x close

ปชป. จวกรัฐทุ่มเงินตั้งกองทุนพัฒนาสตรี ไม่ทำประโยชน์


ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต

          ปชป. จวกเละ รัฐทุ่มเงิน 7.7 พันล้าน ตั้งกองทุนพัฒนาสตรี หวังทำเงินให้กลุ่มการเมืองที่สนับสนุน เหมือนเอางบมาหว่านให้ประชาชนตกเป็นทาสเงิน

          เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลใช้งบประมาณ 7.7 พันล้านบาท จัดตั้งกองทุนพัฒนาสตรีจังหวัดละ 100 ล้านบาท ว่า รัฐบาลนโยบายนี้ได้มีการร้องเรียนเข้ามาว่ากองทุนดังกล่าวเป็นนโยบายที่ทำเงินให้กลุ่มการเมืองที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีสถานะไม่ต่างจากกองทุนหมู่บ้าน โดยสุดท้ายกว่า 90 เปอร์เซ็นต์เป็นหนี้เสียทั้งหมด เพราะไม่มีการควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีวินัย คนกู้เงินไปก็เอาไปซื้อสินค้าในเครือข่ายพรรคเพื่อไทย ทำให้คนมีอำนาจได้ประโยชน์หลายต่อ เป็นการเอางบประมาณมาหว่านให้ประชาชนตกเป็นทาสเงินให้กับพรรคเพื่อไทย เหมือนกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยทำมาในอดีต 

          ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลพยายามสร้างฝันให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนขอตั้งชื่อภาวะดังกล่าวว่า ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึก แบมือขอ รอของแจก แบกหนี้สิน เพราะพรรคเพื่อไทยมีนโยบายทำให้ประชาชนคนไทยอ่อนแอ ควบคุมง่าย เป็นหนี้สินโดยการหว่านเงินลงไป

          พร้อมกันนี้ นายชวนนท์ ยังกล่าวแนะนำด้วยว่า ถ้ารัฐบาลมีความบริสุทธิ์ใจควรเสนอเป็น พ.ร.บ.จัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผ่านการพิจารณาของสภา ไม่ใช่มาใช้เทคนิคทางกฎหมายออกเป็นเพียงระเบียบสำนักนายกฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




[22 กุมภาพันธ์] คปก.ค้าน ยิ่งลักษณ์ เดินหน้ากองทุนพัฒนาบทบาทสตรี



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
 
          รัฐบาลยิ่งลักษณ์เดินหน้ากองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไทย วางงบประมาณไว้ 7.7 ล้านบาท ด้านคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ค้านขอให้รัฐบาลนำนโยบายเรื่องกองทุนพัฒนาสตรีตราเป็นพระราชบัญญัติ

          หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แถลงนโยบายของรัฐบาลภายใต้พรรคเพื่อไทย ต่อรัฐสภา ไปในวันที่ 23 สิงหาคม 2554 โดยมีการระบุถึงการตั้ง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไทย เพื่อปกป้องสิทธิสตรี ปรับปรุงกฎหมายที่คุ้มครองสตรีที่ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว การดึงศักยภาพสตรีให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ รวมถึงจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาบทบาทสตรีไทยให้เท่าทันในโลกยุคใหม่ และมีการวางเงินงบประมาณไว้ถึง 7.7 พันล้านบาท โดยจะมอบให้จังหวัดละ 100 ล้านบาท

          ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีก็ได้เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไว้ว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่จะส่งเสริมพลังสตรีให้เป็นพลังที่เข้มแข็งและยั่งยืนในทุกมิติ และจะมุ่งยกระดับให้เกิดความเท่าเทียมกัน ซึ่งไม่ใช่เพื่อให้เกิดการแข็งขันระหว่างหญิงชายแต่เพื่อให้เป็นสิ่งที่เติมเต็มซึ่งกันและกันในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต โดยโครงการนี้จะเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำหรือปลอดดอกเบี้ย เพื่อเสริมรายได้ พัฒนาศักยภาพสตรี รวมไปถึงการเฝ้าระวังปัญหาสตรี การช่วยเหลือเยียวยา โดยคาดว่างบประมาณจะสามารถลงถึงจังหวัดและชุมชนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2555

          ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามหนังสือเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย เรื่อง ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ส่งถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาว่า การดำเนินนโยบายใด ๆ ของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณจำนวนมากถึง 7,700 ล้านบาท ควรตราเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ไม่สมควรกำหนดเป็นเพียงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันเห็นว่าที่มาของเงินที่ตั้งเป็นกองทุนส่วนหนึ่งจะมาจากการกู้ยืม เป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้ประเทศและประชาชนอย่างไม่จำเป็น เพราะขณะนี้มีช่องทางขององค์กรและสถาบันการเงินจำนวนมากที่สามารถจัดให้ผู้หญิงที่มีความยากลำบากในพื้นที่ต่าง ๆ ได้กู้ยืมเงินอยู่หลายช่องทาง และ เห็นอีกว่ากระบวนการจัดการกองทุนนี้ก็ไม่มีความชัดเจน มีช่องว่างให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับสตรีเฉพาะกลุ่มที่จดทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนเท่านั้น

          นอกจากนั้นทาง คปก.ยังได้เสนอแนะให้รัฐบาลดำเนินการเรื่อง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไทยไว้ 3 ข้อ ได้แก่

          1.ให้มีนโยบายและมาตรการในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน การจัดการกองทุนดังที่ปรากฏในร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิงอย่างแท้จริง

          2.รัฐบาลจะต้องเร่งตรากฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศ ซึ่งครอบคลุมทุกมิติของการเสริมสร้างพลังให้กับผู้หญิง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม และการเมือง ให้เร็วขึ้นมากกว่าที่ได้แถลงนโยบายด้านนิติบัญญัติว่าจะดำเนินการตรากฎหมายนี้ภายในปี 2557

          3.รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายและมาตรการเพื่อประกันว่าผู้หญิงจะได้รับความเป็นธรรมทางสังคม โดยกำหนดมาตรการทางกฎหมายและมาตรการอื่น ๆ ในทุกระดับ


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ปชป. จวกรัฐทุ่มเงินตั้งกองทุนพัฒนาสตรี ไม่ทำประโยชน์ อัปเดตล่าสุด 6 มีนาคม 2555 เวลา 11:02:37 9,815 อ่าน
TOP