สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ดีเอสไอจ่อสั่งไม่ฟ้องคดีผังล้มเจ้า อ้างกล่าวหาลอย ๆ เตรียมแถลงปิดสำนวน 2 เมษายนนี้ ผู้แทน ศอฉ.ยันข้อมูลเพียงพอ หลังหอบเอกสารพร้อมซีดีมาชี้แจงเพิ่ม
วานนี้ (30 มีนาคม) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.อ.วิจารณ์ จดแดง ผู้อำนวยการส่วนกฎหมาย กอ.รมน. ในฐานะผู้แทนศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เข้าชี้แจงถึงกรณีแผนผังล้มเจ้าจำนวน 39 รายชื่อ ต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอ โดยได้นำหลักฐานเป็นเอกสารจำนวน 1 ลังกระดาษ และซีดี 8 แผ่น ซึ่งเป็นข้อมูลพฤติกรรมของบุคคลที่เกี่ยวกับแผนผังล้มเจ้า ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้น พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนการกระทำความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐว่าด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ชุดสอบสวน (คดีผังล้มเจ้า) ให้สัมภาษณ์ว่า คำให้การของ พ.อ.วิจารณ์ เป็นการให้ข้อมูลด้านการข่าว ซึ่งไม่ได้มีรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม และยังยืนยันตามคำให้การเดิม ส่วนรายละเอียดเรื่องผังล้มเจ้า พ.อ.วิจารณ์เองก็ไม่เคยทราบมาก่อน ซึ่ง พ.อ.วิจารณ์เพิ่งได้เห็นตอนที่ดีเอสไอเรียกมาสอบวันนี้ ส่วนเอกสารที่เขานำมายื่นเพิ่ม ก็เป็นเอกสารทางด้านการข่าว ซึ่งไม่ได้เป็นพยานหลักฐานทางคดี และดีเอสไอก็จะดำเนินการสืบสวนเพื่อหารายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป
พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวว่า ดีเอสไอคงจะต้องสรุปไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ เพราะตอนนี้เราได้สืบสวนพยานที่เกี่ยวข้องครบแล้วตามที่เรากำหนดไว้ ซึ่งยังไม่ปรากฏว่ามีพยานคนไหนให้การว่าใครเป็นคนจัดทำแผนล้มเจ้าขึ้นมา ประกอบกับข้อมูลที่กล่าวหากลุ่มบุคคลในผัง ก็ไม่ปรากฏชัดเจนว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ร่วมกันกระทำผิด ที่ไหน เมื่อไหร่
"ก็คงจะว่ากันไปตามคดีอาญาที่ข้อมูลในการกล่าวโทษ หรือการกล่าวหาบุคคล จะต้องมีความผิดและข้อกล่าวหาที่ชัดเจน รวมทั้งบุคคลที่กระทำผิดด้วย ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าวันที่ 2 เมษายน จะเรียกประชุมคณะทำงานฯ มาประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ และสรุปปิดสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งจากการสอบสวนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะสั่งไม่ส่งฟ้องศาล เพราะไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม" พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าว
ส่วนคดีที่เกี่ยวเนื่องอีก 32 คดีนั้น พ.ต.อ.ประเวศน์ ระบุว่า ยังทำการสืบสวนอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่ปรากฏที่อยู่ในเว็บไซต์ และอินเทอร์เน็ต ซึ่งตัวบุคคลก็ได้หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ จึงเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเราได้ขอความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อที่จะขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือใด ๆ ทั้งนี้ จะไม่เรียกใครมาให้ปากคำอีก เพราะถือว่าการชี้แจงหมดแล้ว
"เรื่องนี้ไม่มีความชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้นที่รับเป็นคดีพิเศษมานานเป็นปีแล้ว และเมื่อมีการเปลี่ยนคณะทำงานสอบสวนฯ ผมก็พยายามจะทำให้มันมีอะไร แต่จนถึงขณะนี้ผู้ที่กล่าวหาก็ยังไม่มีมูลที่ชัดเจนให้ดีเอสไอนำไปขยายผลสืบสวนหาคนผิดได้ หรือที่พูดกันในภาษาชาวบ้านว่าการกล่าวหาลอย ๆ" พ.ต.อ.ประเวศน์กล่าว
ด้าน พ.อ.วิจารณ์ จดแดง กล่าวว่า ดีเอสไอเชิญมาให้ปากคำในคดีหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งตนได้เคยให้ปากคำไปแล้วเมื่อเดือนกันยายนปี 53 โดยวันนี้ได้ยืนยันคำให้การเดิม รวมถึงได้มอบเอกสารเพิ่มเติมให้กับพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวด้วย ส่วนจะเพียงพอที่จะยื่นฟ้องหรือไม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานที่จะนำไปสืบสวนสอบสวนต่อไป
เมื่อถามว่า ดีเอสไอแจ้งว่าต้องการหลักฐานอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ พ.อ.วิจารณ์กล่าวว่า ไม่ได้แจ้งอะไรเพิ่ม แต่ดีเอสไอจะนำหลักฐานที่ตนยื่นเพิ่มไปพิจารณาต่อ เนื่องจากเอกสารที่นำมายื่นให้วันนี้มีประมาณ 1 ลัง ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมคดีดังกล่าวทั้งหมด ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ขอไม่พูด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่เป็นซีดีอีก 8 แผ่น ซึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีล้มเจ้าด้วยเช่นกัน
"ข้อมูลในชั้นข่าวก็มีพอสมควร ซึ่งอยู่ที่ว่าพนักงานสอบสวนสืบสวนของดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน" พ.อ.วิจารณ์กล่าว
ขณะที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีดีเอสไอจะสั่งไม่ส่งฟ้องคดีล้มเจ้า เพราะกองทัพบกอาจถูกมองว่ามีส่วนทำให้สั่งไม่ฟ้องเพราะให้ข้อมูลไม่มีน้ำหนักว่า ไม่เป็นความจริง เพราะน้ำหนักสำนวนคดีมากน้อยขึ้นอยู่กับพนักงานสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ ซึ่งทางกองทัพจะไม่เข้าไปก้าวล่วง จากการพูดคุยกับ พ.อ.วิจารณ์ มั่นใจว่าการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานทุกอย่างชัดเจนมีน้ำหนัก จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ ดังนั้นไม่ใช่การกล่าวลอย ๆ แต่เจ้าพนักงานสอบสวนจะสรุปคดีอย่างไรก็เป็นอำนาจหน้าที่ของเขา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก