รับบะหมี่-นมขาดตลาดจำกัดซื้อ 'พาณิชย์'บีบพ่อค้าห้ามขูดรีด-กักตุน (ไอเอ็นเอ็น)
ห้างรับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม และน้ำดื่ม เริ่มขาดตลาด หลังน้ำท่วมสูง การขนส่งสินค้าทำได้ยากขึ้น เผยตอนนี้เริ่มจำกัดจำนวนการซื้อสินค้า หวั่นผู้บริโภคตุนเกินงามจนขาดแคลน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้างค้าปลีกต่าง ๆ ในเขต กทม.และปริมณฑล ยังมีประชาชนแห่เข้าไปซื้อสินค้ากักตุนไว้จำนวนมาก ทำให้สินค้ากลุ่มบะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง ไม่มีวางขายแล้ว และบางห้างก็จำกัดการซื้อบะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม และน้ำดื่ม ไว้ที่ 6 ชิ้นต่อครอบครัวเท่านั้น ทั้งห้างค้าปลีก บิ๊กซี และท็อปส์ เนื่องจากโรงงานผลิตสินค้าดังกล่าว ไม่สามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่มียอดสั่งซื้อสินค้าเข้ามาจำนวนมากได้ และยังถูกผลกระทบจากน้ำท่วมทำให้การขนส่งไม่สะดวกและต้องล่าช้าจากำหนดการเดิมไปหลายวัน รวมทั้งในโรงงานบางแห่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมด้วย
ทั้งนี้ ห้างเริ่มมีการจำกัดการซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าว ด้วยการติดป้ายไว้ว่า จำกัดการซื้อ 6 ชิ้นต่อครอบครัว ก็เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม เพราะเกรงว่าจะมีการกักตุนสินค้าเกินความจำเป็นจนทำให้สินค้าขาดตลาด
นอกจากนี้ ในส่วนของห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส ในสาขาอ่อนนุช พบว่า ไม่มีบะหมี่สำเร็จรูป และปลากระป๋อง วางจำหน่ายแล้ว เพราะมีสต็อกสินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งยังมีประชาชนแห่เข้ามาซื้อสินค้าจำนวนมากในเวลาเดียวกัน ทำให้สินค้าหมดสต็อกชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง เทสโก้ โลตัส พบว่า ผู้บริหารยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลในเรื่องดังกล่าว โดย นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ตแบรนด์ ท็อปส์, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ มาร์เก็ต และฟู้ด ฮอลล์ กล่าวว่า บริษัทได้จำกัดปริมาณการซื้อสินค้าที่จำเป็นทั้ง บะหมี่สำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม และน้ำดื่ม ไว้ที่ 6 ชิ้นต่อครอบครัว ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการให้สินค้ามีเพียงพอกับความต้องการซื้อของผู้บริโภคในทุกสาขา หลังจากที่ผ่านมาลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าในปริมาณที่สูงมาก
ด้าน นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน เร่งออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ห้ามให้ผู้ประกอบการฉกฉวยโอกาสกักตุนสินค้าและจำหน่ายสินค้าสูงเกิน หรือปฏิเสธการจำหน่าย หรือไม่นำสินค้าออกมาจำหน่าย หรือเสนอขายตามปกติ โดยไม่มีเหตุอันสมควร รวมทั้งสั่งให้มีการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน หากกระทำผิดมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หากประชาชนพบเห็นสามารถร้องเรียนได้ที่ สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569
นอกจากนี้ ยังได้จัดชุดสายตรวจเฉพาะกิจ 15 สาย ออกตรวจสอบราคาสินค้า เพื่อป้องปรามการฉวยโอกาสและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด โดยกำหนดโทษสูงสุด และเพิ่มโทษปรับเป็น 2 เท่าจากปกติ พร้อมกับจัดตั้งศูนย์ประสานงานกระจายสินค้าระหว่างผู้ผลิต กับห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ ตลาดสด และร้านค้าย่อย ผ่านสายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบริหารจัดการสินค้าให้มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
