เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก news.hainan.net
ทำเอาเพื่อนบ้านแตกตื่นกันไปทั้งบาง เมื่อจู่ ๆ คุณยายหลีซิ่วเฟิน วัยเฉียดร้อย ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และนอนอยู่ในโลงศพ กลับหายตัวไปจากโลงศพซะดื้อ ๆ จนเพื่อนบ้านต้องตามหากันจ้าละหวั่น ก่อนจะพบว่า คุณยายนั่งอยู่ในห้องครัวแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยซะงั้น
โดยสำนักข่าวหลายแห่งในประเทศจีนรายงานเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ว่า ได้เกิดเรื่องราวประหลาดขึ้นในหมู่บ้านลิ่วโหลว เมืองเป่ยหลิว มณฑลกว่างซี โดยนายเฉินชิ่งวั่ง วัย 60 ปี เพื่อนบ้านของคุณยายหลีซิ่วเฟิน วัย 95 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ เขาเข้าไปเยี่ยมคุณยายหลีซิ่วเฟินในบ้าน และนำอาหารไปให้รับประทาน เพราะคุณยายอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใคร แต่กลับพบว่า คุณยายนอนแน่นิ่งและไม่หายใจแล้ว แม้มือของคุณยายจะยังอุ่นขึ้น แต่เขาก็คิดว่า คุณยายคงจะเสียชีวิตไปแล้วขณะนอนหลับ เขาและลูกชายจึงได้ช่วยกันนำร่างของคุณยายมาไว้ในโลงศพ โดยไม่ได้ตอกตะปูปิดฝาโลงไว้ และจัดพิธีศพให้ เพื่อให้เพื่อนบ้านและญาติมาเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย
มาถึงตรงนี้ งานศพก็น่าจะดำเนินไปตามปกติไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันก่อนที่จะทำพิธีฝัง นายเฉินกลับต้องตกใจสุดขีด เมื่อไปเปิดโลงศพแล้วพบว่าศพของคุณยายอันตรธานหายไป เหลือแต่โลงศพเปล่า ๆ เขาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จึงไปบอกลูกและเพื่อนบ้านให้ช่วยกันตามหา
ระหว่างที่ตามหากันอยู่นั้นเอง ในที่สุด ก็มีคนไปพบคุณยายหลีซึ่งยังมีชีวิตอยู่นั่งอยู่ในห้องครัว ทำเอาเพื่อนบ้านหวาดผวาว่าคุณยายเป็นคนหรือวิญญาณกันแน่ แต่ก็ได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว คุณยายยังมีชีวิตอยู่ เมื่อคุณยายถามกลับมาว่า "พวกเธอเอาฉันใส่ไว้ในโลงศพทำไม" ก่อนที่คุณยายจะบอกกับเพื่อนบ้านว่า เธอจำได้ว่า ตัวเองนอนหลับไปนานมาก พอตื่นขึ้นมาก็เห็นตัวเองอยู่ในโลงศพ จึงพยายามงัดฝาโลงออกมา และตรงมาที่ห้องครัวทันที เพราะรู้สึกหิวสุด ๆ
งานนี้ เพื่อนบ้านถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกว่า ทำไมคุณยายที่ไม่หายใจนานถึง 6 วัน กลับฟื้นคืนชีพได้ และโชคดีที่นายเฉินไม่ได้ตอกฝาโลงไว้แน่นหนา ทำให้คุณยายรอดชีวิต ขณะที่แพทย์ลงความเห็นว่า อาการของคุณยายหลีน่าจะเป็นการตายแบบปลอม ๆ ที่แม้ว่าจะไม่หายใจแล้ว แต่ร่างกายก็ยังอุ่นและมีชีวิตอยู่
