สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
ยิ่งลักษณ์ บอกพร้อมรับฟังทีดีอาร์ไอ หลังถูกตั้งฉายา รัฐบาลดีแต่โม้ ครวญรัฐบาลเพิ่งทำงานไม่กี่วัน ขอเวลาอย่างน้อย 1 ปี จะเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชน
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ตั้งฉายารัฐบาล "ดีแต่โม้" ว่า ตนเองก็รับฟัง แต่วันนี้ทีมงานของกระทรวงพาณิชย์ก็ได้มีการศึกษาถึงข้อห่วงใยและข้อระมัด ระวังตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังทบทวนแผนงานเรื่องของข้าวอยู่ เรื่องของผลงานนั้น คงต้องให้เวลา เพราะวันนี้เราอยู่ในกระบวนการการทบทวนขั้นตอนทั้งหมดที่ผ่านมาว่า จะปรับปรุงอย่างไรให้ดีขึ้น ซึ่งเราเองก็จะค่อย ๆ เร่งรัดผลงานต่าง ๆ ให้ออกมาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ว่าจะทำให้เงินในกระเป๋าประชาชนเพิ่มขึ้น ได้ตั้งระยะเวลาหรือไม่ว่าจะเพิ่มขึ้นได้เมื่อไหร่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า โอ้ เงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็ต้องขอให้นโยบายทุกอย่าง และงานเร่งด่วนในปีแรกได้ออกไปก่อน อันนี้จะมีส่วนเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้คงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี ส่วนเรื่องปากท้อง วันนี้เราเร่งอยู่แล้ว ขอให้เห็นใจเถอะค่ะ เพิ่งทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ให้เวลาหน่อยนะ ถ้านับอายุงานจริงๆ หลังจากแถลงนโยบาย จนถึงวันนี้ก็ไม่กี่วันเอง ขอประชาชนใจเย็นๆ นิดหนึ่ง จะพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่
ขณะที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้นายอัมมาร ว่า เป็นเพียงนักวิชาการขาประจำ มีอคติส่วนตัว และมีนัยทางการเมือง อยากขอให้โอกาสรัฐบาลในการทำงานก่อน เพราะขณะนี้โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลจะเริ่มต้นในวันที่ 7 ต.ค. เพราะที่ผ่านมารัฐบาลตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ก็เคยพิสูจน์แล้วว่าหลายโครงการทำได้จริง แม้จะถูกวิจารณ์ตั้งแต่แรก อาทิ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โครงการเอสเอ็มแอล เป็นต้น
"จึงอยากท้านายอัมมารว่า กล้าที่จะใช้ตำแหน่งเดิมพันหรือไม่ หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสามารถดำเนินนโยบายได้จริง เนื่องจากการออกมาพูดครั้งนี้ก็เหมือนว่านายอัมมารดีแต่พูด สอดคล้องกับพฤติกรรมของพรรคการเมืองบางพรรคที่มีผู้นำที่ดีแต่พูด" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
[5 กันยายน] TDRI อัดยับนโยบายจำนำข้าว ตั้งฉายา รัฐบาลดีแต่โม้
ทีดีอาร์ไออัดยับ "นโยบายจำนำข้าว" ชี้สร้างภาระหนักให้รัฐบาลถึงแสนล้านบาท ด้าน อัมมาร จวกรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ "รัฐบาลดีแต่โม้"
เมื่อวันที่ 4 กันยายน นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้เปิดแถลงข่าวนโยบาย "กลับไปสู่การจำนำข้าวเปลือก" ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า การรับจำนำข้าวในราคาสูงนั้นจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวสารเพื่อการบริโภคในประเทศ หากรัฐบาลไม่มีวิธีบริหารจัดการที่ดีในการจัดทำข้าวถุงแล้ว จะทำให้ไม่เพียงพอต่อการบริโภค และเกิดปัญหาแย่งซื้อข้าวเหมือนกับแย่งซื้อน้ำมันปาล์ม รวมทั้งพ่อค้าจะแย่งซื้อและกักตุนไว้เพื่อเก็งกำไรด้วย และที่ผ่านมาโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2547-2552 ยังทำให้รัฐบาลมีหนี้คงค้างกับ ธ.ก.ส. 1.42 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
ทางด้านนายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเช่นกันว่า มาตรการรับจำนำข้าวจะสร้างภาระการคลังให้ประเทศ แม้จะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นก็ตาม แต่ก็จะสร้างภาระมากขึ้นกับรัฐบาลด้วย เพราะหากราคาข้าวสูงขึ้น คนก็จะหันมาปลูกข้าวกันมาก คุณภาพจะต่ำลง และสต็อกข้าวรัฐบาลก็จะสูงขึ้น ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาดินพอกหางหมูแก่รัฐบาลเอง
พร้อมทั้งจวกรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อไปว่า นโยบายรัฐบาลนี้ต่างจากนโยบายยุคทักษิณ เพราะทักษิณพูดแล้วทำ แต่เวลานี้เห็นนักการเมืองกำลังหันซ้าย-หันขวาในการแก้ปัญหานโยบายที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน และโม้ไปวัน ๆ จึงอยากตั้งฉายา รัฐบาลนี้ดีแต่โม้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
