x close

เฉลิม นั่งหัวโต๊ะ ปรับข่าวกรอง ซัดตื่น SEJEAL



นายเฉลิม อยู่บำรุง

เฉลิมนั่งหัวโต๊ะ ปรับ‘ข่าวกรอง’ ซัดตื่น‘SEJEAL’ (ไทยโพสท์)


           วันนี้ (25 กุมภาพันธ์) "เฉลิม" นั่งหัวโต๊ะหลังได้รับมอบหมายปรับปรุงทีมข่าวกรอง เรียกประชุมหน่วยงานด้านการข่าวทั้งหมด 27 กุมภาพันธ์นี้นี้ ลั่นต้องบูรณาการรวมกันเป็นหนึ่ง เย้ยสื่อขวัญอ่อนเห็นสติกเกอร์ "SEJEAL" ก็ตกใจ ชี้แค่สงครามจิตวิทยา ขณะที่ตำรวจยังมึนไม่รู้ที่มา ด้านชาวบ้านย่านซอยรามคำแหง 24 ผวาระเบิด พบกล่องกระดาษวางข้างตู้ไปรษณีย์ หน่วยเก็บกู้ตรวจสอบแค่ของปลอม

           ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ถึงมติคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ตนเป็นหัวหน้าปรับปรุงทีมข่าวกรอง ร่วมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เพื่อบูรณาการด้านการข่าว ว่าจะนัดประชุมฝ่ายที่เกี่ยวข้องในวันที่ 27 ก.พ.นี้ เวลา 10.30 น. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากที่ผ่านมาแต่ละหน่วยข่าวแม้จะมีความสามารถ ทว่าไม่ได้มีการบูรณาการและแลกเปลี่ยนการข่าว ซึ่งต่อไปจะมีการแลกเปลี่ยนกัน หน่วยข่าวกรองทั้งหมดจะต้องรวมกันเป็นหนึ่ง ตนจะทำให้ดีที่สุดเพราะนี่คือภารกิจที่ยิ่งใหญ่

           รองนายกฯ ยังกล่าวถึงการที่สื่อเสนอข่าวระเบิด 3 จุดในซอยสุขุมวิท 71 ว่า บางครั้งก็เสนอข่าวไม่จริง อย่างเอ็มเคโอ เป็นกลุ่มหนึ่งในประเทศอิหร่านที่ต่อต้านรัฐบาลในอดีต ต่อมาเข้ามาอยู่ในอิรัก อยู่ภายใต้การดูแลของซัดดัม ฮุสเซน หลังจากนั้นก็โยนกันไปมา แต่พอเห็นสติกเกอร์ SEJEAL ก็ตกใจ เสมือนเป็นการทำสงครามจิตวิทยา ตนติดตามเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และเช็กกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งตนเชื่อว่าสามารถคุมสถานการณ์ได้ ไม่น่าจะมีอะไร อย่างไรก็ตาม อยากจะเน้นว่าพื้นที่ไหนที่มีชาวตะวันออกกลางและคนอิหร่านพักอาศัย เจ้าของบ้านพักอาศัยจะต้องให้ความร่วมมือกับตำรวจด้วย และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. ตนจะเดินทางไปยังกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะเป็นด่านแรกที่จะไปบูรณาการ และให้คำแนะนำว่า อย่าเฝ้าระวังแต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเฝ้าระวังที่จังหวัดภูเก็ตและด่านตามชายแดนด้วย ซึ่งจะนำตำรวจตระเวนชายแดนมาร่วมทำงานตามแนวชายแดน

           ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ต้องหาที่มาเลเซียจับกุมได้จะสามารถนำกลับมาดำเนินคดีได้เมื่อไหร่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คงไปคาดคั้นไม่ได้ มาเลเซียกับไทยไม่ได้มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่เนื่องจากประเทศอังกฤษได้ทำสนธิสัญญากับประเทศไทย ซึ่งสมัยนั้นมาเลเซียยังคงขึ้นกับประเทศอังกฤษ ก็สามารถใช้อนุสัญญาเดียวกันนี้ได้ ตนจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ   

           ด้านความคืบหน้าคดีระเบิด 3 จุด เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กนต 648 อ่างทอง ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด 3 จุด บริเวณซอยสุขุมวิท 71 เนื่องจากมีพยานระบุว่า เคยเห็นชายชาวอิหร่านที่เช่าห้องสูทหรู อาคารเพชรบุรีสวีท ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ คันแรกคือรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ เอส 100 สีน้ำเงินคาดเทา ทะเบียน มนม กรุงเทพมหานคร ถูกพบไปจอดทิ้งไว้ที่หน้าร้านเอเชียการไฟฟ้า ระหว่างซอยปรีดีพนมยงค์ 29-31 ส่วนอีกคันเป็นรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ คันที่ตรวจสอบพบล่าสุด          

           พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 เปิดเผยว่า ตำรวจ สน.ดินแดงได้รับแจ้งจากคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างย่านดินแดง ว่าพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่บริเวณปากซอยบุญอยู่ ข้าง ป.ป.ส.ดินแดง ใกล้กับโรงแรมมิตรภาพเทียร่า เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและยึดมาไว้ที่ สน.ดินแดง เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพยานที่พบให้การว่า เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่ประมาณ 3 วันแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าของรถชื่อนายสมพร กล้าหาญ อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง แต่เบื้องต้นพบว่าได้ขายและโอนลอยไปแล้ว

           ด้าน พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.กล่าวว่า รถจักรยานยนต์คันนี้พบว่า นายโมฮัมหมัด ฮาซาอี ผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ถูกจับที่สนามบินสุวรรณภูมิซื้อมา เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆ ภายในรถ เจ้าหน้าที่ พฐ.จึงทำการเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อเป็นหลักฐานประกอบในสำนวนต่อไป    นอกจากนี้ บช.น.กำลังตรวจสอบสติกเกอร์ SEJEAL ว่าพิมพ์มาจากที่ใด และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่พบว่ามีการติดสติกเกอร์ดังกล่าว เพื่อหาตัวบุคคลที่นำสติกเกอร์มาติด ส่วนจะเป็นสติกเกอร์ล็อตเดียวกับที่พบใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาหรือไม่ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง 

           เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย สว.สส.สน.หัวหมาก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้าตู้ไปรษณีย์ ภายในซอยรามคำแหง 24 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่เก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บช.น.เข้าตรวจสอบ พบกล่องกระดาษสีแดงขนาดเท่ากับกระดาษเอ 4 วางอยู่ข้างตู้ไปรษณีย์ จึงนำยางรถยนต์มาล้อมไว้ และกันคนออกห่างจากจุดดังกล่าว ภายหลังตรวจสอบพบว่ากล่องดังกล่าวไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด แต่บรรจุฟองน้ำอัดสี่เหลี่ยมห่อหุ้มด้วยหนังเทียมสีแดง แล้วพันด้วยเทปกาวสีดำเอาไว้ ไม่พบสารประกอบระเบิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ

           พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่อยากสรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์.



ขอขอบคุณข้อมูลจาก 







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เฉลิม นั่งหัวโต๊ะ ปรับข่าวกรอง ซัดตื่น SEJEAL อัปเดตล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 11:42:12 4,050 อ่าน
TOP