สื่อตั้งฉายาบิ๊กตำรวจ เพรียวพันธ์-ผบ.ตร.ป้ายแดง

 
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ , ครอบครัวข่าว 3

          สื่อประจำ สตช. ตั้งฉายาบิ๊กตำรวจประจำปี 2554 ร.ต.อ.เฉลิม ซิว "สปอยเดอร์แมน" พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ "ผบ.ตร.ป้ายแดง" พล.ต.อ.วิเชียร "น้อยยอมได้" ขณะที่ชูวิทย์แฉบ่อนกลางกรุง คว้าปรากฏการณ์แห่งปี

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (16 ธันวาคม) สื่่อมวลชนได้มีการตั้งฉายานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฉายาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2554 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้จัดทำขึ้น

          โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "กระโถนสลับสี" จากเหตุการณ์ปลด พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เพื่อให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เสียบแทน

ส่วนนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่ได้รับฉายาที่น่าสนใจ ได้แก่




          1. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับฉายา "สปอยเดอร์แมน" เนื่องจากทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวจับกุมคนร้าย ร.ต.อ.เฉลิม มักจะชื่นชมและสนับสนุน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ อยู่เสมอ



          2. พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "ผบ.ตร.ป้ายแดง" หลังจากเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร.สด ๆ ร้อน และมีความสัมพันธ์อันดีกับฝ่ายการเมือง




          3. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "น้อย...ยอมได้" จากเหตุการณ์ถูกบีบให้ออกจากตำแหน่ง ผบ.ตร.



          4. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "วอลเปเปอร์หลงวิก" เนื่องจากมักจะเห็นภาพของ พล.ต.อ.พงศพัศ ไปยืนอยู่ด้านหลังของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แทนที่ควรจะยืนอยู่ด้านหลัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ มากกว่า

          5. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา "มือไวน์อันดับ 1" เนื่องจากมักได้รับความไว้วางใจจาก ร.ต.อ.เฉลิม ให้ดูแลคดีสำคัญบ่อย ๆ และทุกครั้งที่เข้าประชุม จะต้องมีไวน์เป็นเครื่องดื่มในวงสนทนา

          6.พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนเรื่องบ่อนการพนันการกรุง ได้รับฉายา "มือสอบไม่สุด"

          7.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผบ.ตร. ได้รับฉายา "เสธอู๋ ฟรีแลนซ์" เพราะทำหน้าที่ทั้ง รองผบ.ตร.ดูแล ศชต.และ ศปก.ตร.สน. และเลขาธิการป.ป.ส.



          8.พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ที่ปรึกษาสบ 10 ได้รับฉายา "ย้อย อยู่ ได้" สาเหตุเพราะทำงานป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างแข็งขัน และได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาสบ 10 มีแนวคิดให้ตำรวจทุกหน่วย ติดตามความคืบหน้าของคดีผู้ค้าผู้เสพรายย่อยให้ครบวงจร และเมื่อถึงยุคของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลงานบริหาร ดูแลงบประมาณและสวัสดิการตำรวจ เท่ากับว่า ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานสำคัญในทุกรัฐบาล และทุก ผบ.ตร.

          9.พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผบช.สทส.และโฆษก ตร. ได้รับฉายา "โฆษก ลอยแพ"

          10.พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษกตร.ในสถานการณ์น้ำท่วม ได้รับฉายา "โฆษกน้ำท่วม (ทุ่ง)"



          11.พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ. 3 อดีตรองผบช.น. ที่เคยดูแลงานจราจรในกรุงเทพมหานคร ได้รับฉายา "จ่าเฉยพลัดถิ่น" เพราะแม้จะถูกโยกไปเป็น ผบช.ภ. 3 แล้ว แต่ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลการจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วย

          12.พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร. อดีตผบช.สพฐ.  ได้รับฉายา "พฐ. จอแก้ว"

          13.พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผบช.ประจำสมช. ได้รับฉายา "ปุโรหิตผิดสี" เนื่องจากถูกเด้ง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล



          14.พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ. 1 ได้รับฉายา "ดาวซัลโวข้างสนาม" หลังจากถูกวางตัวให้ ผบช.ภ.1 แต่ถูกร้องเรียนว่า ความอาวุโสไม่ครบตามเกณฑ์การแต่งตั้ง จึงชวดไปอย่างน่าเสียดาย

          15.พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ. 2 อดีตดำรงตำแหน่งรองผบช.ก. ได้รับฉายา "คอลเซ็นเตอร์สายหลุด" หลังจากก่อนหน้ามุ่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่เมื่อย้ายมาเป็น ผบช.ภ. 2 ก็แทบไม่เห็นภาพการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกเลย

          ขณะที่ปรากฏการณ์แห่งปี ได้แก่ เหตุการณ์ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาแฉว่ามีบ่อนพนันกลางกรุง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแวดวงสีกากี จนถึงขนาดเปลี่ยนตัว ผบ.ตร.เลยทีเดียว



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก