x close

นายกฯ ยันไม่เจาะถนนระบายน้ำ ชี้แก้ปัญหาไม่ได้



   



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra

          ยิ่งลักษณ์ ยันไม่เจาะถนน เพื่อระบายน้ำตามเอกชนเสนอ ย้ำไม่ย้าย ศปภ.ในช่วงนี้ด้วย ชี้อาจกระทบเจ้าหน้าที่ได้

          เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวก่อนที่จะลงพื้นตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในย่านรังสิตบริเวณคลอง 9 และคลอง 10 ว่า วันนี้ตนได้สั่งให้คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการระบายน้ำ และกรมชลประทาน ไปสำรวจถนน 5 จุดที่มีข้อเสนอให้เจาะถนน เพื่อระบายน้ำ โดยตนได้ให้ทดลองเจาะ 1 จุด ที่ถนนเลียบชุมชนรังสิตคลอง 9 ว่าจะช่วยระบายน้ำได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ ตนขอร้องให้ทุกคนสลายสี ไม่มีพรรค ช่วยเหลือกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไปด้วยกันได้

          นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สำหรับการเจาะถนน 5 สายนั้น ตนได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและกรมชลประทาน บินสำรวจเส้นทางเพื่อดูว่าจุดไหนที่สามารถทำการทดลองเจาะปลายถนนได้ ทั้งนี้ต้องไม่มีผลกระทบ และน้ำสามารถไหลผ่านได้ ซึ่งต้องคำนึงถึงประโยชน์ และผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนด้วย แต่ถ้าหากการเจาะถนนไม่สามารถทำได้ ก็จะเร่งระบายออกทางฝั่งขวา ตามคลองระพีพัฒน์ และคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ซึ่งขณะนี้น้ำบางส่วนเริ่มมีการระบายออกทางคลองแสนแสบ ซึ่งยังคงรับน้ำได้อีกมาก

          นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ตนได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อหารือกับชาวบ้าน และได้อธิบายถึงความจำเป็นและแก้ปัญหาส่วนรวม ซึ่งประชาชนก็ยินยอม และตนก็ได้ดำเนินการอนุมัติแล้ว คาดว่าจะเสร็จภายในคืนวันที่ 28 ตุลาคม

          ต่อมาภายหลังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวอีกครั้งว่า จะไม่มีการขุดเจาะถนนในพื้นที่ กทม. ตามที่วิศวกรของภาคเอกชนได้เสนอ เนื่องจากเห็นว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาการระบายน้ำได้ พร้อมกับยืนยันว่า ยังไม่ย้ายที่ทำการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.ในช่วงนี้ เนื่องจากเกรงว่า จะกระทบกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในช่วงนี้ยังมีน้ำทะเลหนุนสูง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีการหารือถึงสถานที่กรณีหากมีการย้าย ศปภ. และในเบื้องต้นก็ได้มีการหารือไว้ 2 - 3 แห่ง ซึ่งจะเป็นสถานที่ราชการ และอยู่ในกรุงเทพฯ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก









เสรี ค้านเจาะถนน ระบายน้ำออกทะเลตะวันออก


           ผู้ เชี่ยวชาญ เสนอเจาะถนน 5 สายตะวันออก เพื่อผันน้ำเร็วขึ้น นายกฯ รับข้อเสนอเตรียมพิจารณา ขณะที่ นายเสรี ค้านเจาะไปไม่มีประโยชน์ เอาเวลาไปดูแลฝั่งตะวันตกดีกว่า

           กลุ่มเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและทรัพยากรน้ำ นำโดย  นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริหารบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นายชูลิต วัชรสินธุ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรน้ำ และนายทศพร ศรีเอี่ยม ได้เข้าพบ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอแนวทางการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยการเจาะถนนจำนวน 5 เส้นทาง เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลผ่านได้เร็วขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากพบว่า ระบบระบายน้ำยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ปริมาณน้ำจึงไม่ไหลเข้าเครื่องผันน้ำได้มากเพียงพอ

           ทั้งนี้ เมื่อนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ทราบถึงข้อเสนอดังกล่าว ก็ได้มอบหมายให้คณะนายนินนาท ร่วมประชุมหารือกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว. คมนาคม กรมทางหลวง กรมชล ประทาน และกทม. เพื่อหาแนวทางในการดำเนินการดังกล่าว รวมทั้งศึกษาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ก่อนที่จะสรุปผลและนำส่งนางสาวยิ่งลักษณ์ให้พิจารณาอีกครั้ง

           โดย นายนินนาท ได้เปิดเผยว่า เส้นทางที่จะเจาะถนนเพื่อระบายน้ำนั้น มีอยู่ 5 เส้นทางคือ  ถ.ประชาร่วมใจ ถ.ราษฎร์อุทิศ ถ.สุวินทวงศ์ ถ.ร่วมพัฒนา และ ถ.นิมิตรใหม่ ซึ่งจะมีการเจาะผ่านถนนดังกล่าว ประมาณ 5-6 เมตรต่อจุด ก่อนสร้างสะพานแบริ่งเพื่อเป็นทางข้ามแทน

           ส่วนทางด้าน รมว.คมนาคม กล่าวว่า ตนขอไปสำรวจเส้นทางที่จะดำเนินการตัดถนนก่อน ซึ่งยอมรับว่า มีถนนของ กทม. และกรมทางหลวง ที่ยังขวางกั้นทางน้ำ ซึ่งหากจำเป็นที่จะต้องตัดถนน ก็ต้องทำ แต่ทั้งนี้จะต้องทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ก่อน ส่วน ถ.บางนา-ตราด หากจำเป็นต้องตัดถนน ก็จะทำโดยไม่ให้กระทบต่อเส้นทางที่จะออกไปยังภาคตะวันออก

           ขณะที่ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้แถลงขอบคุณกรมชลประทาน ที่เปิดเครื่องสูบน้ำเพิ่มจากเดิม 2 ตัว เป็น 35 ตัว จากทั้งหมด 52 ตัว แต่ทั้งนี้ ตนก็อยากให้ตำรวจเข้าไปคุ้มครองเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดให้ได้ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ และอยากให้เร่งออกมาตรการเยียวยาผู้ประสบภัยด้วย รวมทั้งอยากให้พิจารณาเรื่องการเจาะถนนเพิ่มอีก 5 สายนั้น ต้องดูว่าจำเป็นหรือไม่ เพราะถ้าตัดไปแล้วน้ำปริมาณจนข้ามถนนไปได้ก็ไม่จำเป็นต้องเจาะเพิ่ม

           พร้อมกันนี้ ทางด้าน นายเสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต กล่าวว่า พื้นที่ทางฝั่งกรุงเทพฯตะวันออก และกรุงเทพฯเหนือ ได้แก่ เขตรังสิต เขตดอนเมือง และเขตสายไหม น่าเป็นห่วงน้อยลงแล้ว ระดับน้ำเริ่มทรงตัว และบางแห่งก็เริ่มลดลง การไประเบิดถนนเพื่อให้น้ำผ่าน ณ ตอนนี้ไม่มีประโยชน์เลย ควรเอาเวลาดังกล่าวไปดูแลน้ำด้านฝั่งตะวันตกจะดีกว่า


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
    

   






[27 ตุลาคม] นายกฯ สั่งกรมชลฯ - ทล. บินสำรวจ เล็งเจาะถนน

 
        นายกรัฐมนตรี รับฟังข้อเสนอ จากตัวแทนวิศวกรภาคเอกชน ให้เจาะถนน 4 สาย ชี้ ความเสี่ยงเศรษฐกิจเสียหายต่ำ พร้อมสั่งการผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ และศึกษาข้อมูล

         น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวง, กรมชลประทาน, กรุงเทพมหานคร และผู้เชี่ยวชาญทางด้านน้ำ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนพิจารณาเจาะถนน 4 สายในพื้นที่เขตสายไหม โดยการบินสำรวจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนายนินนาท ไชยธีรภิญโญ ตัวแทนวิศวกรภาคเอกชนและคณะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี และได้เสนอแนวทางการเจาะถนนทั้ง 4 สายคือ ถนนประชาร่วมใจ ถนนราชอุทิศ ถนนสุวินทวงศ์ และถนนร่วมพัฒนา เพื่อระบายน้ำลงสู่พื้นที่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร

         ทั้งนี้ นายนินนาท ยังกล่าวอีกว่า แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้มีเวลาเตรียมแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งอัตราการระบายน้ำต่อวันจะมากกว่าการระบายน้ำผ่านระบบของคลองกรุงเทพมหานครทั้งหมดถึง 4 เท่า และมีความเสี่ยงต่อความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจต่ำกว่ามาก

         ล่าสุด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ขึ้นบินสำรวจความเป็นไปได้ในการขุดเจาะ และที่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเจาะถนนแล้ว








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นายกฯ ยันไม่เจาะถนนระบายน้ำ ชี้แก้ปัญหาไม่ได้ อัปเดตล่าสุด 29 ตุลาคม 2554 เวลา 09:04:13 81,574 อ่าน
TOP