x close

สหรัฐฯ วอนงดเว้นคำหยาบบนเพจเฟซบุ๊กทูต






เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook US Embassy Bangkok


          ทางการสหรัฐฯ ของดเว้นการใช้คำหยาบผ่านหน้าเฟซบุ๊ค หลังจากเหตุการณ์การออกมาวิจารณ์ กม. มาตรา 112 เผยพร้อมยอมรับความเห็นต่าง

          วันนี้ (16 ธันวาคม) มีรายงานข่าวว่า ทางเฟซบุ๊กของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ขึ้นข้อความขอความร่วมมือให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ที่หน้าเพจ หลังจากที่มีคนไทยแห่เข้าไปเขียนข้อความวิจารณ์ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกมาวิจารณ์ว่าควรมีการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และคำตัดสินคดี นายอำพล ตั้งนพคุณ และคดีของนาย โจ กอร์ดอน ผู้แปลและผู้เขียนหนังสือ เดอะคิง เนเวอร์ สไมล์  หนังสือต้องห้ามภายในราชอาณาจักร

          ทั้งนี้ บนหน้าเฟซบุ๊กของของสถานทูตสหรัฐฯ ได้เขียนไว้บนเพจว่า ทางสถานทูตยอมรับความเห็นที่หลากหลาย แต่ขอให้งดเว้นการใช้ภาษาหยาบคาย รุนแรง ข่มขู่ ก่อนหน้านี้ คนไทยจำนวนมากได้เข้าไปเขียนข้อความวิจารณ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่า ประเทศสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทย และประเทศสหรัฐฯ เองก็มีปัญหาสิทธิมนุษยชนที่จำเป็นต้องแก้ไขเช่นกัน

          อย่างไรก็ตาม นางคริสตี้ เคนนี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย ได้ชี้แจงผ่านทวิตเเตอร์ของเธอว่า ทางการสหรัฐฯ พร้อมยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ขอให้เป็นไปอย่างมีอารยธรรม และก่อนหน้านี้ นายดาเเรจ พาราดิสโซ โฆษกกระทรวงต่างประเทศฝ่ายเอเชียตะวันออก ก็ได้ออกมากล่าวว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ให้ความเคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยมาโดยตลอด แต่ว่าทางการสหรัฐฯ รู้สึกวิตกกังวลต่อคำตัดสินของศาล ที่ไม่สอดคล้องตามหลักสากล ซึ่งนางคริสตี้ เคนนี ก็ได้แสดงความคิดเห็นไปในเชิงเดียวกัน




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก








[15 ธันวาคม] เละ! ชาวเฟซบุ๊กถล่มเพจทูตสหรัฐ เหตุ กม.อาญา 112




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
 
             ชาวโลกออนไลน์ ถล่มเฟซบุ๊กสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย หลังคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ แสดงความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 ทำนองว่า ควรให้ยกเลิก เพราะขัดต่อมาตรฐานเสรีภาพในการแสดงออกในระดับสากล
 
             จากการตัดสินคดี อากง หรือ นายอำพล ตั้งนพคุณ อายุ 61 ปี และคดีนายโจ กอร์ดอน ชาวไทยสัญชาติอเมริกัน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จากการแปลหนังสือเดอะคิง เนเวอร์ สไมล์  หนังสือต้องห้ามภายในราชอาณาจักร ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นภาษาไทย ด้วยการจำคุก 2 ปี 6 เดือน จนนำมาซึ่งการถกเถียงของในประเทศว่า ควรมีการแก้ไขกฏหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่าด้วยเรื่อง "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี" หรือไม่
 
             อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ก็ได้ขยายวงกว้างไปยังสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว เมื่อนางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ที่ได้กล่าวผ่านทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ กังวลใจต่อการตัดสินคดีของนายโจ กอร์ดอน ชายไทย-อเมริกันที่ถูกตัดสินจำคุกในคดีหมิ่นฯ ซึ่งทางการสหรัฐฯ ยืนยันว่า ให้ความเคารพต่อสถาบันกษัตริย์ของไทยอย่างสูงสุด แต่รู้สึกเป็นกังวลต่อการตัดสินที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
 
             ขณะที่ นางดาร์โรห์ พาราดิโซ โฆษกด้านเอเชียตะวันออกของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพิพากษาคดีของอากง ทำนองเดียวกันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เคารพสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอย่างสูงสุด แต่มีความเห็นว่า การฟ้องร้องและคำพิพากษาของศาล ขัดต่อมาตรฐานเสรีภาพในการแสดงออกในระดับสากล
 
             ดังนั้น ในตลอดวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา หน้าเฟซบุ๊กของสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทย จึงเต็มไปด้วยข้อความส่วนใหญ่ที่โจมตีสหรัฐฯ ว่า เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศของไทย ตลอดจนเว็บไซต์  www.siamintelligence.com ได้ยกมาบางข้อความเช่น ...

             "อเมริกา คุณคิดว่าคุณเป็นผู้จัดการของโลกนี้หรืออย่างไร คุณเที่ยวไปแทรกแซงกิจการของประเทศโน้นประเทศนี้ มันกงการอะไรของคุณ ประเทศคุณไม่มีวัฒนธรรมเก่าแก่และดีงามเหมือนประเทศไทย เพราะประเทศคุณไม่เคยมีพระมหากษัตริย์ ประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใครก็เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ เรามีภาษาพูดภาษาเขียนเป็นของเราเอง เพราะพระมหากษัตริย์ ประเทศคุณเสียอีก ชื่อประเทศอเมริกา แต่ใช้ภาษาของประเทศอังกฤษ คุณแทรกแซงเรื่องอื่นเราทนได้ แต่อย่ามาแทรกแซงเรื่องเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ของเรา"
 
             ขณะที่ล่าสุด นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการด้านเอเชียขององค์กรฮิวแมนไรท์ วอทช์  ได้ประท้วงคำตัดสินของศาลชั้นต้นไทย คดีนายอำพล หรืออากง ผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ด้วยการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งจี้ให้ทางการไทยเปิดเผยข้อมูลและจำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับมาตราอาญา 112 ด้วย
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สหรัฐฯ วอนงดเว้นคำหยาบบนเพจเฟซบุ๊กทูต อัปเดตล่าสุด 16 ธันวาคม 2554 เวลา 10:24:11 66,879 อ่าน
TOP