x close

เผยพิทบูล ไข่ตุ๋น ซึม คาดคิดถึงเจ้าของ


 
          เจ้าหน้าที่เผย พิทบูล ไข่ตุ๋น มีอาการเซื่องซึม คาดคิดถึงเจ้าของ ยังไม่รู้ผลตรวจ เป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ ส่วนเจ้าของยังไม่มาดู

          วันนี้ (16 ธันวาคม) นายปรีชา ธีระวุฒิ ผู้ดูแลศูนย์ควบคุมพาหะนำโรคสัตว์ สำนักควบคุมและป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้กล่าวถึงสุนัขพันธุ์พิทบูลที่ชื่อว่า ไข่ตุ๋น ที่กัดมารดาของเจ้าของจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา จนเป็นข่าวดังครึกโครมนั้น หลังจากเกิดเหตุ สุนัขตัวดังกล่าวได้ถูกนำมาไว้ที่ศูนย์ควบคุมพาหะนำโรคสัตว์ สำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ กรมปศุสัตว์ เขตดอนเมือง เพื่อตรวจผลตรวจจากน้ำลายว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่ 

          โดย นายปรีชา ระบุว่า ตั้งแต่สุนัขตัวนี้ (ไข่ตุ๋น) ถูกนำมาไว้ที่นี่ ก็มีอาการเซื่องซึม ไม่ค่อยกินอาหารกับน้ำ คาดว่าน่าจะเกิดจากการคิดถึงเจ้าของ อีกทั้งเวลามีใครเข้าใกล้ก็มักขู่และเห่าไล่ มีอาการหวาดระแวงตลอดเวลา บางครั้งจะมีน้ำลายไหลเยิ้มออกจากปาก ไม่ยอมเข้าใกล้คน

          นายปรีชา ยังกล่าวต่อไปอีกว่า เรื่องการตรวจคงต้องรอผลออกมาก่อน สัตวแพทย์ถึงจะมาดู ส่วนนายศรัญ สมสกุล เป็นเจ้าของนั้น บอกว่าจะเดินทางมาดูในช่วงเช้าของวันนี้ แต่ก็ยังไม่เดินทางมา คาดว่าน่าจะเดินทางไปรับศพมารดาก่อน

 ลูกชายเหยื่อพิทบูล เดินทางรับศพแม่ทั้งน้ำตา  

          ลูกชายเหยื่อพิทบูล เดินทางมารับศพแม่ทั้งน้ำตา ลั่นยังทำใจไม่ได้ ส่วนทางด้าน ปธ.กลุ่มพิตบูล เผยมีเจ้าของสุนัขพันธุ์นี้โทรปรึกษาหาที่ปล่อยหลายราย หวั่นกลัวและทำอันตรายชาวบ้าน
 
          จากเหตุการณ์สุดสลดเมื่อสุนัขพันธุ์พิทบูลเพศผู้ อายุ 2 ปี  ชื่อเจ้าไข่ตุ๋น ได้กระโดดขย้ำ นางสมสกุล สวนไพรินทร์ คุณยายวัย 71 ปี จนเสียชีวิตคาบ้านพัก ย่านสุขาภิบาล 5  เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุคุณยายสมสกุล ได้พักอาศัยอยู่กับแม่บ้านอีก 1 คน ซึ่งกำลังพาเจ้าไข่ตุ๋นและสุนัขตัวอื่น ๆ ออกมาจากกรงเพื่อกินอาหาร แต่แล้วเจ้าไข่ตุ๋นเกิดอาหารคลุ้มคลั่งกระโดดขย้ำกัดใบหน้า และลำคอจนเลือดสาด โดยไม่มีใครช่วยทัน ทางด้านแม่บ้านได้รีบแจ้งไปยังตำรวจ และกรมปศุสัตว์ เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนยิงยาสลบใส่เจ้าไข่ตุ๋นจนหมดฤทธิ์ อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่เกิดขึ้นคาดว่า น่าจะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับเป็นช่วงที่สุนัขติดสัด จึงทำให้มีอาการหงุดหงิด

          ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (15 ธันวาคม) เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรันย์ สวนไพรินทร์ อายุ 46 ปี ลูกชายของ นางสมสกุล ได้เดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากทราบข่าวทันที โดย นายศรันย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ครอบครัวของตนยังทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่ให้อยากเป็นข่าวออกไป เพราะว่าเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจคนในครอบครัวเป็นอย่างมาก และครอบครัวของตนก็เป็นครอบครัวรักสุนัขและเลี้ยงไว้ทั้งหมดถึง 17 ตัว ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ แต่ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงแม่บ้าน หลังคนเลี้ยงเดิมลาออกไป จึงทำให้ยังไม่คุ้นเคยกับสุนัขก็เป็นได้

          ขณะที่ นายดนัยภาพ สวนไพรินทร์ อายุ 46 ปี หลานชายของ นางสมสกุล กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากฤดูติดสัด จึงทำให้มันหงุดหงิด และตนก็ไม่อยากให้มองว่า สุนัขพันธุ์นี้ดุ เพราะความจริงแล้วมันก็เป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบ้านเท่านั้นเอง

เผยคนเลี้ยงแห่โทรปรึกษาปล่อยพิทบูล  

         ทางด้าน นายณัชพล สุพัฒนะ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์พิทบูลโซน และประธานกลุ่มมิตรภาพพิทบูล ได้กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีโทรศัพท์โทรมาหาตนมากกว่า 10 รายเพื่อมาปรึกษาว่าจะนำสุนัขพิทบูลที่เลี้ยงไว้ไปปล่อย เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย ส่วนบางรายก็เล่าว่า ถูกเพื่อนบ้านกดดันให้ไปปล่อย เพราะกลัวสุนัขหลุดไปกัดพวกเขา ซึ่งตนอยากจะแนะนำว่า วิธีการเลี้ยงดูสุนัขพิทบูลที่ถูกต้องนั้น คนในครอบครัวจะต้องแสดงตัวว่าเป็นผู้ดูแลมันทั้งหมด เพราะถ้าเมื่อไรที่คนดูแลไม่อยู่มันก็จะดุร้ายกับคนอื่นที่เหลือ

         นายณัชพล กล่าวต่อว่า สำหรับเจ้าไข่ตุ๋นนั้น อาจจะกลายเป็นสุนัขที่ดุร้าย เพราะถ้าสุนัขตัวไหนที่เคยกัดคนเเล้ว ก็จะมีนิสัยที่ดุร้ายติดตัวไป ส่วนวิธีแก้ปัญหานั้น ในเบื้องต้นคืออย่าไปกลัว และให้เล่นกับเขาตามปกติ แต่ถ้าหากยังไม่ไว้วางใจก็จับสุนัขขังกรงไว้ก่อน

เผยห้ามนำเข้าหมาดุร้าย! แต่ยังลักลอบ

           กรมปศุสัตว์เตรียมออกมาตรการขึ้นทะเบียนครอบครองสุนัขพันธุ์ดุกัดถึงตาย คุมเข้มสภาพการเลี้ยงป้องกันสุนัขเครียด-ทำร้ายคน เผยรอกฎหมายใหม่ลงโทษเจ้าของสุนัขได้ สัตวแพทย์เผยเกมพนันสุนัขกัดกันเป็นตัวเร่งวิญญาณเพชฌฆาตในสุนัข แนะต้องดูแลเป็นพิเศษ ปล่อยให้หิวไม่ได้ หากถูกกัดให้ใช้ไม้งัดขากรรไกร

           นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ถึงกรณีสุนัขพันธุ์อเมริกันพิตบูล เทอร์เรีย กัดเจ้าของเสียชีวิตในบ้านว่า กรมปศุสัตว์มีกฎหมายห้ามนำเข้าสุนัขพันธุ์ดังกล่าวตั้งแต่ปี 2542 เพราะถือเป็นสุนัขดุร้ายที่ต้องควบคุมพิเศษ และไม่เคยตรวจพบการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โอกาสที่จะหลุดรอดเข้ามาเป็นเรื่องยาก เพราะสุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างลักษณะเด่นชัด สุนัขพันธุ์ดุที่มีอยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพิ่มเป็นจำนวนมาก แต่ประเทศไทยยังไม่มีมาตรการควบคุมการเลี้ยงสุนัขดุอย่างเข้มงวด กรณีผู้เสียชีวิตที่เป็นเจ้าของสุนัข ในเบื้องต้นสุนัขอยู่ในช่วงเป็นสัดจึงเกิดอาการเครียดและกัดเจ้าของ แต่จะต้องตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงว่าได้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุอย่างถูกต้องหรือไม่

           นายทฤษดีระบุว่า ขณะนี้กรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างผลักดันร่างพระราชบัญญัติป้องกันทารุณกรรมสัตว์ กฎหมายฉบับนี้อยู่ระหว่างการนำเข้าการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีการห้ามเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุร้ายเพื่อต่อสู้กัดกัน เนื่องจากเป็นการปลุกเร้าสัญชาตญาณสุนัขที่เป็นนักล่าอยู่แล้วให้ดุร้ายมากขึ้น หากปล่อยไว้กับบ้านให้อยู่เฉยๆ ไม่ได้กัดกันก็จะทำให้สุนัขเครียด และระบายความเครียดหรือสัญชาตญาณโดยกัดทำร้ายเจ้าของในที่สุด ดังนั้นประชาชนที่เลี้ยงไว้อยู่แล้วหรือคิดจะเลี้ยงก็ไม่ควรนำใช้เล่นพนันกัดสุนัข และต้องจัดสถานที่เลี้ยงอย่างถูกต้อง

           "ไม่ทราบจำนวนสุนัขอเมริกันพิตบูลและสุนัขพันธุ์ดุอื่นๆ ว่ามีเท่าไหร่ ผมคิดว่าต้องจัดการเรื่องนี้ให้เข้มงวดมากขึ้น โดยจะมีนโยบายให้เจ้าของสุนัขพันธุ์ดุทั่วประเทศต้องแจ้งข้อมูลการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้รู้ว่าสุนัขกลุ่มนี้มีจำนวนที่แท้จริงเท่าไหร่ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เลี้ยง และวิธีการเลี้ยงว่าถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์อยากให้หน่วยงานท้องถิ่น เช่น กทม. ช่วยกำชับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย" อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว และว่า ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ใช้วิธีขอความร่วมมือกับชมรมเพาะเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุให้จำกัดปริมาณอย่างเหมาะสม แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้

           นายทฤษดีกล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะออกกฎระเบียบควบคุมการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุอย่างเคร่งครัด เพราะจะกระทบต่อเสรีภาพประชาชน ในต่างประเทศมีการเก็บภาษีเจ้าของสุนัข แต่ประเทศไทยไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะจะถูกต่อต้านแน่นอน ปัญหาสุนัขกัดคนจนถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บสาหัส ก็จะทำให้มีการออกกฎระเบียบมากขึ้น

           ด้าน น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานพยายามแก้ปัญหาด้วยการออกกฎหมายขึ้นมาควบคุม แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะยังมีกลุ่มผู้นิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุเป็นจำนวนมาก แม้กรมปศุสัตว์ห้ามนำเข้าสุนัขพันธุ์ดุ เช่น อเมริกันพิตบูล ร็อตไวเลอร์ แต่ก็พบการลักลอบนำเข้าลูกสุนัข เหตุที่คนเหล่านี้ยังเลี้ยงสุนัขพันธุ์ดุร้ายคือ คิดว่าสุนัขของตนเชื่อง ไม่ทำอันตรายกับเจ้าของหรือคนทั่วไป และเลี้ยงไว้เพื่อการพนันเกมการแข่งขันต่อสู้ อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้เลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยจะปลอดภัยกว่าสุนัขต่างประเทศ

           "ก่อนหน้านี้ผมได้เตือนมาทุกครั้งที่เกิดเหตุว่า ไม่ควรเลี้ยงสุนัขที่มีลักษณะนิสัยดุร้ายมากกว่าปกติ เพราะเป็นสุนัขที่ผ่านการปรับปรุงสายพันธุ์ที่มีจุดประสงค์เพื่อการต่อสู้ สุดท้ายแล้วสุนัขจะแสดงลักษณะนิสัยที่แท้จริงหรือสัญชาตญาณของมันออกมา ส่วนจะแสดงนิสัยดุร้ายช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเจ้าของด้วยว่าเอาใจใส่ดูแลดีหรือไม่ รวมทั้งปัจจัยการเลี้ยงดูถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์นั้นๆ หรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า เฉลี่ยแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการถูกสุนัขกัดประมาณ 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นสุนัขพันธุ์ดุ" น.สพ.อลงกรณ์เผย

           การเลี้ยงสุนัขที่ดีจะต้องให้ความสนใจกับสุนัขที่เลี้ยงอย่างมาก โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ดุจะต้องได้รับการฝึกฝนจากครูหรือผู้ชำนาญ หากไม่ได้ฝึกก็มีโอกาสสูงที่สุนัขจะแสดงนิสัยดุร้าย ก้าวร้าว ที่เป็นลักษณะเดิมของมันออกมา ดังนั้นการเลี้ยงดูที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเจ้าของจะต้องดูแลตั้งแต่สถานที่เลี้ยง กรงต้องแข็งแรง ไม่คับแคบหรือร้อนจัดจนเกินไป ไม่ปล่อยให้สุนัขอดอยาก หิวโหย เพราะเป็นปัจจัยทำให้สุนัขเกิดความเครียด คุ้มคลั่ง และแสดงความดุร้ายออกมา

           น.สพ.อลงกรณ์แนะนำวิธีช่วยเหลือคนถูกสุนัขกัดว่า ให้ใช้ไม้งัดขากรรไกรของสุนัข ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการกัด ให้ขากรรไกรง้างออกเพื่อให้หลุดจากการถูกกัด เพราะสุนัขพันธุ์เหล่านี้มีขากรรไกรสั้นกว่าปกติ มีเขี้ยวและฟันใหญ่กว่าปกติ หากไม่ได้ผลให้ใช้มือข้างที่ถนัดที่สุด เกร็งมือให้แข็งบีบลงไปที่บริเวณลำคอของสุนัข ซึ่งเป็นส่วนคอหอย หลอดลม บีบให้แรงที่สุด และนานที่สุด ทำให้สุนัขเกิดอาการสำลัก เพราะขาดอากาศหายใจ ทำให้มันต้องปล่อยเหยื่อที่กัดไว้ออกเพื่อสูดอากาศหายใจ ในระหว่างนี้ให้รีบหนีให้ไกลที่สุด

           "ข้อห้ามที่ไม่ควรทำระหว่างที่ถูกกัดและมีอวัยวะร่างกายคาอยู่กับปากสุนัขคือ ห้ามตีหรือทุบลำตัวสุนัขเด็ดขาด เพราะจะยิ่งเพิ่มความโกรธ ความดุร้าย ทำให้สุนัขเพิ่มแรงกัดมากขึ้น จะทำให้บาดเจ็บสาหัสมากขึ้น" สัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง กล่าว.




ขอขอบคุณข้อมูลจาก







[15 ธันวาคม] หมอแนะอย่าเลี้ยงพิทบูล เสี่ยงทำร้ายคนทุกเมื่อ





หมอแนะห้ามเลี้ยงพิทบูลเครียดทำร้ายคนได้ (ไอเอ็นเอ็น)

           สัตว์แพทย์อลงกรณ์ แนะ อย่าเลี้ยง พิทบูล-ร็อตไวเลอร์ บอกสุนัขนำเข้า เครียดได้ตลอดเวลา เสี่ยงทำร้ายคนได้ทุกเมื่อ

           นายสัตวแพทย์ อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง กล่าวกับ สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ในรายการเปิดข่าวเด่นเจาะประเด็นดัง FM 102.75 MHz ว่า สุนัขพันธุ์พิทบูลมีความดุร้ายมาก ตัวใหญ่ สามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ในตอนต้น แต่หากเกิดอาการเครียด ก็จะทำร้ายคนได้ และความแข็งแรงของสุนัขพันธุ์นี้จะพัฒนาตามอายุด้วย ทั้งนี้แนะนำว่าอย่าเลี้ยง ไม่ว่าจะพันธุ์พิทบูล หรือ ร็อตไวเลอร์ ซึ่งห้ามนำเข้าแล้ว แต่ก็ยังมีการลักลอบมาในลักษณะลูกสุนัขอีก

           อย่างไรก็ตามแนะนำว่า เลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทย จะปลอดภัยกว่า เพราะสุนัขต่างประเทศ มีความเป็นไปได้ ที่จะเครียดได้ตลอดเวลา ซึ่งแนะนำว่า อย่าตีสุนัข เพราะจะยิ่งทำให้สุนัขเครียดมากขึ้น






 [14 ธันวาคม] สุนัขพิทบูลเครียด ขย้ำเจ้าของวัย 71 ดับคาบ้าน





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          สุนัขพันธุ์พิทบูลขย้ำเจ้าของวัย 71 ปีดับสยอง คาดเครียดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อยู่ในช่วงติดสัด อีกทั้งคนดูแลลากลับบ้านหลายวัน
 
          วันนี้ (14 ธันวาคม) เวลาประมาณ 12.30 น. มีคนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีคนถูกสุนัขกัดเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 7/201 ม.ชัยพฤกษ์ รามอินทรา เขตบางเขน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่า มีสุนัขพันธุ์อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย เพศผู้ สีน้ำตาล วัย 2 ปี ชื่อไข่ตุ๋น เดินวนเวียนอยู่รอบบ้านด้วยอาการดุร้าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงปืนยาสลบใส่จำนวน 1 นัด ก่อนที่จะเข้าไปยังที่เกิดเหตุ
 
          ภายในที่เกิดเหตุพบ นางสมสกุล สวนไพรินทร์ อายุ 71 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิต มีบาดแผลเต็มศีรษะด้านขวา กะโหลกแตก ผมหลุดเป็นกระจุก และมีรอยฉีกขาดบริเวณลำคอ และใบหน้าด้านซ้าย
 
          จากการสอบปากคำ นางแตงอ่อน อนุศรี แม่บ้านอายุ 65 ปี ว่า ลูกชายของผู้ตายเลี้ยงสุนัขไว้ 4 ตัว มีทั้งพันธุ์ ไทยหลังอาน จรจัด และเจ้าไข่ตุ๋น และเมื่อสัปดาห์ก่อน ลูกชายของผู้ตายได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ซึ่งผู้ตายมีธุรกิจร้านอาหารอยู่ที่นั่น ประกอบกับพี่เลี้ยงที่ดูแลเจ้าไข่ตุ๋น ก็ลากลับบ้านไป ทำให้วันนี้เธอกับผู้ตายอยู่ในบ้านเพียง 2 คน ส่วนลูกสาวและหลานอีก 2 คนของผู้ตาย ออกไปทำธุระกันหมด

          ทั้งนี้ โดยปกติผู้ตายกับสุนัขไม่ได้มีปัญหาอะไร กระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมา (9 ธันวาคม) สุนัขตัวนี้ได้กัดญาติของผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บ 3 วันติดต่อกัน ซึ่งทางผู้ตายก็ไม่ได้ติดใจอะไร จนถึงวันนี้ เวลาประมาณ 12.00 น. ได้ยินเสียงผู้ตายขอความช่วยเหลือมาจากห้องรับแขก เธอจึงรีบเข้าไปดูในบ้านพบว่าสุนัขกำลังขย้ำที่หัวไหล่และลำคอของผู้ตาย เธอจึงพยายามดึงขาและหางของมัน เอาน้ำมาสาดใส่ ใช้เวลานานพอสมควรกว่ามันจะปล่อย
 
          แต่แล้วเมื่อผู้ตายลุกขึ้นไปหลังบ้าน ก็ถูกสุนัขกระโจนใส่อีกครั้ง ครั้งนี้เธอพยายามดึงสุนัขแรงกว่าเดิม แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย และมันก็อยู่ในสภาวะที่ดุดันกว่าปกติด้วย ทำให้เธอไม่กล้าทำอะไรมากนัก จนกระทั่งผู้ตายค่อย ๆ เงียบเสียงร้อง และเสียชีวิตในที่สุด สุนัขจึงหยุดกัด
 
          ด้านนายอำนาจ รุ่งโรจน์ศรีบุญ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เขตหลักสี่ กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สาเหตุที่อยู่ดี ๆ สุนัขเกิดอาการดุร้าย น่าจะเกิดจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อีกทั้งเป็นฤดูติดสัด ซึ่งสุนัขตัวนี้ถูกตอนแล้ว ทำให้ไม่สามารถปลดปล่อยได้จนเกิดความเครียดมากกว่าเดิม
 
          ส่วนเจ้าไข่ตุ๋นนั้นถูกเจ้าหน้าที่นำตัวไปที่ศูนย์อพยพสุนัข จังหวัดสระแก้วแล้ว
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เผยพิทบูล ไข่ตุ๋น ซึม คาดคิดถึงเจ้าของ อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2554 เวลา 16:22:24 120,055 อ่าน
TOP