เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กรมอุตุเผยฯ วันที่ 15 - 19 ธันวาคมนี้ ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่เข้ามาอีก อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
วันนี้ (14 ธันวาคม) กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงสภาพภูมิอากาศว่า ในช่วงวันที่ 15-19 ธันวาคมว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนกำลังแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยจะมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
ส่วนสถานการณ์ภัยหนาวจากพื้นที่ต่าง ๆ เริ่มที่ภาคอีสาน ที่ จ.กาฬสินธุ์ อุณหภูมิตอนนี้อยู่ที่ 12 องศาเซลเซียส และมีแนวโน้มลดลงอีก 2-3 องศา ขณะที่บริเวณยอดภูเขาหรือตามหุบเขาอุณหภูมิเหลือเพียง 5-7 องศาเซลเซียส ขณะที่ จ.ร้อยเอ็ด ประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทั้ง 20 อำเภอ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 13-14 องศาเซลเซียส
ส่วนที่ จ.เลย อุณหภูมิที่ อ.เมือง อยู่ที่ 11.1 องศาเซลเซียส วังสะพุง 12.5 องศาเซลเซียส ท่าลี่และภูเรือ 11.0 องศาเซลเซียส อ.นาแห้ว 9.5 องศาเซลเซียส ยอดภูกระดึง 6.0 องศาเซลเซียส ยอดภูเรือ 5.5 องศาเซลเซียส และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง 5.0 องศาเซลเซียส ทางจังหวัดต้องประกาศเป็นเขตภัยหนาวแล้ว 11 อำเภอ จากทั้งหมด 11 อำเภอ
ขณะที่ภาคกลางตอนบน จ.พิษณุโลก อุณหภูมิลดต่ำลงไปอีกอยู่ที่ลบ 1 องศาเซลเซียส ที่บริเวณบ้านใหม่ร่องกล้า หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.เมือง เกิดน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งหลายจุด ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างพากันไปดูปรากฏการณ์น้ำแข็งค้างจำนวนมาก
สถานการณ์ที่ภาคเหนือ เริ่มที่ จ.น่าน อุณหภูมิในเขตเมืองลดต่ำเหลือ 11 องศาเซลเซียส ในขณะที่ยอดดอยอยู่ที่ 7-8 องศาเซลเซียส นอกจากชาวบ้านได้รับผลกระทบ พระ-เณร กว่า 1,500 รูป ก็รับผลกระทบ ต้องทนทุกข์ทรมานกับความหนาวเหน็บ โดยเฉพาะวัดที่อยู่ตามชนบทห่างไกล บนดอยสูงขาดเครื่องกันหนาวอย่างหนัก อีกทั้งยังต้องเลื่อนเวลาออกบิณฑบาตจากเดิมออกไปครึ่งชั่วโมง เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ ท้องฟ้าไม่เปิดเลย
ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน ผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอน ประกาศให้ อ.ปางมะผ้า เป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉิน(ภัยหนาว) แล้ว อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เกิดปัญหาที่ไม่สามารถประกาศเขตภัยพิบัติได้ แม้จะมีอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ เพราะไม่มีสถานีตรวจวัดอากาศในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากตามกฎหมายพื้นที่ประกาศเขตภัยพิบัติ ต้องมีอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ติดต่อกัน 3 วัน
ส่วนที่ จ.เชียงราย ที่อ.เมือง อุณหภูมิต่ำสุดเช้าวัดได้ 14.0 องศาเซลเซียส ส่วนตามยอดดอย เช่น ภูชี้ฟ้า จะเหลือเพียง 9-10 องศาเซลเซียส และมีหมอกลงจัดในยามเช้า ทั้งนี้ มีหมอกลงจัดในเขตเทศบาลนคร โดยเฉพาะจุดขึ้นลงสะพานข้ามแม่น้ำกก ซึ่งเกิดอุบัติเหตุกันบ่อยครั้งหากมีหมอกลงจัด ส่งผลให้การจราจรในยามเช้าผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากขึ้น และต้องเปิดไฟหน้ารถเพื่อความปลอดภัย
ด้านสถานการณ์ภัยหนาวที่ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ พบว่า ในช่วงวันหยุดวันที่ 10-12 ธันวาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสอากาศหนาวกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน ขณะที่การพักค้างแรมในอุทยานฯ นั้น ทั้งบ้านพักและลานกางเต็นท์ สามารถรองรับได้ประมาณ 1,200 คน ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวพักเกือบเต็มทั้งหมด จึงอยากแนะนำนักท่องเที่ยวให้มีการตรวจสอบห้องพักก่อนมาเที่ยว เพื่อความสะดวกของท่านเอง
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
