มีหวัง! น้องลูกหมู เตรียมเข้าผ่าตัดสมองบวม

นักเรียนดีเด่น


ลูกหมูพร้อมเข้า ผ่าตัดสมองบวม (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          แม่น้องลูกหมูมีความหวัง หลังอาจารย์แพทย์รับจะช่วยเหลือผ่าตัดลูกสาวที่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนหัวบวมโตช่วยตัวเองไม่ได้ บนบานขอมีปาฏิหาริย์เพื่อให้ลูกกลับมาเป็นปกติ

         ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี น.ส.หนึ่งฤทัย พลขีดขิน หรือ "น้องลูกหมู" อายุ 18 ปี นักเรียนดีเด่น ชั้น ม.5 โรงเรียนสวายจีกพิทยาคม อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 7 บ้านหนองขาม ต.สวายจีก อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ ประสบอุบัติเหตุรถชนบาดเจ็บสาหัสศีรษะบวมโต จากการขออนุญาตแม่ไปทำงานกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินช่วยเหลือครอบครัวที่มีฐานะยากจน ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งนางสังวาลย์ พลขีดขิน อายุ 52 ปี มารดา ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากผู้มีใจบุญในการรักษาบุตรสาวให้หายเป็นปกติตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
         ขณะนี้นางสังวาลย์ ผู้เป็นแม่ และญาติพี่น้อง ได้เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยบีบนวดตามร่างกาย แขน ขา ให้น้องลูกหมูได้คลายความเมื่อยล้าจากการนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานานๆ พร้อมกับช่วยกันให้น้องลูกหมูได้ทำกายภาพบำบัดตามที่หมอแนะนำด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถของตัวเอง โดยยกน้องลูกหมูให้นั่งรถเข็นออกมานอกบ้าน ได้พบปะกับผู้คน ขณะที่เพื่อน ๆ นักเรียนต่างแวะเวียนมาเยี่ยมให้กำลังใจตลอด

         นางสังวาลย์กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงนี้ ลูกสาวจะบ่นเจ็บบริเวณศีรษะที่มีเนื้องอกบวมออกมา โดยจะเป็นเหมือนน้ำใสตรงบริเวณนั้น มีลักษณะโตขึ้นๆ และจะถ่วงน้ำหนักมาเกือบถึงดวงตา ซึ่งลูกจะบ่นเจ็บตลอด โดยเฉพาะอากาศร้อนช่วงบ่าย บางครั้งมีสีหน้าซีดเซียว ตนก็ทำได้เพียงช่วยหาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดให้ลูก เพื่อทำให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลงเท่านั้น

         สำหรับที่มีข่าว นพ.ปรีดิ์ นิมมานนิตย์ อาจารย์แพทย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะเอารถพยาบาลมารับตัวน้องลูกหมูไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ตนก็พร้อมที่จะพาลูกสาวไปรักษาทันที เพราะสงสารลูกมาก ช่วงนี้จะบ่นเจ็บปวดตลอดเวลา ตนก็ไม่รู้ว่าจะช่วยลูกสาวได้อย่างไร ทำได้เพียงปลอบใจ ให้ทำใจเข้มแข็ง ซึ่งลูกก็เชื่อฟังดี

         "คนเป็นแม่เห็นลูกเจ็บ ลูกปวดทุกครั้ง ก็สงสาร ได้แต่ร้องไห้ เพราะความห่วงและสงสารลูก หากเป็นไปได้อยากจะขอเจ็บปวดแทนลูก ซึ่งก็ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง ให้คุณหมอช่วยรักษาลูกให้หายเป็นปกติ เพราะอนาคตของเขายังไปอีกไกล" แม่น้องลูกหมูกล่าวในที่สุด



ขอขอบคุณข้อมูลจาก


[19 เมษายน] นักเรียนดีเด่น ถูกรถชนสาหัส-สมองบวม ขาดเงินค่ารักษา


นร.สาวถูกรถชนสาหัสสมองบวมขาดเงินค่ารักษา (ไทยโพสต์)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

          เด็กสาวนักเรียนดีเด่นเดินทางเข้าทำงานในกรุงเทพฯ ช่วงปิดเทอมใหญ่ หวังหาเงินช่วยแม่หลังผู้เป็นพ่อหนีเอาตัวรอดไปเมื่อ 4 ปีก่อน โชคร้ายถูกรถชนได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวมโตเท่าลูกส้มโอ นอนแซ่วให้แม่ดูแล หมอบอกต้องใช้เงินถึง 2 แสนเพื่อรักษาตัว วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ

          เมื่อวันที่ 19 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 143 หมู่ 7 บ้านหนองขาม ต.สวายจีก อ.เมืองฯ จ.บุรีรัมย์ หลังรับทราบว่ามีนักเรียนหญิงประสบอุบัติเหตุ ปัจจุบันมีสภาพร่างกายพิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อไปถึงพบนางสังวาลย์ พลขีดขิน อายุ 52 ปี เจ้าของบ้าน กำลังดูแล น.ส.หนึ่งฤทัย พลขีดขิน หรือน้องลูกหมู อายุ 18 ปี สภาพศีรษะด้านซ้ายปูดบวมโต นอนอยู่บนเตียง เพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

          นางสังวาลย์ กล่าวว่า หลังจากลูกสาวสอบไล่ปลายภาค ม.5 โรงเรียนสวายจีกพิทยาคม น้องลูกหมูได้มาขอแม่ไปทำงานกับเพื่อนที่กรุงเทพฯ จะได้ค่าแรงวันละ 210 บาท โดยลูกสาวบอกว่าจะหาเงินช่วยแม่ เพราะแม่ทำงานหนัก ตนจึงอนุญาตให้ไป หลังจากทำงานได้ 15 วัน ซึ่งช่วงนั้นตรงกับวันที่ 30 มีนาคม 2554 ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าจะโอนเงินให้แม่ พอโอนเงินเสร็จได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับที่พัก แต่โชคร้ายลูกสาวถูกรถปิกอัพพุ่งชนอย่างจังจนสลบคาที่ ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาล ไม่รู้สึกตัวนาน 15 วัน โดยหมอที่กรุงเทพฯ บอกว่าสมองด้านซ้ายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก จากนั้นจึงได้นำตัวกลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์

          นางสังวาลย์ บอกว่า ตนเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จำเป็นต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกสาว เนื่องจากสามีที่มีอาชีพขับรถรับจ้างที่กรุงเทพฯ ได้หายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อ 4 ปีก่อน คาดว่าน่าจะหนีไปมีภรรยาใหม่แล้ว ครั้งนั้นน้องลูกหมูยังปลอบแม่ว่าไม่ต้องเสียใจ จะตั้งใจเรียนให้จบและจะหาเงินเลี้ยงแม่เอง ทั้งนี้ ลูกสาวเป็นคนเรียนเก่ง ได้เกรดเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.5 จนได้รับใบประกาศเกียรติคุณเป็นจำนวนมาก ความฝันของลูกต้องการเป็นพยาบาลให้ได้ แต่มาก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน

          "ฉันยังหวังว่าลูกจะต้องหายเป็นปกติ และกลับมาเรียนหนังสือได้เหมือนเดิม เพราะอาการเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาอยู่ที่ศีรษะบวม ขณะนี้หมอยังช่วยอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ศีรษะยุบตัวก่อนจึงจะนำกะโหลกเทียมใส่ให้ หมอบอกหากต้องการรักษาให้ดีจะต้องใช้เงินร่วม 200,000 บาท ซึ่งครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงิน ประกอบกับหนี้สินเดิมที่กู้ให้สามีไปออกรถรับจ้างก็ยังใช้หนี้เขาไม่หมด" นางสังวาลย์ กล่าว

          นางสังวาลย์ กล่าวว่า ขอความเมตตาจากผู้ใจบุญช่วยนำบุตรสาวไปรักษาให้หายขาด สามารถกลับมาเรียนหนังสือได้เหมือนเดิมอีกครั้ง เพื่อให้ความฝันที่น้องลูกหมูตั้งใจไว้ว่าอยากเป็นพยาบาลได้เป็นจริง หากผู้ใดต้องการช่วยเหลือน้องลูกหมู สามารถบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาบุรีรัมย์ เลขบัญชี 297-4-49311-2 ชื่อบัญชี นางสังวาลย์ พลขีดขิน หรือโทรศัพท์ 08-9579-8185



ขอขอบคุณข้อมูลจาก






เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มีหวัง! น้องลูกหมู เตรียมเข้าผ่าตัดสมองบวม โพสต์เมื่อ 20 เมษายน 2555 เวลา 08:23:28 5,777 อ่าน
TOP
x close