x close

รสชาติลงตัว! ทำซอสจากลูกตำลึงแทนซอสมะเขือเทศ





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการกิน อยู่ คือ
 
           ทุกวันนี้ อาหารฟาสต์ฟู้ดเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่เด็กวัยรุ่นวัยเรียนทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่ต้องทำเวลาก็เลือกที่จะบริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ดเพื่อความสะดวก รวดเร็ว และสิ่งหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับอาหารฟาสต์ฟู้ดก็คือ บรรดาซอสทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ หรือซอสพริก ที่คุณ ๆ นำมาเยาะจิ้มอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติกันหน่อย

           แต่ถ้าหากวันนี้คุณเบื่อซอสมะเขือเทศแล้วล่ะก็ ทางรายการ "กิน อยู่ คือ" ก็มีทางเลือกใหม่ ๆ สำหรับการทำซอสมาฝากกัน นั่นก็คือ การทำซอสจากลูกตำลึง แทนซอสมะเขือเทศนั่นเอง
 
           ตำลึง ผักที่มักขึ้นเป็นเถาเลื้อยอยู่ตามรั้วบ้านคุณนั้น คุณจะรู้ไหมว่า แท้จริงแล้วมันกินได้แทบจะทุกส่วน หลายคนอาจรู้ว่าสามารถนำใบมาทำเป็นอาหารได้ แต่นอกจากนี้ในสมัยก่อน คนนิยมนำลูกตำลึงที่ยังไม่สุกมาทำอาหารหลายอย่างเช่น ดอกผักเสี้ยน แกงคั่วลูกตำลึง เอามาทำเป็นของหวานอย่างลูกตำลึงแช่อิ่มก็ดี แต่สำหรับลูกตำลึงแก่ที่มีผลสีแดงแล้วนั้น ส่วนใหญ่คนไม่รู้ว่าจะนำมาทำอะไร ก็จะปล่อยทิ้งเป็นอาหารนก กา ไปซะมากกว่า แต่นี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ อาจารย์พงษ์ศักดิ์ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหารมานาน สังเกตเห็นว่า ทำไมนกถึงกินได้ จึงได้ลองนำมาชิมรสชาติดู จึงพบว่า มันมีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ คละเคล้ากันไป ตลอดจนเนื้อที่มีความข้น จึงคิดว่าน่าจะสามารถนำมาทำซอสได้







 

           ว่าแล้ว การทำซอสจากลูกตำลึงจึงเกิดขึ้น โดยเตรียมวัตถุดิบและมีวิธีทำดังนี้
 
           1. นำลูกตำลึงสุก ๆ ไปล้างในน้ำเปล่าและน้ำเกลือให้สะอาด

           2. นำลูกตำลึงไปครูดกับตะแกรงเพื่อสกัดเนื้อเอาเนื้อออกมา เสร็จแล้วพักเอาไว้

           3. ทำส่วนผสมของซอส โดยเริ่มจากนำพริกชี้ฟ้า กระเทียมดอง เยาะเกลือ มาโขลกให้เข้ากัน

           4. เริ่มขั้นตอนในการปรุงรส นำน้ำส้มสายชู น้ำตาล มาเทลงในหม้อตั้งไฟ เคี่ยวให้เข้ากัน ให้หมดกลิ่นน้่ำส้มสายชูก่อน

           5. จากนั้นนำส่วนผสมของซอสที่โขลกไว้และลูกตำลึงสกัดเป็นเนื้อ แล้วเทลงไปในหม้อปรุงรสที่ตั้งไฟไว้

           6. เคี่ยวให้เนื้อเข้ากันจนมีความข้น
 

           แต่ในวันนี้เราไม่ได้ทำซอสเพียงอย่างเดียว เราจะทำเมนูเพื่อจะได้ลิ้มลองรสชาติของซอสไปด้วยนั่นก็คือ ปลาอบราดซอสลูกตำลึง มาดูกันว่าวิธีการเป็นอย่างไร แล้วเข้าครัวไปพร้อมกันเลย
 
           1. เริ่มจากล้างปลากระพงให้สะอาด นำมาแล่เป็นชิ้น ๆ ให้บางเข้าไว้ ก่อนโรยเกลือ โรยพริกไทยเพื่อดับคาว ใส่น้ำมันนิดนึงเพื่อเพิ่มไขมัน

           2. นำเนื้อปลาที่เตรียมไว้เข้าเตาอบ ที่อุณหภูมิประมาณ 350 องศา อบไว้ 10 นาที

           3. จากนั้นทำซอสที่จะราดเนื้อปลา ตั้งกระทะ ใส่เนย ใส่แป้งสาลีลงไปเพื่อให้มีความข้น

           4. ใส่ถั่วขาวถั่วแดง หรือจะเป็นถั่วชนิดอื่นก็ได้ ใส่ลงไป ก่อนเทซอสลูกตำลึงลงไป คนให้ข้น

           5. เมื่อปลาพร้อมแล้ว ก็นำออกมาราดด้วยน้ำราดที่ทำจากซอสลูกตำลึง
 
           แค่นี้ก็ได้อาหารจานร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟกินข้าวสวยหอม ๆ สัมผัสลิ้นแล้วได้ลิ้มลองรสชาติของความเข้มข้นของซอสจากลูกตำลึงที่เราปรุงรสเปรี้ยวหวานเผ็ดตามที่เราชอบได้ หลังจากกินอาหารคาวไปแล้ว เราก็มาต่อกันด้วยของหวานล้างปากกันหน่อย ของหวานที่ว่านี้ก็ไม่ใช่อะไร นั่นก็คือ ลูกตำลึงอ่อนแช่อิ่ม ของหวานกินเล่นที่ทำจากลูกตำลึงเช่นกัน เรามาดูวิธีทำกันเลย



 

            1. นำลูกตำลึงอ่อน ไปลวกให้นิ่ม เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้แยกเมล็ดออกจากลูกตำลึงได้ง่ายขึ้น

           2. ล้างลูกตำลึงด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดก่อนนำไปแช่สารส้มไว้ 2 คืน เพื่อให้ลูกตำลึงแข็ง กรอบ

           3. จากนั้นแช่น้ำเปล่าทิ้งไว้อีกสองคืนเพื่อล้างสารส้มออกให้หมด

           4. เมื่อพร้อมก็ตั้งกระทะ ต้มน้ำให้เดือด เทลูกตำลึงลงไป เทน้ำตาลทรายลงไปในอัตรา น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัมต่อลูกตำลึง 1 กิโลกรัม

           5. คนเข้าด้วยกันด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณสองชั่วโมง จนลูกตำลึงเริ่มมีสีใส
 
           จากลูกตำลึงอ่อนที่หลายคนคิดว่ากินไม่ได้ ปล่อยทิ้งขว้าง ในตอนนี้ก็กลายมาเป็นของหวานกินเล่น ลูกตำลึงแช่อิ่ม ที่สามารถหาวัตถุดิบได้ง่ายใกล้ ๆ บ้านนี่เอง
 
           เป็นอย่างไรกันบ้าง กับวิธีการทำซอสจากลูกตำลึง และของหวานจากลูกตำลึง รู้แบบนี้แล้วถ้าใครมีเวลาซักหน่อย ก็เข้าครัวทำเองเลย จะได้ลองรสชาติใหม่ที่ปรุงเองได้ แถมยังหาวัตถุดิบง่ายใกล้ ๆ ตัวด้วย ซอสฝรั่งที่ว่าดีนั้น มาเจอซอสลูกตำลึงพื้นบ้านไทย ก็เจ๋งไม่แพ้กันนะ จะบอกให้^^





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รสชาติลงตัว! ทำซอสจากลูกตำลึงแทนซอสมะเขือเทศ อัปเดตล่าสุด 19 มกราคม 2555 เวลา 07:59:41 3,426 อ่าน
TOP