รอเก้อบ้านหลังแรก2ล้านบาท วิรุฬสั่งธอส.ชะลอยืดเกณฑ์ โอดน้ำท่วมกดราคารูด30% (ไทยโพสต์)
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
คนรอสิทธิ์ซื้อบ้านหลังแรก 2 ล้านบาทกินแห้ว วิรุฬ สั่ง ธอส.ชะลอขยายหลักเกณฑ์ เปิดไอเดีย ร่วมลงทุนบ้าน ระหว่างผู้ซื้อกับธนาคารที่เป็นรูปแบบของธนาคารอิสลามในอังกฤษ แจงอยู่ระหว่างรอผลศึกษา หากพร้อม เดินหน้าทันที เอกชนเผยพิษอุทกภัย ราคาบ้านตก 10-30%
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.การคลัง ในฐานะกำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ชะลอการขยายหลักเกณฑ์โครงการบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ที่จากเดิมกำหนดให้เฉพาะบ้านราคา 1 ล้านบาท และ ธอส.เตรียมขยายเป็น 2 ล้านบาทไว้ก่อน โดยกำลังให้ศึกษาแนวทางการร่วมลงทุน ซึ่งเป็นการดำเนินงานของธนาคารอิสลามในอังกฤษ ซึ่งจะให้คนที่อยากมีบ้านมาร่วมลงทุนกับธนาคารในการเป็นเจ้าของบ้าน 1 หลัง โดยธนาคารคิดค่าบริการเป็นเงินก้อนจากราคาบ้านตั้งแต่ตอนแรก เช่น บ้าน 3 ล้านบาท ค่าบริการ 5 แสนบาท รวมเป็น 3.5 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อจะต้องนำเงินมาจ่ายค่าบริการและทยอยซื้อหุ้นคืน หากต้องการบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเองเพียงผู้เดียว
ทั้งนี้ มอบให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ช่วยศึกษาเปรียบเทียบว่า การขยายหลังเกณฑ์บ้านหลังแรกเป็น 2 ล้านบาท หรือการร่วมลงทุน ว่าอะไรจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่ากัน ซึ่งการร่วมลงทุนนั้น จะดีสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มตั้งตัว ที่ไม่ต้องมาจ่ายดอกเบี้ยแพงในช่วงปีแรกๆ และสามารถซื้อบ้านคืนได้ทุกเวลา แต่ถ้าเป็นการกู้ ธนาคารจะกำหนดเวลาห้ามจ่ายชำระเงินกู้ทั้งหมดในกี่ปี โดยวิธีการร่วมลงทุนจะช่วยลดภาระของผู้ที่อยากมีบ้านลง
สำหรับแนวทางการร่วมลงทุนบ้านนั้น จะไม่กำหนดเฉพาะให้ดำเนินการแค่ ธอส. ถ้าผลการศึกษาออกมาดีจะให้แบงก์รัฐอื่นๆ ทั้งธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ธนาคารออมสิน มาร่วมโครงการนี้ด้วย ดังนั้น การขยายหลักเกณฑ์บ้านหลังแรกที่เดิมที่ตั้งใจจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในเดือน เม.ย.นี้ คงต้องชะลอไปก่อน
“เงื่อนไขต่างๆ ในการร่วมลงทุนนั้น คงต้องรอให้การศึกษาแล้วเสร็จก่อน ธนาคารที่จะดำเนินโครงการนี้จะกำหนดว่าต้องถือหุ้นร่วมกันกี่ปี อัตราค่าบริการจะต้องเป็นเท่าไร โดยให้นำโมเดลของธนาคารอิสลามของอังกฤษมาปรับใช้ในไทย” นายวิรุฬกล่าว
ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินธุรกิจของแบงก์รัฐนั้น จะต้องทำในสิ่งที่ธนาคารพาณิชย์ไม่ทำ หรือธนาคารพาณิชย์ทำแล้วไม่ดีพอ ส่วนโครงการพักชำระหนี้ดีนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา โดยยืนยันว่านโยบายพักหนี้ดี สรุปออกมาในเร็วๆ นี้จะไม่ทำให้ระบบการทำงานของแบงก์รัฐเสียอย่างแน่นอน
นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงสถานการณ์ของธุรกิจบ้านมือสองในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ภาวะตลาดยังคงซบเซาต่อเนื่อง ขณะที่มีบ้านมือสองที่พร้อมจะขายในตลาดเพิ่มขึ้น 10-20% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3-4 แสนหน่วย
ทั้งนี้ จากการสำรวจโซนน้ำท่วม พบว่ามีทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองได้รับผลกระทบ 1.5-1.6 ล้านหน่วย ในจำนวนนี้มีทั้งบ้านที่เข้าอยู่อาศัยมานานแล้ว บ้านที่เพิ่งเข้าอยู่อาศัยและบ้านที่ยังไม่เคยเข้าอยู่อาศัยเลย รวมทั้งกลุ่มบ้านมือสองที่กำลังประกาศขายอยู่ เพราะหลังจากน้ำท่วมแล้วทำให้มีบ้านมือสองที่พร้อมจะขายในตลาดเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อราคาบ้านที่ลดลง 10-30% ขึ้นอยู่กับความเสียหาย.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
