เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศยิ้มรับกระทรวงแรงงาน มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 40% ทำ 7 จังหวัดทะลุ 300 บาทแล้ว แต่ยืดเวลาดีเดย์ไป 1 เมษายน 2555
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีมติเป็นเอกฉันท์จากที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง หรือบอร์ดค่าจ้างให้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำร้อยละ 40 ทุกจังหวัดทั่วประเทศซึ่งจะทำให้ผู้ใช้แรงงาน 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปทุมธานี นครปฐม และนนทบุรีได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททันที โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 จากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 1 มกราคม 2555
ทั้งนี้ สาเหตุที่ต้องเลื่อนวันที่มีผลบังคับใช้ออกไปเป็นวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2555 นั้น เป็นเพราะสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้นายจ้างได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูกิจการดังกล่าว
โดย น.พ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง กล่าวว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าว ก็จะคงอัตรานี้ไปจนถึงปี พ.ศ.2558 สำหรับจังหวัดที่แม้จะปรับค่าแรงขึ้นไปอีก 40% แล้ว แต่ยังไม่ถึง 300 บาท ก็จะไปพิจารณาอีกครั้งในปี พ.ศ.2556 อย่างไรก็ตาม ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้นก่อนว่าจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ หรือภาพรวมดีขึ้น ซึ่งหากภาพรวมดีขึ้น คณะกรรมการก็จะทบทวนการขึ้นค่าจ้างอีกครั้ง และอาจจะเร็วกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้
ทางด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงมาตรการช่วยเหลือธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปรับค่าจ้างในครั้งนี้ว่า จะมีมาตรการเรื่องการลดเงินสมทบประกันสังคมฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างฝ่ายละ 1.5% โดยให้ครอบคลุมแรงงานในระบบประกันสังคมกว่า 9.6 ล้านคน รวมทั้งการใช้กองทุนกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมาใช้ฝึกพัฒนาฝีมือแรงงานให้เพิ่มผลิตภาพแก่ผู้ประกอบการต่อไป และยังมีในส่วนโครงการปล่อยเงินกู้ ดอกเบี้ยต่ำอัตราคงที่ 2-3 ปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท แก่ผู้ประกันตนและผู้ประกอบการในระบบประกันสังคมที่ได้พิจารณาไว้พร้อมแล้ว คาดว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมวันที่ 25 ตุลาคม นี้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
