ชัจจ์ ลั่นเดินหน้า รถไฟความเร็วสูง ปี55ตอกเสาเข็ม (ไทยโพสต์)
ชัจจ์ ลั่น รถไฟความเร็วสูงเส้นแรกจะสร้างได้ภายในปี 55 คาดใช้เวลาสำรวจ 3-4 เดือน ประเดิมเส้นแรกกรุงเทพฯ-เชียงใหม่
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับนายเฉิน เจี๊ยะ รมช.พาณิชย์ของจีน ถึงกรอบร่วมมือโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงกับไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้-จีน โดยได้มีข้อสรุปว่าภายในปี 2555 เริ่มก่อสร้างได้ และ 2 ฝ่ายยังเห็นร่วมกันให้มีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้น 1 ชุดเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานและศึกษาออกแบบรายละเอียด
ส่วนแนวทางในการปฏิบัตินั้นประเทศจีนมีความพร้อมให้ความช่วยเหลือทั้งสำรวจ การออกแบบ การให้ข้อมูลด้านเทคนิค ซึ่งหลังจากนี้คณะทำงานชุดดังกล่าวจะเริ่มสำรวจตามเส้นทางรถไฟในปัจจุบัน ว่าจะมีการใช้เขตทางก่อสร้างอย่างไร คาดว่าจะใช้ระยะ 3-4 เดือน โดยเส้นทางแรกที่จะดำเนินงานคือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ สำหรับงบประมาณในการลงทุน เบื้องต้นได้หารือกับ นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) และได้ให้คำแนะนำว่าการลงทุนในการก่อสร้าง ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะสามารถใช้งบประมาณของตัวเองในการลงทุนก่อสร้าง
เราได้มีการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว คาดว่ารถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรก กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะตอกหมุดเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 55 ส่วนอุปสรรคจะทำให้โครงการหยุดชะงัก คือ การเปลี่ยนรัฐบาลจะทำให้นโยบายเปลี่ยนไปด้วย จีนเห็นโครงการรถไฟความเร็วสูง จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้มาก ซึ่งในแต่ละปีนักท่องเที่ยวจากจีนสนใจเมืองไทยแต่เดินทางไม่สะดวก จีนจึงต้องการเชื่อมโยงระบบรางกับประเทศไทยผ่านเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-หนองคาย เพื่อเชื่อมโยงไปยังเมืองคุนหมิงช่วงตอนใต้ของจีน พล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าว
ทั้งนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ศึกษาแผนพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงรองรับนโยบายของพรรคเพื่อไทย 5 เส้นทาง รวมระยะทาง 3,133 กม.วงเงินลงทุน 983,472 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กม. เงินลงทุน 229,809 ล้านบาท
2.กรุงเทพฯ-หนองคาย ระยะทาง 615 กม. เงินลงทุน 201,140 ล้านบาท
3.กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ระยะทาง 570 กม. เงินลงทุน 182,069 ล้านบาท
4.กรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทาง 221 กม. เงินลงทุน 72,265 ล้านบาท
5.กรุงเทพฯ-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 982 กม. เงินลงทุน 297,880 ล้านบาท.