็นคนขี้วิตกกังวล เครียดจัด จนเอานิ้วเข้าปากแล้วนั่งแทะเล็บตัวเอง (ไม่ว่าคุณจะกัดเล็บจริง ๆ หรือไม่ก็ตาม) หากเป็นเสียอย่างนี้ ก็ควรหันมาดูแลเล็บให้เนี้ยบเรียบร้อย หรือเตรียมตะไบเล็บไว้ที่โต๊ะทำงาน หากรู้สึกว่าเล็บเยินเมื่อไหร่ ก็หลบเข้าไปแต่งให้สวยในห้องน้ำเสีย รวมทั้งทาน้ำยาเคลือบให้ดูเงางามสุขภาพดีสักหนึ่งคืนล่วงหน้าก่อนมีการประชุมนัดสำคัญได้ก็ยิ่งดีค่ะ
เป็นเรื่องเล็กที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ยิ่งเมื่อมาเป็นหนึ่งในเกณฑ์การประเมิน(แบบไม่เป็นทางการ)ในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งแล้ว ใคร ๆ ก็ย่อมเลือกคนที่คุณสมบัติครบพร้อมทั้งเรื่องความสามารถและบุคลิกภาพอยู่นั่นเอง เพราะนอกจากจะต้องทำงานเก่งแล้ว ยังต้องเป็นภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัทและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องที่จะตามมาด้วย เอาล่ะ ใครที่เพิ่งจะผิดหวังมาไม่เป็นไรนะคะ เรื่องแบบนี้ปรับเปลี่ยนแก้ไขกันได้ไม่ยาก ยังไงก็สู้กันต่อไปเพื่ออนาคตที่ดีกว่ากันเถอะ !!
