x close

ไปรู้จักกับ 19 หนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง






ceoworld.biznypost.com


          วันนี้ขอเอาใจคุณสาว ๆ เป็นการพิเศษสักเล็กน้อย เพราะว่าทางเว็บไซต์ businessinsider.com เขาได้ทำการรวบรวมหนุ่ม ๆ ผู้มีความเพียบพร้อม ทั้งในเรื่องของชื่อเสียงอันโด่งดัง รวมไปถึงเรื่องของทรัพย์เงินทองต่าง ๆ ที่ไหลมาเทมาแบบไม่มีหยุด จนสาว ๆ หลายคนอาจจะมีความคิดที่ว่าอยากจะมีส่วนร่วม ในการเป็นคู่ชีวิตด้วยเสียจริง ๆ เลยเชียว

          และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าว่า หนุ่ม ๆ สุดเพอร์เฟ็คท์ที่ว่านั้นจะมีความน่าสนใจมากน้อยขนาดไหน และจะเพียบพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองจริงอย่างที่บอกหรือเปล่าเอ่ยยย..





  1. เจ้าฟ้าชายอมีดีโอแห่งเบลเยียม อาร์คดยุคแห่งออสเตรีย-เอสต์ (Prince Amedeo of Belgium, Archduke of Austria-Este)

          ณ ขณะนี้ พระองค์ทรงมีพระชันษาได้ 25 ปีแล้ว โดยพระองค์ทรงเป็นพระโอรสในอาร์คดยุคลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าชายแห่งเบลเยียม และ อาร์คดัชเชสแอสตริดแห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าหญิงแห่งเบลเยียม นอกจากนี้แล้วพระองค์ยังมีความสนิทชิดเชื้อกับราชวงค์ของประเทศในยุโรปอีกมากมายเลยด้วย ที่สำคัญไปกว่านั้น พระองค์ยังทรงเป็นนักกีฬาที่แข็งแรงมาก ๆ อีกด้วย





  2. เจ้าชายฟิลลิปโปส (Prince Philippos)

          พระองค์ทรงเป็นเจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์ก แต่แม้ว่าพระองค์จะคงดำรงพระอิสริยยศ "เจ้าชาย" แต่สุดท้ายแล้ว เจ้าชายฟิลลิปโปสก็จะไม่มีวันได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แน่นอน เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าราชวงศ์ของกรีกถูกโค่นล้ม และพระบิดาของพระองค์ถูกปลดไปตั้งแต่ปี ค.ศ.1973 แล้ว แต่ทว่าด้วยความที่ไม่เป็นที่สนใจของคนทั่วไปสักเท่าไหร่นัก พระองค์จึงได้มีชีวิตที่เงียบสงบและเรียบง่าย แถมพระองค์ยังให้ความสนพระทัยในเรื่องของความรู้ด้านประวัติศาสตร์และกีฬาอีกด้วย





  3. สตาฟรอส นิอาร์กอส (Stavros Niarchos III)

          เขาคือหนึ่งในทายาทรุ่นที่ 3 ต่อจากรุ่นปู่ละรุ่นพ่อของนักธุรกิจพาณิชยนาวี ที่ร่ำรวยอย่างมากมายมหาศาล ซึ่งจากการประเมินรายได้ของครอบครัวนี้ มีการคาดการณ์กันไว้ว่า ตระกูลนิอาร์กอส จะมีทรัพย์สมบัติรวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และด้วยวัยเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น จึงทำให้เขาเป็นที่จับตามองว่าเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ฮอตไม่แพ้คนอื่น ๆ เพราะเคยตกเป็นข่าวกับเหล่าไฮโซคนดังมาแล้วมากมาย ทั้ง ปารีส ฮิลตัน, แมรี่ เคท โอลเซ่น และ ลินเซย์ โลฮาน





  4. อัลเบิร์ต วอน ธูร์น อุน แท็กซิส (Albert von Thurn und Taxis)

          เจ้าชายชาวเยอรมัน พระชันษา 27 ปี ผู้นี้ เป็นผู้สืบทอดสมบัติของตระกูลหลังจากพระบิดาเสียชีวิตเมื่อปี 1990 มีทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาลที่ได้รับสืบทอดมามากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยทรัพย์สินดังกล่าวมาจากมากมายหลายอย่าง ทั้ง อสังหาริมทรัพย์ บริษัทด้านเทคโนโลยี และพื้นที่ป่าไม้ 300 ล้านตารางเมตรในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ถือครองพื้นที่ป่าไม้ผืนใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในทวีปยุโรป นอกจากแล้ว เจ้าชายอัลเบิร์ตยังติดอันดับที่ 11 ของเชื้อพระวงศ์หนุ่มสุดฮอต จากการจัดอันดับของนิตยสาร "ฟอร์บส์" (Forbes) เมื่อปี 2008 ด้วย






  5. มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg)

          ทุกวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก "เฟซบุ๊ก" (Facebook) และเมื่อพูดถึงเฟซบุ๊ก ชื่อของซัคเกอร์เบิร์ก ก็จะเป็นชื่อในลำดับต้น ๆ ที่จะมีการเอ่ยถึงกัน นับตั้งแต่ที่ซัคเกอร์เบิร์กก่อตั้งเฟซบุ๊กมา ทำให้เขามีรายได้จนเป็นมหาเศรษฐีที่มีอายุน้อยไปแล้ว ด้วยจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 17.5 พันล้านสหรัฐฯ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา เขาทำให้เฟซบุ๊กมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 38% ซึ่งนี่เองจึงทำให้เขากลายเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกมากขึ้น และกลายเป็นคนดังไปในชั่วพริบตา





  6. เจ้าชายแฮร์รี่ (Prince Harry)

          เจ้าชายแฮร์รี ทรงเป็นพระโอรสองค์เล็กในเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระชายาพระองค์แรกผู้ล่วงลับ ทรงดำรงยศทหารชั้นร้อยตรีของกรมทหารม้ารักษาวังแห่งกองทัพบกอังกฤษ อีกทั้ง พระองค์ทรงเป็นผู้บัญชาการรถถัง ซึ่งได้รับการฝึกมาให้นำกลุ่มทหาร 12 นายในหน่วยยานพาหนะลาดตระเวนหุ้มเกราะอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว พระองค์ยังได้รับการยกย่องจากสื่อหลาย ๆ สำนัก ให้เป็นราชนิกุลรุ่นเยาว์ที่เซ็กซี่มากสุดในโลก และเป็นขวัญใจทั้งกับสาว ๆ หลาย ๆ คน รวมถึงเหล่าคุณ ๆ เก้งกวางทั้งหลายอีกด้วย





  7. สก็อต ดันแคน (Scott Duncan)

          สก็อต ดันแคน ร่ำรวยมาจากการสานต่อกิจการของ แดน ดันแคน พ่อของเขากับกิจการ "Enterprise Products" ซึ่งเกี่ยวข้องกับท่อส่งก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงแท่นขุดเจาะน้ำมันตามอ่าวต่าง ๆ ซึ่งโดยรวมแล้ว เขามีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว ที่สำคัญ จากการจัดอันดับมหาเศรษฐีของนิตยสาร "ฟอร์บส์" (Forbes) ยังระบุอีกว่า ด้วยวัยที่ยังไม่ถึง 30 แต่สามารถทำเงินสร้างรายได้อย่างมหาศาลแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงคนขยัน ที่หาตัวจับได้ยากซะจริง ๆ 





  8. เอดูอาร์โด้ ซาเวริน (Eduardo Saverin)

          เมื่อเพื่อนอย่าง "มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก" ได้ดิบได้ดีเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และก่อตั้งเฟซบุ๊กมาด้วยกันอย่าง ซาเวริน ก็เลยได้ติดอันดับเป็นมหาเศรษฐีไปด้วยเหมือนกัน แม้ว่าอีกไม่นานจะอายุย่างเข้าเลข 30 แล้ว แต่ด้วยการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของเฟซบุ๊ก ก็น่าจะทำให้ได้มีเงินเก็บมากกว่าที่มีอยู่อย่างแน่นอน





  9. ฟาฮัด ฮารีรี่ (Fahd Hariri)

          ลูกชายคนเล็กของ "ราฟิก ฮารีรี่" (Rafiq Hariri) นักธุรกิจและอดีตนายกรัฐมนตรีของเลบานอนคนนี้ รับช่วงต่อจากพ่อของเขาในการดูแลธุรกิจก่อสร้างในบริษัท "Saudi Oger" ธุรกิจโทรคมนาคม และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ แถมยังมีธุรกิจสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม "Future TV" ที่แพร่ภาพไปทั่วตะวันออกกลางอีกด้วย ซึ่งว่ากันว่าแค่นี้ก็ร่ำรวยมากพอแล้ว แต่เขายังไม่หยุดงานด้านธุรกิจแต่อย่างใด หากแต่ยังมีแผนที่จะเปิดโรงแรมระดับ 5 ดาวในเมืองอาบูดาบีเพิ่มเติมอีกด้วย ปัจจุบันนี้เขาอาศัยอยู่ประเทศฝรั่งเศส และบริหารงานต่าง ๆ ตามประเทศในทวีปยุโรป





  10. เจ้าชายคาร์ล ฟิลลิป (Prince Carl Philip)

          พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2 ในลำดับการสืบราชบัลลังก์ของราชวงศ์สวีเดน โดยพระองค์จะใช้เวลาโดยส่วนใหญ่ทรงงานอยู่ในกองทัพสวีเดน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่พระองค์มีเวลาว่าง ก็จะให้ความสนพระทัยด้านกีฬามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการแข่งรถ, กีฬาว่ายน้ำ และการเล่นสกี ทั้งนี้พระองค์ทรงมีคู่หมั่นแล้วคือ "โซเฟีย เฮลวิสท์" นางแบบสาว ซึ่งเริ่มคบหาดูใจกันมาตั้งแต่ปี 2008





  11. เจมี่ จอห์นสัน (Jamie Johnson)

          หนุ่มวัยกลางคนผู้นี้ มีดีกรีความร่ำรวยจากการบริหารธุรกิจของครอบครัว แถมยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ในสไตล์อินดี้หน่อย ๆ อีกต่างหาก งานนี้เยทำให้เขากลายเป็นคนดังระดับไฮโซไปโดยปริยาย ว่ากันว่าเขามีทรัพย์สินรวม ๆ กันแล้วไม่ต่ำกว่า 610 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว  





  12. จอห์น เมเยอร์ (John Mayer)

          นักร้องและนักแต่งคนนี้ สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก มีผลงานเพลงที่ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดชาร์ตมาแล้วหลายครั้ง แถมยังเคยคว้ารางวัลศิลปินป็อปฝ่ายชายยอดเยี่ยมกับเพลง "Waiting on the World to Change" และรางวัลอัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม จากเวทีแกรมมี่ในหลาย ๆ ปีมาแล้วอีกด้วย จากการสำรวจล่าสุดทำให้รู้ว่า ณ ตอนนี้เขามีทรัพย์สินรวม ๆ แล้วมากถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าให้แล้ว




  13. เควิน โรส (Kevin Rose)

          เขาคนนี้คือหนึ่งในอัจฉริยะด้านไอทีของโลกที่น่าจับตามองมาก ๆ ด้วยที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง รีวิชั่นทรี (Revision3), ดิกก์ (Digg) และ พาวน์ซ (Pownce) ตามด้วยไปลงทุนร่วมกับสื่อโซเชียลชั้นนำของโลก ทั้ง ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก และ โฟว์ สแควร์ จนทำให้ ณ ณะรี้ เขามีรายได้อยู่ในครอบครองแบบเน้น ๆ มากถึง 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ





  14. แจ็ค ดอร์ซี่ย์ (Jack Dorsey)

          นี่คือเจ้าของสื่อโซเชี่ยลรายใหญ่ของโลกอย่าง "ทวิตเตอร์" (Twitter) ซึ่งเมื่อพูดถึงสื่อนี้แล้ว ก็การันตีได้เลยว่า ในแต่ละวันนั้นเขาเองจะมีรายได้จากจำนวนของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ชนิดที่ว่านับไม่ถ้วนเลยทีเดียว และจากการประเมินรายได้แล้ว พบว่าเขาเองทำเงินจากทวิตเตอร์ไปแล้วถึง 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรียกได้ว่ามีกินมีใช้ต่อไปในอนาคตแบบสบาย ๆ หายห่วง 





  15. โยชิคาซึ ทานากะ (Yoshikazu Tanaka)

          นักธุรกิจสายเลือดซามูไรคนนี้ เป็นมหาเศรษฐีพันล้านเหรียญอันดับที่ 2 ของโลก ที่สร้างความร่ำรวยขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง โดยเป็นรองเพียง นายมาร์ก ณ เฟซบุ๊ก เท่านั้น เขาสร้างสื่อโซเชี่ยลขึ้นมาใหม่ที่มีชื่อว่า "Gree" โดยได้แรงบันดาลใจมาจากทฤษฎี "หกช่วงคน" (Six degrees of separation) ของ สแตนลี่ มิลแกรม (Stanley Milgram) ที่ว่าด้วยเรื่องของความสัมพันธ์เชื่อมโยงของมนุษย์ แถมตัวเขาเองยังเป็นเจ้าของเครื่อข่ายเกมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือของญี่ปุ่นอีกด้วย และด้วยวัยเพียง 34 ปี ก็สามารถสร้างรายได้ไปเหยียบ ๆ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าให้แล้ว





  16. อเล็กซ์ โรดริเกซ (Alex Rodriguez)

          ถ้าพูดถึงในแวดวง เมเจอร์ลีก เบสบอล ของสหรัฐฯ แล้ว เขาคนนี้คือนักกีฬาที่ทำเงินจากการเล่นเบสบอลได้มากที่สุด โดยนับตั้งแต่ที่เริ่มเล่นมาให้กับทีม "นิวยอร์ก แยงกีส์" จนถึง ณ ปัจจุบัน ก็สามารถฟันค่าเหนื่อย ค่าโฆษณา และรายได้อื่น ๆ อีกจิปาถะไปแล้วกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากจะมีชื่อเสียงในความเก่งกาจด้านกีฬาแล้ว เรื่องราวนอกสนามก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน แถมยังเป็นชื่อเสียงในด้านลบซะด้วย เพาะเขาเองเคยมีข่าวฉาว ๆ ว่าเคยโด๊ปยาก่อนลงแข่งขันอีกต่างหาก





  17. ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel)

          จะไม่ให้ร่ำรวย มีเงินมีทองได้อย่างไร สำหรับนักธุรกิจคนนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง "Paypal" และผู้บริหารของ "The Founders Fund" โดยปีเตอร์ถือได้ว่าเป็นบุคคลรายแรกของโลกนี้เลยก็ว่าได้ ที่ช่วยลงทุนในการเปิดตัวเฟซบุ๊ก ด้วยจำนวนเงิน 500,000 เหรียญสหรัฐฯ และลำพังทุกวันนี้ที่รับส่วนแบ่งจากเฟซบุ๊กที่เติบโตขึ้นทุกวัน ๆ ก็ทำให้เขากลายเป็นเสือนอนกินไปโดยปริยาย





  18. ซาเวียร์ นีล (Xavier Niel)

          เขาคือนักธุรกิจและนักลงทุนชาวฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคมหลายใหญ่ของฝรั่งเศสอีกด้วย โดยนับตั้งแต่ที่เขาเริ่มเข้าสู่วงการธุรกิจนี้ เขาก็สามารถฟันกำไรจากกิจการ และสร้างรายได้ขึ้นมาจนถึงปัจจุบันได้มากถึง 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว  





  19. อังเดร บาลาซส์ (Andre Balazs)

          แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 53 ปีแล้ว แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมาด้านงานธุรกิจของเขานั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นนักธุรกิจ เจ้าของโรงแรมอีก 7 แห่งทั้งในมหานครนิวยอร์ก, ไมอามี่ และนครลอสแองเจลิส รวมถึงการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ อีกมากมาย ทำให้เขามีรายได้เข้ากระเป๋าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 450 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แถมยังเคยมีข่าวว่ากุ๊กกิ๊กอยู่กับ "เชลซี แฮนด์เลอร์" ดาราตลกสาวสุดเซ็กซี่อีกด้วย




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไปรู้จักกับ 19 หนุ่มผู้เพียบพร้อม ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง อัปเดตล่าสุด 28 พฤศจิกายน 2554 เวลา 12:05:38 36,260 อ่าน
TOP