x close

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า


ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า 

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  ครอบครัวข่าว 3

           หลายจังหวัดภาคเหนือสภาพอากาศใกล้แตะจุดวิกฤต ค่าฝุ่น PM10 ทะลุ 109 ผู้ว่าฯ สั่งประชาชนร่วมมือลดเผาป่า

           วานนี้ (16 กุมภาพันธ์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท้องฟ้าเหนือจังหวัดเชียงใหม่มีหมอกควันไฟปกคลุมหนาทึบ มองจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่เห็นวัดพระธาตุดอยสุเทพ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องหาอุปกรณ์ป้องกัน ทั้งนี้ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่วัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือ ค่า PM10  ได้ 109.89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า

           ในการนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัญหาหมอกควันและมลพิษทางอากาศเป็นเรื่องที่ต้องประชุมหารือและต้องแก้ไขเป็นอันดับแรก นอกจากมลพิษทางอากาศจะกระทบต่อสุขภาพอนามัยของชาวเชียงใหม่แล้ว ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ  กัน และถึงแม้ในตอนนี้ คุณภาพอากาศจะยังไม่ถึงเกณฑ์วิกฤตแต่ระยะหลังค่า PM10 ก็เริ่มเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เชียงใหม่ยังไม่เกินมาตรฐานแต่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ ประชาชนต้องงดเผาในที่โล่งทุกชนิด โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 55 เกิดไฟป่าในพื้นที่เชียงใหม่แล้ว 144 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหาย 947 ไร่ ส่วน ใหญ่เกิดในพื้นที่อำเภอฮอด แม่แจ่ม ดอยเต่า

           ทั้งนี้ นายอภิวัฒน์ คุนารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 1 กล่าวว่า ปรากฏการณ์ฟ้าหลัวที่สังเกตได้ในเมืองเชียงใหม่ ไม่ได้มาจากค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน แต่เป็นค่าโอโซนที่เกินมาตรฐาน จากค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ 100 PBB ขณะนี้เชียงใหม่ มีค่าโอโซน 128.5 ซึ่งภาวะโอโซนเกินไม่ได้อยู่ในภาคพื้นดิน เนื่องจากโอโซนจะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ทำปฏิกิริยากับแสงแดดเกิดการหักเหของแสงทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลัว และผลต่อภาวะเรือนกระจก

ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า

           ในขณะที่จังหวัดลำพูนยังคงมีสภาพที่ปกคลุมด้วยหมอกควันหนาแน่น หลังตรวจพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า จังหวัดลำพูน มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือที่เรียกว่า PM 10 เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดจากมาตรฐานที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรถึง 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นอันดับสองรองจากจังหวัดลำปางที่มีปริมาณ 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนจังหวัดแพร่และจังหวัดพะเยายังคงเป็นอีกสองจังหวัดที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็ได้มีการรณรงค์ขอความร่วมมือจากชาวบ้านงดกิจกรรมการเผาทุกชนิดในระยะนี้ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟไม่ให้แพร่กระจายเป็นวงกว้างมากกว่านี้

           อย่างไรก็ดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ติดตามสภาพภูมิอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาและการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของไฟป่าในปัจจุบันโดยเฉพาะการสะสมของปริมาณเชื้อเพลิงที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้การเกิดไฟป่าในแต่ละครั้งมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และสืบเนื่องจากความผันผวนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของสภาพภูมิอากาศโลกอันเป็นผลเนื่องมาจากภาวะโลกร้อนทำให้การคาดการณ์สภาวะอากาศและสถานการณ์ไฟป่าในระยะยาวทำได้ยากมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเฝ้าติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเช่นกัน
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
  

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปัญหาหมอกควันภาคเหนือเข้าขั้นวิกฤติ สั่งร่วมมือลดเผาป่า โพสต์เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 09:47:16 11,744 อ่าน
TOP