เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก The PEDIGREE Adoption Drive
กลายเป็นแอพพลิเคชั่นสุดฮิตในเฟซบุ๊กตลอดช่วงเวลา 3-4 วันที่ผ่านมาเลยทีเดียว สำหรับ Dog-a-like แอพพลิเคชั่นที่ให้ชาวเฟซบุ๊กได้เทียบหน้าตาของตัวเองกับสุนัข ซึ่งได้ถูกนำไปเล่นกันอย่างกว้างขวาง จนในที่สุดก็เป็นเรื่องเข้าให้แล้ว เมื่อเจ้าของเพจ Dog-a-like ได้ออกมาชี้แจงขอให้คนไทยหยุดเล่นแอพพลิเคชั่นนี้ หลังจากถูกนำไปเล่นกันผิดวัตถุประสงค์จนนำมาซึ่งความวุ่นวายให้แก่ทีมงานผู้ก่อตั้งเพจ และตอนนี้คนไทยก็ได้ถูกแบนการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร เมื่อเพจ Dog-a-like นี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อความสนุกสนานอย่างที่ใคร ๆ คิดกัน แต่เป็นเพจที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้โครงการ The PEDIGREE Adoption Drive ซึ่งเป็นโครงการหาบ้านให้สุนัขไร้บ้านของออสเตรเลีย ที่ประกาศหาคนใจดีมีเมตตา ช่วยรับอุปการะสุนัขไร้บ้านเหล่านี้ และด้วยความที่สุนัขนั้นมีจำนวนมาก ทางโครงการจึงมีการจัดตั้งเพจดังกล่าวขึ้นมา เพื่อให้ชาวออสเตรเลียที่พร้อมจะอุปการะสุนัข ได้เข้ามาจับจองเป็นเจ้าของสุนัข ด้วยการกด like เพจดังกล่าวแล้วเปิดใช้แอพพลิเคชั่น Dog-a-like โดยอัพโหลดรูปของตัวเองลงไปแล้วโปรแกรมก็จะสุ่มเลือกสุนัขขึ้นมา 1 ตัว หากพอใจที่รับอุปการะสุนัขที่ปรากฎข้าง ๆ รูปตัวเองแล้ว ก็สามารถกด Adopt เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสุนัขตัวนั้น และแน่นอนว่า สุนัขตัวใดที่ถูกกดปุ่ม Adopt ไปแล้ว ก็จะไม่แสดงขึ้นเป็นตัวเลือกสำหรับคนต่อ ๆ ไปอีก
แต่แล้วความวุ่นวายของโครงการนี้ก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน เมื่อมีคนไทยไปพบเข้า และไม่ยอมอ่านเงื่อนไขและวัตถุประสงค์ของแอพพลิเคชั่นนี้ให้ดี เลยจับเอารูปตัวเองไปเทียบกับหน้าสุนัข และแอพพลิเคชั่นนี้ก็ถูกคลิกต่อ ๆ กันไปจนกลายเป็นแอพพลิเคชั่นสุดฮิตที่ถูกนำไปเล่นกันอย่างสนุกสนาน และแน่นอนว่า มีคนจำนวนไม่น้อยที่เผลอไปกด Adopt หรือรับอุปการะน้องหมาตัวนั้นเข้าโดยไม่คิดถึงผลที่จะตามมา ทั้งอีกหลายคนยังตามไปโพสต์รูปอวดความน่ารักของน้องหมาตัวเองลงในเพจโครงการมากมาย นำมาซึ่งความปั่นป่วนของทีมงานโครงการ The PEDIGREE Adoption Drive ต้องออกมาชี้แจงขอร้องให้คนไทยหยุดเล่นเพื่อความบันเทิงกันก่อนที่จะวุ่นวายไปมากกว่านี้ โดยเขียนข้อความภาษาอังกฤษประกาศไว้ในเพจ มีใจความดังนี้
"เราดีใจที่มีคนสนใจเว็บเพจนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนไทย ปัญหาสุนัขไร้บ้านเป็นปัญหาระดับโลกที่เราต่างก็รู้กันดี แต่อย่างไรก็ดี เพจ Dog-a-like นี้สร้างขึ้นสำหรับถกประเด็นเรื่องสุนัขไร้บ้านในออสเตรเลีย จึงขอความกรุณาโพสต์เฉพาะข้อความที่เกี่ยวข้องกับสุนัขไร้บ้านเท่านั้นและขอให้โพสต์เป็นภาษาอังกฤษด้วย ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุน"
แต่กระนั้น เรื่องกลับเลยเถิดกันไปใหญ่ เมื่อคนไทยหลายคนแม้จะรับรู้อย่างนั้นแล้วก็ยังไม่หยุด พร้อมกับเข้าไปโพสต์รูปน้องหมา โพสต์ข้อความทั้งขอโทษ ทั้งต่อว่ากันเองในเพจ ทั้งโพสต์ข้อความขยะไร้สาระเป็นภาษาไทยในหน้าเพจโครงการของบ้านเขากันอย่างมากมาย
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ทางทีมงานผู้ก่อตั้งเพจได้ตัดสินใจบล็อกโพสต์ทุกโพสต์จากประเทศไทย และไม่อนุญาตให้คนไทยเข้าเพจดังกล่าวแล้ว โดยได้ชี้แจงว่า ทางเพจต้องการจำกัดเฉพาะคนที่สนใจจะรับอุปการะสุนัขและถกปัญหาเกี่ยวกับสุนัขเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น และเกรงว่าจะเป็นการไม่เหมาะสมที่มีการใช้ภาษาอื่น พูดคุยในเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับสุนัขไร้บ้าน ดังนั้น จึงขอบล็อกการเข้าถึงจากประเทศไทยทั้งหมด
จากเหตุการณ์นี้ นับเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนให้เห็นถึงนิสัยของคนไทยบางกลุ่มกับการใช้อินเทอร์เน็ตว่า คนกลุ่มนี้นอกจากจะรักสนุกและขาดความรอบคอบในการพิจารณาที่มาที่ไปของแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังคิดว่าตนเองสามารถทำอะไรบนโลกอินเทอร์เน็ตก็ได้ ยิ่งกับต่างชาติต่างภาษาที่ยากจะมาเอาผิดได้ ก็ยิ่งไม่ละอายที่จะแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกไป โดยเห็นได้จากการเข้าไปโพสต์ข้อความต่อว่าและกระหน่ำข้อความต่าง ๆ นานา ซึ่งไม่เกี่ยวกับเพจของเขาที่ก่อตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการและเป็นเพจเฉพาะกิจ แม้ว่าทางเพจจะออกมาชี้แจงขอให้หยุดการเล่นสนุกและหยุดโพสต์ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม จนกระทั่งทางเพจต้องใช้วิธีที่เด็ดขาดที่สุด นั่นคือการบล็อกแอคเคาท์จากประเทศไทยทั้งหมดดังที่กล่าวมาข้างต้น