เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra
ยิ่งลักษณ์ ห่วง! สั่งประชุมแก้ปัญหาปากท้องด่วน หลังราคาสินค้าพุ่งขึ้นหลายรายการ เผยต้องดู ห่วงโซ่อุปสงค์อุปทาน ขณะที่ รมว.คลัง ยันไม่มีการปรับค่าภาษีเพิ่มเกิน 7% แน่นอน
วานนี้ (15 มีนาคม) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ยอมรับถึงปัญหาราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ว่า จะมีการประชุมในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในวันนี้ (16 มีนาคม) เวลา 8.00 น. โดยส่วนตัวแล้ว ตนเองก็ติดตามเรื่องราคาสินค้ามาโดยตลอด และรู้สึกเป็นห่วงและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ ก็ต้องมองทั้งสองมุม ทั้งในส่วนของผู้บริโภค และทางภาคการเกษตร ที่วัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลต้องลงมาดูเรื่อง "ห่วงโซ่อุปสงค์อุปทาน" ว่าทั้งหมดเกิดปัญหาตรงไหน และจะเข้าไปแก้ไขได้อย่างไร โดยเบื้องต้น ตนได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ดูแล และติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่อไป
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า กรณีข่าวลือเรื่องปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น ทางรัฐบาลขอยืนยันว่ายังไม่มีนโยบายปรับแต่อย่างใด ถึงแม้ว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ของประเทศไทย จะเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในโลกก็ตาม
รมว.การคลัง กล่าวต่อว่า การจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีป้าย ว่า ยังไม่ได้พิจารณาเช่นกัน เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในนโยบายของรัฐบาล จึงยังไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการในช่วงนี้ แต่หากดำเนินการก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหลักของการเก็บภาษีจะต้องเก็บจากกระแสรายรับของประชาชน แต่การจัดเก็บภาษีทรัพย์สินดังกล่าวเป็นการเก็บจากทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งหากดำเนินการจริงอาจสร้างผลกระทบต่อประชาชน จึงต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการพิจารณา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
