x close

สายใยรักพ่อแม่ บ่วงสุดท้ายของ น้องรถตู้ ในคนอวดผี





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนอวดผี และ Youtube โพสต์โดย CiNNtv2

          สายใยความรักของพ่อและแม่ที่มีต่อลูก ยากนักที่จะตัดขาดได้ ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเสียชีวิตไปแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องราวอันน่าสลดใจของ น.ส.ณิชมล นิ่มเดช หรือ น้องรถตู้ นักข่าวสาวฝึกงานเคเบิลทีวีนครปฐม วัย 23 ปี ซึ่งถูกเพื่อนชายสมัยเรียนฆ่าแล้วเผาศพทิ้งเพื่ออำพรางคดี จนเสียชีวิตคาห้องพักที่ จ.นครปฐม เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่พ่อและแม่ของน้องรถตู้เป็นอย่างยิ่ง

          เมื่อค่ำคืนวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา รายการคนอวดผี ช่วงศูนย์บรรเทาทุกข์ผี จึงได้นำเสนอเรื่องราวของ น้องรถตู้ พร้อมกับครอบครัว และคนรู้จักมาร่วมในรายการด้วย แต่ในระหว่างรอการถ่ายทำนั้น จู่ ๆ แม่ครัวในงานศพน้องรถตู้ก็แสดงอาการแปลกประหลาดขึ้นมา เอาแต่ร้องเรียกว่า พ่อร้อน ๆ ๆ พ่อหนูร้อน หน้าหนูดำมากพ่อ พร้อมกับร้องไห้ไปด้วย ซึ่ง นายวรวุฒิ นิ่มเดช พ่อของน้องรถตู้ ได้เผยว่า ก่อนหน้านี้แม่ครัวเคยมีอาการแปลก ๆ แบบเดียวกันนี้ในงานเผาศพของน้องรถตู้เช่นกัน ดังนั้น จึงพาแม่ครัวคนนี้มาด้วย โดยคิดว่าอาจจะเป็นสื่อกลางในการช่วยวิญญาณของลูกสาวก็เป็นได้

          และเมื่อเริ่มถ่ายทำรายการ พิธีกรทั้ง 3 คน ได้เชิญ นายวรวุฒิ และ นางสุนีย์ นิ่มเดช พ่อและแม่ มาเปิดใจถึงเรื่องราวของน้องรถตู้ให้ได้ฟังกัน ก่อนอื่น นายวรวุฒิ ผู้เป็นพ่อได้พูดถึงลูกสาวว่า ลูกเป็นคนดี อัธยาศัยดี ใครเห็นก็รัก มีเพื่อนฝูงมากมาย มองคนในแง่ดีตลอด เวลาลูกมีปัญหาก็มักจะมาคุยกับพ่อตลอด เพราะโทรคุยกันประจำ และพ่อก็จะรีบไปหาทันที ขณะที่ทางด้านผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้สนิทกับลูกสาวเพราะต้องออกไปทำงาน ลูกสาวเป็นคนน่ารัก มีญาติ ๆ มาเอาไปเลี้ยงประจำ ตอนนี้ตนก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้แสดงความรักกับลูกสาวคนนี้ให้มาก





          เมื่อพิธีกรถามว่า พ่อแม่มีลางสังหรณ์ก่อนที่น้องรถตู้จะเสียชีวิตหรือไม่ พ่อเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปเที่ยวสุพรรณบุรีด้วยกัน ลูกก็จะถามตลอดว่า ถ้ารถตู้ตายไปจะทำยังไง ซึ่งพูดเรื่องตายบ่อยมาก ตนก็ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เที่ยวด้วยกัน

          และในวันที่น้องรถตู้เสียชีวิต เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นอย่างไร นายวรวุฒิ กล่าวว่า วันนั้นน้องรถตู้โทรหาแม่ตอนประมาณ 10 โมง บอกว่ามีคนดักทำร้ายที่หน้าออฟฟิศ ซึ่งตนก็ไม่ได้ไปหา เพราะไม่รู้ และนอกจากนี้น้องยังโทรหาคนอื่นอีกหลายคน ซึ่งวันนั้นไม่มีใครว่างเลยสักคน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงต้องโทรหาเพื่อนคนนี้ ซึ่งเป็นคนร้าย เพื่อให้มาปกป้อง ต่อมา ตำรวจเล่าว่า ในช่วงบ่ายเพื่อนคนนี้พยายามปลุกปล้ำน้องรถตู้ แต่ลูกไม่ยอม จึงถูกฆ่าจนเสียชีวิต

          ส่วนบรรยากาศในงานศพ ซึ่งได้ยินข่าวมาว่ามีคนเห็นและสัมผัสน้องรถตู้ได้อย่างชัดเจน พ่อน้องรถตู้เผยว่า เพื่อนของน้องที่มาสวดกงเต็ก บอกว่าระหว่างสวดเห็นน้องรถตู้นั่งอยู่บนฝาโลง ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งบอกว่าเห็นยืนอยู่ที่รูป ส่วนคุณแม่ เล่าว่า วันเผา น้องได้เข้าร่างแม่ครัว ซึ่งร้องไห้และพูดว่า ร้อน ๆ อยากอยู่กับพ่อ รักพ่อที่สุด นอกจากนี้ พ่อยังกล่าวต่อไปว่า น้องยังพูดด้วยว่า ถ้าแม่บุญธรรมมารับหนูไปกินข้าว หนูก็มีแรงสู้กับผู้ชายคนนั้นแล้ว ซึ่งประโยคนั้นทำให้แม่บุญธรรมถึงกับร้องไห้โฮ และบอกว่า น้องโทรมาหาจริง ๆ แต่ไม่ว่าง เพราะตนติดธุระ







          และเมื่อต้นรายการจากเหตุการณ์ประหลาดซึ่งเกิดขึ้นกับแม่ครัวอีกครั้ง ทำไมพ่อและแม่จึงเชื่อว่าเป็นน้องรถตู้จริง ๆ คุณแม่ของน้องรถตู้ บอกว่า ดูจากท่าทางและน้ำเสียงเวลาลูกร้องมักจะทำเสียงอ้อน ๆ สะอึกสะอื้น และแสดงท่าทางผูกพันกับพ่ออย่างชัดเจนเหมือนกับนิสัยของน้องไม่มีผิด ส่วนพ่อกล่าวว่า ตนเชื่อ เพราะเขาเคยพูดมาทีนึงทำให้รู้สึกตกใจมากว่า แม่ หนูขอโทษที่รักพ่อมากกว่าแม่

          พร้อมกันนี้ พ่อของน้องรถตู้ ยังเปิดเผยด้วยว่า ที่มาร่วมรายการในช่วงศูนย์บรรเทาทุกข์ผีนี้ เพื่อต้องการรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวอยู่ที่ไหน เขาทุกข์หรือไม่ และอยากให้พ่อช่วยอะไรบ้าง ทางรายการจึงได้เชิญ ริว จิตสัมผัส มาร่วมไขข้อข้องใจในเรื่องนี้

          ก่อนอื่น ริว จิตสัมผัส ได้ขอวันเดือนปีเกิด พร้อมกับถามว่า ถ้าจะถามว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน ก่อนอื่นเลยคุณพ่อคุณแม่ได้เรียกให้เขากลับบ้านหรือไม่ ซึ่ง นายวรวุฒิ ยอมรับว่า เรียก โดยครั้งแรกเอาพระไปเชิญ แต่หลายคนบอกว่าลูกอาจจะยังอยู่ที่เดิม จึงให้พระรูปเดิมเชิญมาอีกครั้ง จึงไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน และตอนนี้ก็มีการสร้างห้องนอนไว้ให้ลูกด้วย ริวจึงกล่าวว่า เขาอยู่ที่บ้านนั่นแหละ แม้ว่าการเสียชีวิตแบบนั้น วิญญาณเขาจะยังอยู่ที่เดิม 7 วันแรก แล้วเขาก็จะไปตามแรงกรรมของเขา แต่ที่เขาไปไหนไม่ได้เนื่องจากมีจิตผูกพันที่พ่อและแม่ขอให้เขามาอยู่ด้วย







          ส่วนเขาจะไปเกิดได้หรือไม่นั้น ริว จิตสัมผัส บอกว่า อยู่ที่พ่อแม่ว่าจะทำใจให้เขาไปได้หรือยัง เพราะฉะนั้นถ้าอยากให้เขาไปที่ดี ๆ ทำบุญแล้วให้เขาไปเกิดจะดีกว่า และอย่าทำอะไรเพื่อเป็นการพันธนาการไม่ให้เขาไป อย่างเรื่องที่ทำห้องให้ลูก เพราะมันเหมือนเป็นมีดที่คอยทิ่มตลอดเวลา แล้วเราจะคิดถึงจนไม่เป็นอันทำอะไร ผมไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาทุกข์ใจ แต่อยากให้มีความหวังว่าสิ่งที่ทำบุญให้เขาทุกวันจะส่งผลให้เขาได้ไปเกิดในที่ดี ๆ

          นอกจากนี้ การที่พ่อแม่เหนี่ยวรั้งเอาไว้ ยังเป็นการซ้ำเติมให้เขาไปไหนยากขึ้น เพราะเขารู้สึกเหมือนลูกอกตัญญูที่ทำให้พ่อแม่ร้องไห้ทุกวัน เพราะฉะนั้นตอนนี้เมื่อจบคดีไปแล้วอยากให้พ่อแม่ปล่อยวาง เพื่อที่เขาสามารถไปยังที่ ๆ ดีได้

          ท้ายนี้ คุณพ่อของน้องรถตู้ กล่าวว่า ผมอยากบอกลูกว่าเขาอยู่ในใจผมเสมอ และตอนที่เขาเสีย ผมคิดจะตามเขาไปด้วย แต่เพื่อนหลายคนให้กำลังใจว่า ถ้าผมเสีย ใครจะทำบุญให้ลูก ผมจึงคิดว่า ผมต้องอยู่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เขาต่อไป

          และนี่คือเรื่องราวของ ความรักความผูกพัน ระหว่างพ่อแม่ และวิญญาณของน้องรถตู้ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า วิญญาณของเธอจะไปสู่สุคติ อยู่ในภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สายใยรักพ่อแม่ บ่วงสุดท้ายของ น้องรถตู้ ในคนอวดผี อัปเดตล่าสุด 16 มีนาคม 2555 เวลา 14:48:19 147,801 อ่าน
TOP