x close

กทม.เอาผิดโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค ลอบต่อเติมอาคาร


โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว
 


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          กทม.มอบสำนักงานเขตคลองเตยแจ้งความเอาผิดโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ลอบต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมตั้งคณะทำงาน 50 ชุด ปูพรมตรวจอาคารสูง-ป้ายโฆษณารอบกรุง

          วันนี้ (12 มีนาคม) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ย่านสุขุมวิท ว่า ทางสำนักการโยธาได้เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมแล้ว โดยพบว่า บริเวณต้นเพลิงของอาคารดังกล่าว ได้มีการแจ้งต่อเติมปรับปรุงเป็นที่จอดรถไว้ เมื่อปี พ.ศ.2542 ต่อมาได้มีการดัดแปลงที่มาเป็นห้องจัดเลี้ยงโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้เพดานต่ำกว่าห้องจัดเลี้ยงทั่วไป จึงถือว่าเป็นการฝ่าฝืนและแอบลักลอบต่อเติม ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 21 ของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารปี 2522 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          ด้าน ม.ร.ว.สุขมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้บริหาร กทม. ได้หารือกันถึงกรณีดังกล่าว และมีมติให้สำนักงานเขตคลองเตยแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และเอาผิดตามกฎหมายกับเจ้าของอาคารแล้ว ซึ่งหากเจ้าของอาคารไม่มีการแก้ไขปรับปรุงให้อาคารเป็นไปตามแบบที่ขออนุญาตไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะมีโทษปรับรายวันไม่เกินวันละ 10,000 บาท

          ขณะเดียวกัน ผู้ว่าฯ กทม. ยังได้ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนที่สร้างอาคารสูง 9 ประเภท ก่อนปี พ.ศ.2535 จำนวนกว่า 10,000 อาคาร ให้ทำการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัย เช่น สปริงเกอร์ ตามอาคารแต่ละแห่ง พร้อมกันนี้ ทาง กทม.ยังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ 50 ชุด เพื่อลงพื้นที่ปูพรมตรวจเข้มอาคารสูงและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ทั้ง 50 เขต ว่ามีการต่อเติมผิดแบบหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมนี้ และคณะทำงานจะรายงานผลการตรวจสอบให้ผู้บริหารทราบทุก ๆ 7 วัน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

  



[11 มีนาคม] รร.แกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ยินดีชดใช้เหตุไฟไหม้




รร.แกรนด์พาร์ฯยินดีชดใช้เหตุไฟไหม้เต็มที่  (ไอเอ็นเอ็น)

          เจ้าของโรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว พาร์ค อเวนิว ยินดี รับผิดชอบ ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต จากเหตุเพลิงไหม้เต็มที่ ขณะที่คณะทัวร์ของคนเจ็บ เดินทางท่องเที่ยวตามกำหนดการเดิมแล้ว

          วันนี้ (11 มีนาคม) ด้าน พ.ต.ท.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว รอง ผกก.สน.ท่าเรือ ช่วยราชการแทน รอง ผกก.สน.ทองหล่อ ในฐานะเจ้าของคดีเหตุเพลิงไหม้ โรงแรมแกรนด์เมอร์เคียว พาร์ค อเวนิว กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำเรื่องประสานกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรม เพื่อพยายามเรียกตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เนื่องด้วยขณะนี้ คณะทัวร์ของผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปท่องเที่ยวตามกำหนดการเดิมแล้ว จึงเร่งประสานให้กลับมาสอบปากคำเพื่อบันทึกรวบรวมเป็นหลักฐานในคดี

          นอกจากนี้ สาเหตุของเพลิงไหม้ ยังไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเสียก่อน เบื้องต้น จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่โรงแรม ทางโรงแรมยินดีที่จะรับผิดชอบทุกกรณีอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้เสียชีวิต

          อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทราบว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้บาดเจ็บจากกรณีดังกล่าว หลงเหลืออยู่อีก 1 ราย คือ Mr.Seregin Evgeny อายุ 39 ปี ชาวรัสเซีย ซึ่งเข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ และได้รับบาดเจ็บจากการสำลักควันเข้าไป ล่าสุด แพทย์ขอดูอาการคนไข้ไปสักระยะก่อน จึงยังคงไม่สามารถปล่อยให้คนไข้รายดังกล่าวกลับบ้านได้



 แพทย์ชันสูตร 2 ศพรัสเซียเหยื่อแกรนด์พาร์ค (ไอเอ็นเอ็น)

          ตำรวจทองหล่อ ร่วมกับแพทย์ ชันสูตร 2 ศพ รัสเซีย เหยื่อไฟไหม้ รร.แกรนด์เมอร์เคียว พาร์ค อเวนิว ก่อนส่งศพกลับบ้าน

          พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว พาร์ค อเวนิว กรุงเทพฯ ซ.สุขุมวิท 22 ว่า ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเพิ่มเติม เป็นพนักงานของโรงแรมแล้ว 4 - 5 ปาก และเตรียมประสานสอบปากคำ พนักงานดับเพลิง สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และทางสำนักงานเขตคลองเตย และในส่วนของคดี ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทำคู่ขนานไปกับการรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุ ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งหลังจากได้ผลการชันสูตรเหตุเพลิงไหม้มาแล้ว และมีการชี้ชัดว่าเป็นความผิดในทางคดีอาญา นั้น ทางตำรวจสามารถที่จะดำเนินคดีได้ภายใน 3 วัน

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นชาวรัสเซีย ขณะนี้ได้มีการส่งหนังสือถึงสถานทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทยเพื่อให้ประสานติดต่อญาติ ส่วนผู้เสียชีวิต 2 รายนั้น แพทย์อยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ ก่อนจะประสานส่งกลับประเทศต่อไป










[10 มีนาคม] กทม. จ่อยื่นฟ้อง รร.แกรนด์ปาร์คอเวนิว หากต่อเติมผิดแบบ (ไอเอ็นเอ็น)


          รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย รอ สำนักการโยธาตรวจสอบแบบแปลน โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว 12 มี.ค.นี้ หากพบต่อเติมผิดแบบจริง ยื่นฟ้องเจ้าของโรงแรมแน่

          นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบแบบแปลน โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา

          โดยในวันจันทร์ที่ 12 มีนาคม นี้ สำนักการโยธา จะนำแบบแปลนของโรงแรมฯ ที่ยื่นหนังสือขอต่อเติมเพิ่ม เมื่อปี 2535 ซึ่ง กทม. ได้อนุญาต เมื่อปี 2536 และต่อมาทางโรงแรมฯ ได้ดำเนินการต่อเติมไปแล้วนั้น โดยทาง กทม. จะตรวจสอบว่า มีการต่อเติมผิดรูปแบบที่ได้ยื่นขอมาหรือไม่ และหากได้แบบแปลนมาแล้ว เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา ก็จะสามารถเปรียบเทียบได้ทันทีว่า มีการต่อเติมผิดแบบหรือไม่ ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าผิดแบบจากที่ได้ขอไว้จริง กทม. ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโรงแรมฯ ทั้งคดีอาญาและแพ่งได้

          อย่างไรก็ตาม นายธีระชน กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบจุดต้นเพลิง ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมฯ เบื้องต้นคาดว่า มีการดัดแปลงห้องดังกล่าวมาจากลานจอดรถ เนื่องจาก มีเพดานที่ต่ำกว่าห้องจัดเลี้ยงทั่วไป






[9 มีนาคม] เผยห้องต้นเพลิง รร.แกรนด์ ปาร์ค อเวนิว อาจมีการต่อเติม

ไฟไหม้

ไฟไหม้ รร.แกรนด์ ปาร์ค อเวนิว

ไฟไหม้ รร.แกรนด์ ปาร์ค อเวนิว

ไฟไหม้ รร.แกรนด์ ปาร์ค อเวนิว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          ระทึก! ไฟไหม้โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว กลางดึก นักท่องเที่ยวเจ็บ 24 เสียชีวิตแล้ว 1 ด้านเขตคลองเตยปิดประกาศห้ามเข้าโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว แล้ว เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยง ขณะที่ กทม.เผยตรวจพบห้องต้นเพลิง ไม่มีสปริงเกอร์ และอาจมีการต่อเติม

          วันนี้ (9 มีนาคม) เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ภายในซอยสุขุมวิท 22 ว่า นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งภายหลังการสำรวจราว 1 ชั่วโมง นายธีระชน เผยว่า ห้องพักต่าง ๆ ในโรงแรม มีสปริงเกอร์ติดอยู่ทุกห้อง ยกเว้นห้องต้นเพลิงที่เป็นห้องจัดเลี้ยง ชั้น 5 นอกจากนี้ยังพบว่า เพดานห้องเตี้ยมากผิดปกติ และด้านหลังสามารถทะลุลาดจอดรถได้ จึงเป็นไปได้ว่า อาจมีการต่อเติมภายหลังจากที่ กทม.อนุญาตไปเมื่อปี 2536 แต่ทั้งนี้ต้องส่งเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง

          รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า กรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิต 1 รายนั้น ยังไม่ทราบชื่อและสัญชาติที่แน่ชัด แต่ยืนยันว่าเพิ่งมาเสียชีวิตในช่วงเช้า เนื่องจากขาดอากาศหายใจ เพราะตอนที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนั้น ยังแค่หมดสติอยู่ อย่างไรก็ตาม จากนี้ทาง กทม. จะตั้งชุดตรวจสอบอาคารที่สร้างก่อนและหลังปี 2535 ทั้ง 50 เขต ว่ามีสปริงเกอร์หรือไม่ และหากดัดแปลงต่อเติมอาคารจะต้องดูว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ และกระทำการตามถูกต้องตามที่ยื่นแบบหรือไม่ ทั้งนี้ หากไม่มีใบอนุญาต จะมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือปรับรายวัน วันละ 10,000 บาท

          ขณะที่ นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการความปลอดภัย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า บันไดหนีไฟของโรงแรมสร้างไม่ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของ กทม.ปี 2544 เนื่องจากห้องพักในแต่ละชั้นของโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิวนั้น แบ่งเป็น 3 โซน แต่บันไดหนีไฟจะมีอยู่แค่ฝั่งเดียว มีลักษณะแคบ และฝั่งที่อยู่คนละด้านกับบันไดหนีไฝมีความห่างกันมากกว่า 10 เมตร และด้วยความที่เป็นอาคารเก่าทำให้บันไดหลักของโรงแรมไม่มีประตูหรือผนังกั้นบันไดระหว่างชั้น จึงทำให้ควันไฟกระจายตัวอย่างรวดเร็ว

          ทั้งนี้ เหตุการณ์ไฟไห้ม้โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว ภายในซอยสุขุมวิท 22 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม เวลา 22.00 น. โดยพบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากชั้น 4 บริเวณห้องจัดสัมมนา ทำให้แขกที่อยู่ภายในโรงแรมหนีตายลงมาชั้นล่าง ขณะที่บางส่วนหนีขึ้นไปขอความช่วยเหลือบนดาดฟ้า

          ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สำนักบรรเทาสาธารณภัยพร้อมหน่วยกู้ภัย ได้ระดมรถน้ำและรถกระเช้าดับเพลิงที่ลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ พร้อมกับขึ้นไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ภายในอาคาร โดยเบื้องต้นพบชาวต่างชาติสำลักควันหมดสติอยู่บริเวณชั้น 7 จำนวน 3 คน ทีมกู้ชีพจึงช่วยกันปฐมพยาบาล และลำเลียงผู้บาดเจ็บและผู้ที่หมดสติส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที

          ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั่วไป 24 ราย โดยเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ถูกนำส่งโรงพยาบาลกลาง 1 ราย โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 18 ราย โรงพยาบาลบำรุงราษฏร์ 2 ราย โรงพยาบาลเทพธารินทร์ 1 ราย และโรงพยาบาลจุฬาฯ 2 ราย ขณะเดียวกัน มี 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากสำลักควันจนหมดสติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งต่อมามีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน


ไฟไหม้ แกรนด์เมอร์เคียว

ไฟไหม้ แกรนด์เมอร์เคียว

ไฟไหม้ แกรนด์เมอร์เคียว



          ขณะที่ในวันที่ 9 มีนาคม แพทย์หญิงมาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ และกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สามารถคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ต้องควบคุมสถานการณ์ภายในอาคารดังกล่าวตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เพลิงปะทุขึ้นมาอีกครั้ง โดยจากการพูดคุยกับผู้จัดการอาคารดังกล่าว ทราบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณ ชั้น 4 ของอาคาร ซึ่งไม่มีถังแก๊สอยู่แต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงยังคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบก่อน

          อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางผู้อำนวยการเขตคลองเตยก็ได้รายงานให้ทราบว่า อาคารดังกล่าวมีระบบป้องกันการเกิดอัคคีภัย โดยมีการติดตั้งระบบสปริงเกอร์ด้วย ทั้งนี้จะมีการปิดใช้อาคารดังกล่าวชั่วคราวหรือไม่นั้น ต้องรอให้สำนักการโยธาพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน

          นอกจากนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. ยังกล่าวว่า จากกรณีการเกิดเหตุเพลิงไหม้ ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทาง สำนักบริหารกรุงเทพมหานคร ได้เตรียมเชิญผู้ที่มีความรู้ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบ อาคารที่สร้างก่อน ปี 2535 จำนวนกว่า 1 พันอาคารแล้ว

          ด้านสำนักงานเขตคลองเตยได้นำประกาศห้ามเข้า-ออก มาปิดที่หน้าประตูทางเข้าโรงแรมแล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะขอเข้ามาเก็บของในโรงแรมนั้น จะต้องยื่นเอกสารแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ก่อน จึงจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาเก็บข้าวของย้ายไปพักโรงแรมอื่นที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้

          สำหรับ โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว เป็นโรงแรมระดับกลาง เดิมชื่อโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ปาร์ค อเวนิว  เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว สูง 15 ชั้น มีห้องพักจำนวน 221 ห้อง บริหารโดย เชนแอคคอร์


ไฟไหม้ แกรนด์เมอร์เคียว

ไฟไหม้ แกรนด์เมอร์เคียว


สื่อนอกรายงานไฟไหม้โรงแรมดังย่านสุขุมวิท

          จากเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น ทำให้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก ทั้ง เอพี เอเอฟพี และ วอชิงตันโพสต์ ต่างรายงานข่าวเหตุไฟไหม้ใหญ่ โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว กันคึกโครม โดย เอเอฟพี รายงานจากการเปิดเผยของ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 21.44 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนสุขุมวิท บริเวณเส้นทางใกล้เคียงไว้เกือบทั้งหมด โดย เอเอฟพี ยังอ้างรายงานจากเจ้าหน้าศูนย์เอราวัณ ที่ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 1 คน และอีก 5 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส

          ด้านเว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐ รายงานจากการเผยแพร่ข่าวของสื่อไทยแห่งหนึ่งว่า ไฟไหม้ เริ่มต้นบนชั้น 4 ของอาคาร และควันไฟพุ่งลอยไปถึง ชั้น 15 และยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้

           ส่วนสำนักข่าวเอพี รายงานว่า โรงแรมแกรนด์ ปาร์ค อเวนิว เป็นโรงแรมระดับกลาง เดิมชื่อโรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ปาร์ค อเวนิว มีห้องพักจำนวน 221 ห้อง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ในย่านที่ส่วนใหญ่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ พร้อมกันนี้ เอพี ยังระบุอีกว่า เมื่อวันเสาร์ ที่บริเวณใกล้เคียงกับโรงแรมนี้ ก็มีเหตุไฟไหม้ใหญ่ อาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
     



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
กทม.เอาผิดโรงแรมแกรนด์ ปาร์ค ลอบต่อเติมอาคาร อัปเดตล่าสุด 12 มีนาคม 2555 เวลา 17:47:04 48,239 อ่าน
TOP