x close

3 นักวิชาการ ป้อง สมยศ บริสุทธิ์ โจมตีแค่ ป๋าเปรม



พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

สมยศ พฤกษาเกษมสุข
สมยศ พฤกษาเกษมสุข
 

          3  นักวิชาการขึ้นเบิกความ ป้อง สมยศ พฤกษาเกษมสุข ไม่ได้หมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ แค่รับบทความมาตีพิมพ์ในฐานะบรรณาธิการ อยู่ที่จินตนาการของผู้เขียนและผู้อ่าน ชี้ อำมาตย์ หมายถึง พล.อ.เปรม เท่านั้น 

          เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้นัดสืบพยานจำเลยเป็นวันที่สอง ในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทย์ ยื่นฟ้อง นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาเพื่อประชาธิปไตย และอดีตบรรณาธิการหนังสือวอยซ์ออฟทักษิณ จำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งพยานฝ่ายจำเลยขึ้นเบิกความต่อศาล จำนวน 3 ปาก ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รองศาสตราจารย์สุดสงวน สุธีสร อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

          โดย นายปิยบุตร ขึ้นเบิกความต่อศาล ระบุว่า ตนไม่รู้จักกับนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นการส่วนตัว แต่จากการติดตามข่าวการเมือง ซึ่งติดตามทั้งฝ่ายเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่มองว่าบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น มีโทษสูงเกินไป และมีการเพิ่มโทษขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของคนทั่วไปในการแสดงความคิดเห็น และตนเห็นว่าเนื้อหาในนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ ไม่ได้มีเนื้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ และเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลและระบบอำมาตย์ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเมืองที่คอยควบคุมการทำงานของรัฐบาล และตนคิดว่าหากมีการหมิ่นสถาบันนั้น เป็นการทำให้สถาบันกระทบกระเทือน แต่ไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ

          ด้าน รองศาสตราจารย์สุดสงวน ขึ้นเบิกความต่อศาลว่า ตนเคยเขียนบทความต่าง ๆ มาแล้วหลายบทความ และถ้าเป็นบทความทางวิชาการ ทางบรรณาธิการจะไม่มีการปรับเปลี่ยนข้อความ และจากการที่ตนอ่านบทความของนิตยสารวอยซ์ออฟทักษิณ คิดว่าไม่มีส่วนที่ทำให้พระมหากษัตริย์เสียหาย เพราะเป็นการใช้จินตนาการของผู้เขียนในการเขียนบทความ และขึ้นอยู่กับจินตนาการผู้อ่าน โดยกลุ่มอำมาตย์ในความหมายของกลุ่ม นปช. คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นกลุ่มอำมาตย์ที่มักอ้างว่าทำเพื่อพระมหากษัตริย์ และมาตรา 112 ที่นำมาดำเนินคดีกับจำเลยนั้น ตนคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง

          ต่อมา ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุธาชัย ขึ้นเบิกความต่อศาลในรอบบ่ายเป็นปากสุดท้าย ระบุว่า จากบทความที่ถูกกล่าวหาว่ามีข้อความหมิ่นนั้น ไม่มีข้อความหรือใจความใด ๆ ที่พูดถึงพระราชจริยวัตรของพระมหากษัตริย์เลย แต่ในบทความจะหมายถึง พล.อ.เปรม ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร โดยคดีนี้นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เองก็ไม่ใช่คนเขียน จะฟ้องทำไม ไม่ฟ้องคนใช้นามปากกา "จิตร พลจันทร์" แต่ถึงฟ้อง ตนก็มองไว้ไม่ผิดอีก เพราะเป็นการเขียนตามจินตนาการ แถมไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำคดีนี้เรียกได้ว่าเป็นการจับแพะ เพราะไปยึดตาม พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ ปี 2484 ซึ่งสมัยนี้มีการใช้ พ.ร.บ.2550 แทนกันแล้ว ถ้าเกิดความผิดตามลักษณะนี้ไม่มีใครฟ้อง บ.ก. กันแล้ว และพอมาเป็นคดีหมิ่นเบื้องสูงก็ไม่มีสิทธิ์ในการประกัน ซึ่งถือว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน

          อย่างไรก็ตาม ด้าน นายคารม พลพรกลาง ทนายความนายสมยศ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วที่ตนยื่นคำร้องต่อศาลว่าให้ส่งเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ขัดกับรัฐธรรมนูญไปให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย แต่กลับยังไม่ส่ง ซึ่งต้องรอดูการนัดสืบพยานในวัน 3 พฤษภาคมนี้ ศาลจะนัดสืบพยานปากสุดท้าย และก็ใกล้พิพากษาแล้ว ถ้ายังไม่ส่งก็จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างแน่นอน 


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
3 นักวิชาการ ป้อง สมยศ บริสุทธิ์ โจมตีแค่ ป๋าเปรม โพสต์เมื่อ 3 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:37:40 2,918 อ่าน
TOP