เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุสยองขึ้นในอินเดีย เมื่อเด็กหญิงวัยเพียง 7 ขวบ ถูกสองชาวนาลงมือฆ่าสยอง ก่อนควักตับบูชาพระแม่ดุริกาเพื่อขอให้การเพาะปลูกดีขึ้น
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในรัฐฉัตติสครห์ เด็กหญิงลลิตา ทาตี วัย 7 ขวบ ได้ถูกลักพาตัวไปขณะกำลังนั่งดูโทรทัศน์ที่บ้านของเพื่อนบ้าน ทำให้ทางครอบครัวออกตามหาด้วยความกระวนกระวายใจและแจ้งตำรวจเพื่อช่วยออกตามหา ซึ่งในตอนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สันนิษฐานว่า นายพุทธราม ทาตี พ่อของลลิตาอาจข่มขืนและฆ่าลูกตัวเองก็เป็นได้ แต่แล้วหลังจากลลิตาหายไปประมาณ 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่าพวกเขาสันนิษฐานฆาตกรผิดคน เมื่อมีจดหมายจากฆาตกรตัวจริงส่งมาหาพ่อของลลิตาเพื่อสารภาพว่า ฆาตกรได้ฆ่าลลิตาบวงสรวงพระแม่ดุริกาไปแล้ว พร้อมกับได้เสนอเงินค่าชดเชยการเสียชีวิตของลลิตาให้ และให้ไปรับศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับชาวบ้านหลายคนจึงรุดไปที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบอาวุธที่ฆาตกรทิ้งไว้ พร้อมกับศพของลลิตาในสภาพถูกตัดคอ และร่างกายก็ถูกควักตับออกไปด้วย โดยมีเงินค่าชดเชยกองไว้ที่ศีรษะและปลายเท้า สร้างความสลดใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสืบสวน และจับกุมนายอิคเนช คุจุรา และนายปาดาม สุขขุ สองชาวนาในหมู่บ้าน ซึ่งจากการสอบสวน ชาวนาทั้งสองก็ให้การรับสารภาพว่าพวกเขาได้ฆ่าลลิตา และตัดอวัยวะในร่างกายของเธอบวงสรวงพระแม่ดุริกา ด้วยความเชื่อตามแบบฮินดูว่าการบวงสรวงพระแม่ดุริกาด้วยอวัยวะของเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี จะทำให้พระแม่ดุริกาประทานความอุดมสมบูรณ์ และการเพาะปลูกที่ดีขึ้นมาให้
อย่างไรก็ดี ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยว่า ฆาตกรทั้งสองคนอาจจะได้รับโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว
