เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กฟผ.สั่งกักน้ำเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ หวังเก็บไว้ใช้เดือนเมษายน พร้อมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ง 30 จังหวัด ส่วนเชียงใหม่ต้องโปรยน้ำทั่วเมืองเพื่อปัญหาหมอกควัน
เมื่อวันที่ 22มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวจากศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 30 จังหวัด ได้แก่ กำแพง เพชร ลำปาง ลำพูน สุโขทัย น่าน พะเยา พิษณุ โลก แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงราย เชียงใหม่ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู ศรีสะเกษ ขอนแก่น อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ มหาสารคาม อุดรธานี กาฬสินธุ์ เพชรบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และปราจีนบุรี
โดย นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อากาศร้อนและแห้งแล้งในหลายพื้นที่ ซึ่งคาดว่าจะแล้งหนักในช่วงเดือนเมษายน ที่ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ จึงมีมติปรับลดปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ในส่วนที่เกินความต้องการใช้น้ำลงอีก แล้วค่อยเพิ่มการระบายน้ำให้มากขึ้นในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่มีความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค รวมถึงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดด้วย
ส่วนปัญหาหมอกควันหนาแน่นในภาคเหนือ นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า ปัญหานี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ชาวบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันฝุ่นละอองในอากาศ เพราะมีการเผาป่าทั้งในประเทศเพื่อนบ้านและในประเทศไทย ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มล้มป่วยจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ทางกองบิน 41 ได้นำเครื่องบินซี 130 และเครื่องบินขนาดเล็กอีก 2 ลำ นำน้ำขึ้นไปโปรยในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อลดปัญหาหมอกควัน โดยกำหนดออกปฏิบัติการ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและบ่าย เพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
