x close

เฮ! รัฐบาลสั่งยกเลิกแผนขึ้นภาษีทุกประเภท



นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          รัฐบาลประกาศยกเลิกแผนขึ้นภาษีทุกประเภท หลังโดนทีมที่ปรึกษาทักท้วง กลัวเกิดผลกระทบต่อประชาชน

          หลังจากที่รัฐบาลเตรียมวางแผนปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้หลักกระจายรายได้ให้แบ่งชั้นอัตราการจัดเก็บภาษีถี่ขึ้น และปรับเพิ่มเพดานสูงสุด รวมทั้ง ภาษีสรรพสามิต, ภาษีเครื่องปรับอากาศ, ภาษีโทรคมนาคม, และภาษีรถยนต์ที่คำนวณตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นั้น

          ล่าสุด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐในตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ถึงเวลาจำเป็น โดยส่วนหนึ่งไม่อยากให้ประชาชนมองว่าการขึ้นภาษีในครั้งนี้เป็นเพราะรัฐบาลทำร้ายได้ไม่ตรงตามเป้าหมาย 1.98 ล้านบาท ซึ่งตนยืนยันว่ามีการทำรายได้ครบตามเป้าหมายแล้วแน่นอน โดยไม่ต้องมีการปรับขึ้นราคาภาษีใด ๆ

          นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนเองยังเข็ดกับการที่คนมองว่าเกิดเงินเฟ้อขึ้น เพราะการปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทด้วย ทั้งที่ ถ้าผู้รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์จริง ๆ จะเข้าใจว่าไม่ใช่ ดังนั้นจึงทำให้เรื่องการขึ้นภาษีคงต้องนิ่ง ๆ ไปก่อน

          ขณะที่ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับกรมจัดเก็บภาษีทั้งหมด กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับขึ้นภาษีทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ประชาชนว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ และประชาชนก็เพิ่งเจอกับเหตุการณ์น้ำท่วมมา หากปรับขึ้นอัตราภาษีตอนนี้ก็จะทำให้ถูกตำหนิได้ ซึ่งจะแก้ไขด้วยการไปอุดช่องว่างทางภาษีต่าง ๆ ที่มีอยู่ก่อน รวมทั้งการปราบปรามใบกำกับภาษีปลอมที่มีมูลค่ารวมแล้วหลายพันล้านบาทด้วย

          ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมกันของ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) กับนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์, นายนิพัทธ พุกกะณะสุต และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ที่ประชุมมีความเห็นตรงกัน 5 ข้อ ดังนี้

          1. ลดข้อจำกัดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ด้วยนโยบายขาดดุล และเร่งรัดขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล
          2. ดำเนินนโยบายด้านการเงินอย่างผ่อนปรน เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ กระตุ้นการลงทุน และให้เงินบาทอ่อนตัวลงเพื่อสนับสนุนการส่งออก
          3. บริหารการจัดการน้ำมัน ผ่านกองทุนน้ำมัน และให้ความสำคัญกับการดูแลเรื่องต้นทุนด้านพลังงาน
          4. เร่งแก้ปัญหาด้านแรงงาน เพื่อลดข้อจำกัดในการขยายตัวของภาคเอกชน
          5. หาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพของภาคการผลิต โดยเฉพาะภาคธุรกิจขนาดย่อม (SMEs) ให้เป็นระยะเร่งด่วน

          อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีการชี้แจงถึงเรื่องการจัดเก็บรายได้ในปี 2555 ว่า ตั้งเป้าไว้เหมือนเดิมที่ 4.05 แสนล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะจัดเก็บรายได้ตรงตามเป้าหมาย แม้ไม่มีการปรับขึ้นอัตราภาษี



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เฮ! รัฐบาลสั่งยกเลิกแผนขึ้นภาษีทุกประเภท โพสต์เมื่อ 30 เมษายน 2555 เวลา 16:24:22
TOP