


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย telegraphtv
เรื่องราวของความรุนแรงในการประชุมรัฐสภาเกิดขึ้นได้ทุกสภาในโลกจริง ๆ หากความคิดเห็นของทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกันก็สามารถเกิดเป็นเหตุทะเลาะวิวาทได้ อย่างเช่น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ รายงานข่าว ความวุ่นวายในการประชุมข้อตกลงทางการค้าของเกาหลีใต้กับสหรัฐอเมริกา เมื่อมีสมาชิกฝ่ายค้านคนหนึ่งของเกาหลีใต้ ปาระเบิดควันแก๊สน้ำตากระจายไปทั่วห้องประชุม เกิดความชุลมุนวุ่นวายไปหมด
ตามรายงานระบุว่า การประชุมของเกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหารือลงมติการทำการค้าเสรีกับสหรัฐ โดยที่ฝ่ายรัฐบาล คือ พรรคแกรนด์ เนชั่นแนล หรือ จีเอ็นพี ได้ลงมติเห็นชอบให้ทำเอฟทีเอกับสหรัฐ แต่เป็นการเรียกประชุมโดยกะทันหัน และไม่ค้านก็ไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่สมาชิกฝ่ายค้านเป็นอย่างมาก
โดยขณะที่พรรคฝ่ายค้านกำลังคัดค้านมติดังกล่าว ส.ส.ฝ่ายค้านพากันวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่ของอาคารรัฐสภาและตะโกนประท้วงใส่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนที่ด้านนอกอาคารตำรวจพยายามสกัดผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปข้างใน จากนั้น ส.ส.รายหนึ่งจากพรรคแรงงานประชาธิปไตย ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้ปาระเบิดแก๊สน้ำตาไปใกล้ ๆ แท่นอภิปรายของประธานสภา จนเกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งสภา จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องมาลากตัวส.ส.รายนั้นออกไปในขณะที่เขาก็ดิ้นขัดขืนสุดฤทธิ์ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ประท้วงขึ้นอีก จากนั้นที่ประชุมจึงสามารถกลับมาประชุมกันได้อีกครั้งและทำข้อตกลงเอฟทีเอดังกล่าวในที่สุด
หลังจากเกิดการประท้วงนี้ พรรคที่อยู่ตรงข้ามพรรคฝ่ายค้านนี้ก็พากันขอร้องให้ประธานสภาทำสัญญาสั่งบอยคอตผู้ที่กระทำการเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในสภาอื่น ๆ อีก
ทั้งนี้ ส.ส.พรรคจีเอ็นพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสถานีโทรทัศน์ยอนฮัพเทเลวิชันว่า ตัดสินใจผลักดันเอฟทีเอกับสหรัฐฯผ่านการลงมติในสภาเพราะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับฝ่ายค้าน และรัฐสภาสหรัฐฯ ได้ให้สัตยาบันเอฟทีเอนี้แล้วตั้งแต่เดือนก่อน ด้าน ส.ส.ฝ่ายค้านพากันวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่ของอาคารรัฐสภาและตะโกนประท้วงใส่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่วนที่ด้านนอกอาคารตำรวจพยายามสกัดผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้าไปข้างใน
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศนี้จะมีมูลค่ามากกว่า 90 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ก็มีนักการเมืองหลายคนคาดว่า สหรัฐคงได้ข้อได้เปรียบในข้อตกลงนี้มากกว่าและการเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แรงงานสหรัฐ ฯ แต่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ก็เชื่อว่า การทำข้อตกลงในครั้งนี้จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและกระตุ้นการจ้างงานในประเทศได้มากขึ้น แต่ฝ่ายตรงข้ามบอกว่า การทำข้อตกลงนี้ อาจทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนมากขึ้นไปอีก