เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ป.ป.ช.จ่อเรียกสรรเสริญสอบใหม่ หลังให้ข้อมูลคดีสลายม็อบพาดพิง อภิสิทธิ์-สุเทพ ชี้เปลี่ยนรัฐบาล อาจมีเปลี่ยนข้อมูล
หลังจากที่มีข่าวว่า พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้เข้าให้ข้อมูลคดีเหตุสลายการชุมนุมช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2553 กับเจ้าพนักงานสอบสวน โดยพาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และผู้อำนวยการศอฉ. ด้วยนั้น
ล่าสุด นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะผู้รับผิดชอบสำนวนคดีสั่งสลายม็อบเสื้อแดงในปี 2553 กล่าวว่า อาจจะต้องเชิญ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด มาให้ถ้อยคำคดีดังกล่าวอีกครั้ง เพราะข่าวที่ออกมานั้นมาจากสื่อมวลชน ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่า พ.อ.สรรเสริญ ให้ปากคำอย่างไรไว้บ้าง ซึ่งครั้งก่อนเคยเชิญไป แต่เจ้าตัวยื่นส่งเอกสารชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษร
สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้น นายวิชา ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ โดยเฉพาะกรณีการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และขอผลการชันสูตรพลิกศพ 91 ศพ จากดีเอสไอ โดยสอบถามแยกเป็นราย ๆ ไป ทั้งนี้ ป.ป.ช.ได้ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอรายละเอียดเรื่อง 91 ศพด้วย
ส่วนกองทัพนั้น ขณะนี้ ทางกองทัพได้ส่งรายละเอียดต่าง ๆ มาให้แล้ว แต่เรื่องการตายตรงไหน จุดไหน ยังมีรายละเอียดอีกที่จะต้องดูลึกลงไปอีก เพราะยังมีเรื่อง 91 ศพ ที่จะต้องพิจารณาย่อยลงไปอีก และต้องตรวจสอบกันในรายละเอียด เพราะเมื่อรัฐบาลเปลี่ยนข้อมูลก็เปลี่ยน จากที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นใคร ก็เป็นว่าอาจมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่ยอมรับว่า คดีนี้อาจใช้เวลานาน เพราะติดปัญหาน้ำท่วม ทำให้หลายคนไม่สามารถเข้ามาชี้แจงรายละเอียดได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
[17 พฤศจิกายน] สรรเสริญ ชี้ ทหารรับคำสั่ง อภิสิทธิ์-สุเทพ เหตุสลายม็อบ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สรรเสริญ ยัน กองทัพไม่มีอำนาจปฏิบัติการ เม.ย-พ.ค.เลือด เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่รับคำสั่งพิเศษจาก ศอฉ. ซึ่ง อภิสิทธิ์-สุเทพ เป็นคนก่อตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี 16 ศพ ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้เชิญ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ผอ.กองปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารบก ในฐานะโฆษกศอฉ. ในขณะนั้น และทหารอีก 2 นาย มาสอบปากคำ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ได้ยืนยันตามคำให้การเดิม
ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า นอกจาก พ.อ.สรรเสริญ แล้ว ทหารอีก 2 นายที่ถูกเชิญมาให้ปากคำ คือ พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ เสธ.ร.2 รอ. ซึ่งเป็นผู้นำกำลังมาขอคืนพื้นที่ และ ส.อ.มณี พรหมนอก สังกัด ร.2 พัน.3 รอ. โดย พ.อ.สรรเสริญ ให้การระบุว่า ปกติทหารไม่มีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ภายในเขตเมือง หรือ กทม. เพราะมีภารกิจดูแลเรื่องความมั่นคงของชาติ และปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน แต่ทหารได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อปี พ.ศ.2553 นั้น เป็นเพราะคำสั่งของ ศอฉ. ซึ่ง ศอฉ.เกิดขึ้นจากคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ขณะนั้น เป็นผู้อำนวยการ
รายงานข่าวระบุต่อไปว่า พ.อ.สรรเสริญ ได้กล่าวด้วยว่า การที่ทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นโดยทั่วไป แต่เป็นเรื่องเฉพาะกิจ เนื่องจากปกติแล้ว กองทัพไม่มีอำนาจสั่งปฏิบัติการเช่นนี้ ดังนั้น ทหารจะไม่สามารถนำกำลังพลพร้อมอาวุธเข้ามาปฏิบัติการในเมืองได้เลย แต่ครั้งนั้นเพราะมีคำสั่งพิเศษจากอำนาจของ ศอฉ.เป็นผู้สั่งการ ส่วนเรื่องการปฏิบัติการ การวางแผน การรับคำสั่งของหน่วยงานทหารนั้น พ.อ.สรรเสริญ ได้ระบุว่าเป็นเรื่องที่เคยชี้แจงสังคมไปหมดแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
