x close

ท่านคมสรณ์ ชี้แจงขั้นตอนส่ง กบ นิมิตร กลับไทยล่าช้า











เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  youtube.com โพสต์โดย , oknation.net

          สืบเนื่องจากกรณีที่ทีมงานข่าวช่องเคเบิ้ลทีวีของไทย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม เหตุเกิดที่ประเทศอินเดีย ส่งผลให้ กบ นิมิตร จิตรานนท์ สามีของนักร้องชื่อดัง เจี๊ยบ วรรธนา เสียชีวิต ทั้งนี้ ญาติเตรียมนำศพ กบ นิมิตร กลับไทยเพื่อประกอบพิธีกรรม แต่ก็เกิดปัญหา เนื่องจากต้องเป็นไปตามขั้นตอนของทางกฎหมายของประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตาม ท่านคมสรณ์ พระธรรมทูตไทยในอินเดีย ได้โพสต์ข้อความผ่านบล็อกส่วนตัว เพื่อนำเสนอขั้นตอนความคืบหน้าในการส่ง กบ นิมิตร จิตรานนท์ กลับประเทศไทย โดยมีข้อความดังนี้


พยายามส่งศพนิมิตร จิตรานนท์ กลับบ้าน

          หลายท่านคงได้ข่าวการเสียชีวิตของ นิมิตร จิตรานนท์ หรือ ''กบ นิมิตร'' สามี ''เจี๊ยบ วรรธนา'' นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ดับ ขณะถ่ายสารคดีที่ประเทศอินเดีย นับเป็นข่าวช็อกวงการเพลง และก็ช็อกถึงงานพระธรรมทูตอินเดียด้วย เพราะอุบัติเหตุถึงเสียชีวิตบนท้องถนนของชาวไทยที่ไปอินเดียจะมีไม่เห็นบ่อยนัก ที่ผ่าน ๆ มาอย่างมากก็จะบาดเจ็บและจะเสียชีวิตด้วยเหตุโรคาอื่น ๆ มากกว่าอุบัติเหตุรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตเช่นนี้

          3 พฤษภาคม 2555 เวลาสามโมงเช้า ผู้เขียนได้รับแจ้งเหตุขณะเดินทางไปพาราณสี เพื่อนำคณะพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 18 ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ (มจร.) โดยได้รับโทรศัพท์จากประเทศไทยว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย จากอุบัติเหตุด้วยรถเสียหลักพลิกคว่ำชนเสาริมถนน ใกล้เมืองทันบาด (Dhanbad) ห่างจากพุทธคยาประมาณ 200 กิโลเมตร ขณะนี้กำลังติดต่อไปยังโรงพยาบาลที่นำคนเจ็บไปรักษา ในชั้นต้นได้ประสานแจ้งพระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา หัวหน้าพระธรรมทูตอินเดียได้รับทราบ และท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษีได้ส่งอาสาสมัครของวัดไทยพุทธคยา ที่เป็นนักศึกษาอยู่สันตินิเกตัน เมืองกัลกัตตา 2 คนออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุเพื่อประสานการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน

          ต่อมาไม่นาน ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุประมาณสี่สิบปี  จึงได้ส่งพระธรรมทูตจากวัดไทยพุทธคยาไปสมทบอีกสามรูป นำโดยพระมหานิพนธ์ ญาณวีโร เพื่อดำเนินการด้านเอกสารต่าง ๆ และดำเนินจัดการเรื่องศพผู้เสียชีวิต ผู้เขียนรับหน้าที่ประสานงานเรื่องแจ้งข่าวแก่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทราบภายหลังผู้เสียชีวิตคือ นิมิตร จิตรานนท์ สามีของคุณเจี๊ยบ วรรธนา นักร้องชื่อดังแห่งวงการเพลง และผู้บาดเจ็บเป็นช่างภาพ 1 คน

          บ่ายโมง ได้รับโทรศัพท์จากคุณเจี๊ยบ ว่า ขอให้นำศพสามีมาเพื่อไหว้พระพุทธเจ้าที่พุทธคยาก่อนตามความมุ่งมั่นและตั้งใจมากของสามี ที่จะมากราบพระพุทธเจ้าและถ่ายทำสารคดี เนื่องในงานพุทธชยันตีการเฉลิมฉลอง 2600 ปี ระหว่างวันที่ 4-6 ณ พุทธคยา แดนตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า จึงแจ้งว่าจะดำเนินการตามประสงค์และจักจัดการส่งศพให้ถึงเมืองไทยอย่างด่วน ที่สุด และรีบประสานงานทางสถานกงสุลใหญ่นครกัลกัตตาได้ประสาน Agency เพื่อดำเนินการส่งศพ ทางเอเจนซี่แจ้งว่าจะส่งตัวแทนมารับศพเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม เพื่อส่งกลับถึงเมืองไทยในเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม

          ศพของคุณนิมิตร มาถึงวัดไทยพุทธคยาตีหนึ่งของวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 และในช่วงเช้า มีคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ จากมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่มาถ่ายทำละครเรื่องรูปู-รูปี อยู่ที่พุทธคยา มาช่วยแต่งศพคุณนิมิตรให้อย่างดี พระราชรัตนรังษีได้จัดสวดอภิธรรมศพ ที่วัดไทยพุทธคยา เป็นวันแรก โดยมีคณะพระธรรมทูตสายต่างประเทศจำนวน 108 รูป ได้ร่วมสวดมาติกา และคณะคุณบิณฑ์ร่วมเป็นเจ้าภาพ นี่ก็นับเป็นความโชคดีของญาติ ๆ คุณนิมิตร เพราะพระจำนวนมากมาสวดส่งวิญญาณให้

          จากนั้นได้ประสานกับทางญาติว่า จะดำเนินการเรื่องจัดการนำศพของคุณนิมิตรกลับวันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม 2555 ถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม 2555 เพราะเรื่องการจัดส่งศพกลับประเทศนับเป็นความยุ่งยากที่สุดในอินเดีย ต้องการพีธีการขั้นตอนเอกสารต่าง ๆ จำนวนมาก ในกรณีการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ตำรวจท้องถิ่นต้องได้รับรายงานเบี้องต้น (FIR) และมาตรวจสอบ จากนั้นจะขอให้วิทยาลัยการแพทย์ผ่าชันสูตรศพ และออกใบรับรองการชันสูตร และแพทย์อินเดียต้องออกใบรับรองสาเหตุการเสียชีวิตตามผลที่ชันสูตร จากนั้น รัฐบาลอินเดียต้องออกใบ NOC (No Objection Certificate) การนำศพเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศ และทางสถานกงสุลก็ต้องออกใบรับรอง NOC เพื่อการอนุญาตให้นำศพกลับเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ LIU (Local Inteligent Unit) ต้องรับรอง การส่งศพบริษัทขนส่งทางเครื่องบิน Air Cargo ต้องดำเนินการออก AWB Number  พร้อมจัดส่งตามที่อยู่ของญาติผู้เสียชีวิตที่เมืองไทยตามที่สถานทูตออกแจ้ง ไปทางรัฐบาลอินเดีย เพื่อให้ส่งศพไปให้ตามที่อยู่ผู้รับที่รัฐบาลไทยรับรอง

          ส่วนช่างภาพทราบชื่อภายหลัง คือ นายธิติ ศรีจันทร์ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไหปลาร้าขวาหัก และลำไส้เล็กถูกกระแทกหนัก ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Apollo Kolkatta มีอาสาสมัครคือ เกสินี ศรีสองเมือง พร้อมคนไทยอีกหนึ่งคนไปช่วยดูแลและประสานญาติต่อไป ทราบว่า ขณะนี้อาการพ้นขีดอันตราย และญาติเดินทางมาเฝ้ารักษาอาการไข้ที่โรงพยาบาล ณ เมืองกัลกัตตาแล้ว

          วันที่ 5 พฤษภาคม รอตัวแทน Agency อินเดีย ที่จะมารับศพไปกัลกัตตา ถึงสิบโมงเช้า ถึงรู้ว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากตัวแทนบริษัทจัดส่งศพดังกล่าวเดินทางมา โดยไม่ทราบเหตุผล จึงได้รีบแจ้งสถานกุงสุลให้ทราบ เพื่อหาบริษัทอื่นดำเนินการแทน และในขณะเดียวกันก็เตรียมการส่งศพไปยังกัลกัตตา ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณสิบชั่วโมง กงสุลแจ้งว่าได้ตัวแทนดำเนินการจัดส่งศพแล้ว จึงได้จัดส่งศพ โดยรถ Traveler Force ออกจากวัดไทยพุทธคยาเวลาบ่ายโมง  มีพระมหานิพนธ์ พระชยโพธิ พระ 2 รูป นั่งไปพร้อมรถส่งศพ และผู้ช่วยคนอินเดียอีก 3 คน พร้อมจัดรถยนต์อีกหนึ่งวิ่งตามไปเพื่อประสานงานด้านความสะดวกต่าง ๆ 

          ในระหว่างทาง พระมหานิพนธ์ต้องแวะไปโรงพยาบาลที่รักษา เพื่อรับเอกสารใบรับรองการเสียชีวิต (Death Certificate) จากนายแพทย์ของอินเดียที่รับรักษาจนถึงเสียชีวิต ช่วงเย็นได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่อินเดียออกเอกสาร NOC ให้ไม่ทัน จึงไม่สามารถส่งศพกลับคืนวันที่ 5 พฤษภาคมได้ วันนี้เป็นวันอาทิตย์และเป็นวันหยุดอีกด้วย จึงต้องรอต่อไป มาถึงตรงนี้มีลุ้นหนัก เพราะแรงกดดันจากญาติผู้เสียชีวิตเริ่มหนักขึ้น ด้วยรอมาหลายวันแล้ว ซึ่งเราทราบดีว่าอินเดียก็คืออินเดีย แต่ก็อยากจะบอกว่า ฝ่ายพระก็ทำงานกันเต็มที่แล้วนะโยม โดยเฉพาะท่านพระมหานิพนธ์ไม่ได้จำวัดมาสองวันแล้ว ผู้เขียนเองต้องใช้โทรศัพท์ประสานงานตลอด อาศัยโทรศัพท์มือที่สามารถรับส่ง โอนถ่าย ข้อมูล ผ่านทางอีเมลได้ จึงทำงานได้สะดวกขึ้น

          วันที่ 6 พฤษภาคม 2555 ขณะนี้เวลาที่อินเดียบ่ายสองโมงครึ่งแล้ว ก็ยังไม่มีคำตอบว่าเอกสารทั้งหมดพร้อมหรือยัง แล้วคืนนี้จะได้ส่งศพคุณนิมิตร กลับไปหาญาติ  ๆ กลับไปหาโยมเจี๊ยบ กลับไปหาลูกเนปาลและทิเบตได้หรือไม่ .. ขณะนี้เจ้าหน้าที่สถานกุงสุลใหญ่นครกัลกัตตา และตัวแทนพระธรรมทูตกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งการรอคอยด้วยความโศกเศร้าของญาติมิตรทางบ้าน ผู้เขียนทราบดีมิอาจสาธยายความรู้สึกนั้นได้เลย แต่พระธรรมทูตไทยในอินเดีย พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จะต้องทำงานให้ดีที่สุด สุดกำลังความสามารถ หากคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบโดยด่วนที่สุดต่อไป

          ขอแสดงความเสียใจกับคุณเจี๊ยบ วรรธนา ลูก ๆ และญาติ ๆ ของคุณนิมิตรด้วยจิตแห่ง อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธมฺมิโน อุปปัชชิตวา นิรุฌชนฺติ เตสํ วูปสะโม สุโข.. ขอดวงวิญญาณของนิมิตร จิตรานนท์ จงไปสู่สุคติ สันดุสิตภพ ด้วยเจตนาแห่งมหากุศล ศรัทธา ความตั้่งใจที่ได้มาสู่แดนพุทธองค์ครั้งนี้ด้วยเทอญ ฯ


ท่านคมสรณ์ - พระธรรมทูตไทยในอินเดีย

6 พฤษภาคม 2555




ข้อความจาก เจี๊ยบ วรรธนา หลังจากได้รับศพสามี

          "..... กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายค่ะ.. หากมีสิ่งใดที่โยมญาติ โยมเพื่อนได้ล่วงล้ำพระอาจารย์ และผู้เกี่ยวข้องก็ขอกราบ ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย ถ้ามีโอกาสหนูคงได้ไปกราบพระอาจารย์ได้ด้วยตัวเองสักครั้ง ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงอีกครั้งค่ะ ...โยมเจี๊ยบ" และนี่คือข้อความจาก เจี๊ยบ วรรธนา หลังจากศพสามี นิมิตร จิตรานนท์ถึงบ้าน

          ทั้งนี้ โยมเจี๊ยบ วรรธนา ได้โทรศัพท์ถึงผู้เขียนเป็นคนแรก หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของสามีเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ บนถนนไฮเวย์ NH2 กัลกัตตา-พุทธคยา เมื่อ 3 พฤษภาคม 2555 เธอมีน้ำเสียงที่ปกติแฝงด้วยความเข้มแข็งแห่งหัวใจจากภายใน ไม่ได้แสดงอาการเสียใจให้เห็น เราก็ทราบความรู้สึกของผู้กำลังสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รักแน่นอนว่า ปิเยหิ สัมปโยโค ทุกโข ... การพลัดพรากจากสิ่งที่รักก็เป็นทุกข์ อาตมาไม่รู้จักโยมเจี๊ยบเป็นการส่วนตัวเลย แม้แต่รายการหรือสารคดีที่ออกอากาศที่เมืองไทยก็ไม่เคยดู ทราบในวันที่ได้รับแจ้งเหตุก็แต่เพียงว่า โยมเจี๊ยบเป็นพิธีกรจัดรายการทีวีช่องหนึ่ง และสามีคือผู้ผลิตรายการ มาทราบรายชื่อการภายหลังคือ รอยเท้า ความฝัน ผู้คน ดนตรี ที่มีคุณกบ นิมิตร เป็นโปรดิวเซอร์

          พระธรรมทูตไม่ต้องรู้จักหรอกว่า ผู้ประสบภัยเป็นใคร หน้าที่คือช่วยเหลือให้เร็วที่สุด ประสานแจ้งข่าวผู้เกี่ยวข้องให้มากที่สุด เพราะความรวดเร็วจะสามารถทำสิ่งที่ร้ายให้กลายเป็นดีได้ แต่กรณีอุบัติเหตุรุนแรงย่อมยากยิ่งที่ยื้อชีวิตของผู้บาดเจ็บสาหัสได้

          ในกรณีศพนิมิตร จิตรานนท์ พวกเราใช้ความพยายามทำงานทันที ตั้งแต่เช้าของวันแรก คือ 3 พฤษภาคม 2555 กว่าจะส่งศพกลับไทยได้ ก็วันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ใช้เวลาถึงห้าวัน แต่เบื้องต้นได้แจ้งคุณเจี๊ยบแล้วว่า จะพยายามให้เร็วที่สุด ทั้ง ๆ ที่พวกเราทราบดีว่าอินเดียเรื่องนี้ไม่มีอะไรง่ายเลย ซึ่งเร็วที่สุดของอินเดียก็คือความไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดี การส่งศพกลับเมืองไทยได้ที่ผู้เขียนมีส่วนเกี่ยวข้องครั้งนี้เป็นรายที่สาม รายแรก คือ การส่งศพของพระธรรมคุณาภรณ์ อดีตเจ้าคุณจังหวัดกาญจนบุรี ที่มามรณภาพด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อพฤศจิกายน 2550 ส่งกลับทางนครนิวเดลี รายที่สองคือศพของโยมลำเพย โตศาสรต์ เสียชีวิตที่พาราณสีด้วยเหตุโรคช็อกเพราะเบาหวาน ส่งกลับทางสนามบินพาราณสีเมื่อกุมภาพันธ์ 2553 และศพนิมิตร สามีคุณเจี๊ยบส่งกลับทางสนามบินกัลกัตต้า 8 พฤษภาคม 2555

          เส้นทางที่คุณกบ นิมิตร ใช้เดินทางนั้นคือ กรุงเทพฯ กัลกัตตา-พุทธคยา  ปัจจุบันเป็นถนนสี่เลน มีรถวิ่งจำนวนมาก และใช้ความเร็วเกินร้อยได้ในบางช่วง ปัญหาก็คือ คนอินเดียไม่มีกฎระเบียบการใช้รถใช้ถนน การเดินทางโดยรถยนต์จึงมีอัตราเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง ถ้าใช้ความเร็วสูงตามสภาพถนน แต่ผู้คนยังไม่พัฒนาการใช้วัตถุที่นับวันจะเจริญเกินกว่าที่มนุษย์จะพัฒนา ทันปัญหาอุบัติเหตุบนเส้นทางนี้ จึงนับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ข้อแนะนำในการเดินทางเส้นทาง  ทางกรุงเทพฯ–กัลกัตตา-พุทธคยา

          1. ถ้ามาด้วยการบินไทย TG 313 เครื่องบินจะถึงกัลกัตตาตีหนึ่ง กว่าจะออกจากสนามบิน ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ก็ต้องตีสอง-ตีสาม และรถที่ไปรับ ส่วนใหญ่จะส่งรถไปจากพุทธคยา ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางประมาณสิบชั่วโมง ออกบ่าย ก็ไปถึงเกือบเที่ยงคืน คนขับจะไม่ได้พักผ่อน จะรับจากสนามบินแล้วก็วิ่งรถกลับมาพุทธคยา อีกนับ 10 ชั่วโมง


          2. เราจะเห็นว่า ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุ คือ เช้าวันที่ 3 พฤษภาคม เวลาประมาณหกโมงเช้า นับเป็นช่วงที่คนขับกำลังต่อสู้กับอาการง่วงนอนอย่างหนัก อันเป็นเหตุให้หลับในได้ง่าย จะเห็นสถิติการเกิดอุบัติเหตุ เพราะคนขับหลับในส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงเวลาตีห้า ถึงหกโมงเช้า และคนขับอินเดียจะไม่ชำนาญการขับรถในเวลากลางคืน


          3. หากจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้ ก็ควรเข้าที่พักก่อน เวลาสักเช้าอีกวันของวันรุ่งขึ้น เก้าโมงเช้า ออกจากกัลกัตตา ก็จะถึงพุทธคยาช่วงเย็นพอดี ไม่รีบเร่งจนเกินไปนัก หรืออีกวิธีการหนึ่ง ก็คือให้นั่งเครื่องบินที่ลงช่วงเวลากลางวัน ที่สนามบินกัลกัตตาแล้วต่อโดยทางรถยนต์สู่พุทธคยา หรือไม่ก็ต่อเครื่องภายในประเทศไปยังเมืองปัตนะ (Patna) จากปัตนะทางรถยนต์ถึงพุทธคยาทุกวันนี้ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ถือว่าสะดวกและปลอดภัยมากกว่าเส้นทางรถยนต์


          4. กรณีนี้ ถือว่าโชคดี เพราะช่างภาพคือคุณธิติ ที่บาดเจ็บสาหัส ยังพอสามารถใช้โทรศัพท์ที่ Roaming มาจากประเทศไทยโทรศัพท์แจ้งญาติให้ทราบอย่างทันท่วงที มิฉะนั้นแล้วกว่าจะทราบเหตุคงต้องช้ากว่านี้อีกนาน


          จึงแจ้งมาเพื่อได้รับทราบและขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียผู้ที่เป็นที่รัก มา ณ โอกาสนี้


ท่านคมสรณ์ - พระธรรมทูตอินเดีย

9 พฤษภาคม 2555



อาลัย กบ นิมิตร กับ รอยเท้าความฝันผู้คนดนตรี เทปสุดท้าย


อาลัย กบ นิมิตร กับ รอยเท้าความฝันผู้คนดนตรี เทปสุดท้าย 

          กบ นิมิตร จิตรานนท์ คนบันเทิงคุณภาพ ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ณ ประเทศอินเดีย ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว รวมทั้ง เจี๊ยบ วรรธนา วีรยวรรธน ภรรยา และลูก ๆ อีก 2 คน เขาคือหัวเรือใหญ่ของรายการ "รอยเท้า ความฝัน ผู้คน ดนตรี" ที่ทำร่วมกันกับภรรยา เมื่อในวันนี้ไม่มีเขาอีกต่อไป ทีมงานจึงตัดสินใจยุติรายการลงพร้อม ๆ กับการจากไปของเขา หลงเหลือไว้เพียงแต่ความทรงจำเท่านั้น ..

           รายการ "รอยเท้า ความฝัน ผู้คน ดนตรี" ตอน "จังหวะเดียวกัน" ออก อากาศในวันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. ทางช่อง ThaiPBS จึงเป็นเทปสุดท้ายที่เก็บเอาภาพความทรงจำดี ๆ ผ่านรอยเท้าแห่งการเดินทางของผู้ชายคนนี้เอาไว้ ณ เมืองคุณหมิง มณฑลหยุนหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน

           กบ นิมิตร ทำหน้าที่พิธีกร โดยเขาและภรรยา เจี๊ยบ วรรธนา นัดเจอกับไกด์ชาวจีน ที่มีชื่อไทย ๆ ว่า วิชัย ซึ่งวิชัย จะพาพวกเขาไปเยือนเมืองบนเขา ที่อยู่ทางตอนใต้ของจีนอย่าง คุณหมิง ที่เขาบรรยายแบบติดตลกว่า "นั่งรถที่นี่ไม่ต้องนับโค้งว่าผ่านมาแล้วกี่ร้อยโค้ง เพราะจะเหนื่อยเกินไป ลำพังแค่นับว่าขึ้นเขามาแล้วกี่ลูก ก็จำไม่ไหวแล้ว"

           ในเมืองคุณหมิงมีทั้งห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัย โรงแรมห้าดาว ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด และห้องน้ำสะอาดสะอ้าน ต่างจากภาพที่ทุกคนจดจำได้ว่าห้องน้ำในเมืองจีนสกปรก ซึ่งแบบนั้นมีอยู่ตามชานเมืองมากกว่า ส่วนการสื่อสารต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต แม้จะมีการปิดกั้นเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook และ Twitter แต่ชาวจีนก็นิยมใช้โปรแกรม QQ และ Weibo (เว่ยป๋อ) ติดต่อสื่อสารกันแทน ส่วน Youtube ที่ถูกบล็อค ก็มีเว็บไซต์ Youku (ยูกู) มาให้เป็นทางเลือก

           มณฑลหยุนหนาน ได้รับการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีพืชพันธุ์ที่อุดมสมบูรณ์ เดินทางไปได้ตลอดทั้งปี และผู้คนที่นี่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเผ่าต่าง ๆ เอาไว้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวแวะไปสัมผัสบรรยากาศทางตอนใต้ของจีน ณ มณฑลแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเองก็เริ่มปรับตัวให้เข้ากับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

            กบ นิมิตร กับ เจี๊ยบ วรรธนา รวมถึง ไกด์วิชัย และทีมงาน แวะพักแรมกันที่เกสท์เฮ้าส์บนยอดเขาหงถูตี้ โดยมีผู้ใหญ่บ้านถังและภรรยาคอยดูแล ซึ่งพวกเขาคุยกันถูกคออยู่จนดึก ก่อนจะต้องขอตัวไปพักผ่อน เพราะมีภารกิจถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นในตอนรุ่งเช้า

           เช้าวันรุ่งขึ้น กบ นิมิตร ก็พาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และสัมผัสบรรยากาศสวย ๆ ของทุ่งนา บนยอดเขาหงถูตี้ ที่เขาบอกว่าถ้าให้อยู่ที่นี่สักเดือน คงแต่งเพลงได้หลายเพลงเลยทีเดียว เขาและทีมงานค่อย ๆ ลงเขาอย่างไม่เร่งรีบ แวะพักฟังเสียงต้นข้าวที่ถูกลมพัดกระทบกัน และตั้งชื่อให้มันว่า "ต้นข้าวเต้นระบำ"

           จากนั้น กบ นิมิตร และ เจี๊ยบ วรรธนา ก็พาไปแวะทักทายชาวฮาหนี เผ่าพันธุ์ที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่บนเขา ซึ่งเขาบอกว่า เท่าที่สังเกตดู วัฒนธรรมของชาวฮาหนี ผู้หญิงมักเป็นฝ่ายทำงานทุกอย่าง ส่วนผู้ชายมักไม่ได้ลงแรงเท่าไหร่ แต่เห็นทำงานได้ทุกอย่างแบบนี้ ผู้หญิงชาวฮาหนี ก็ยังเย็บปักถักร้อยเป็นทุกคน สุดท้าย เจี๊ยบ วรรธนา ก็อุดหนุนแตงโมติดไม้ติดมือกลับมาด้วย

           การทำนาขั้นบันไดบน เขาหยวนหยาง คือสิ่งที่ กบ นิมิตร สนใจ เขาบอกว่าผืนนาเหล่านี้มีอายุกว่า 200 ปีมาแล้ว ซึ่งกินพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งที่อาศัยเพียงแค่ภูมิปัญญาชาวบ้านในการสร้างสรรค์ขึ้น ทำให้เขารู้สึกว่าที่แห่งนี้คือ ศิลปะฝีมือมนุษย์ ที่สร้างสรรค์ได้เข้าจังหวะกับธรรมชาติ ทำให้มันยั่งยืนมาจนปัจจุบัน

           โชคดีของ กบ นิมิตร ที่เขาเจอเข้ากับคุณลุงศิลปินท่านหนึ่งเดินเล่นพิณอยู่ริมถนน เมื่อทักทายพูดคุยกัน คุณลุงจึงชวนแวะเวียนไปเยี่ยมบ้าน แล้วเล่าให้ฟังว่าลุงเล่นดนตรีมาตั้งแต่ยังหนุ่ม โดยหอบเอาพิณคู่ใจไปด้วยทุกที่ เมื่อไปถึงบ้านคุณลุง ภรรยาของคุณลุงก็ใจดี แต่งชุดออกงานและร่วมเล่นดนตรีให้ฟังพร้อมกับคุณลุงด้วย

           และนี่ก็คือ บรรยากาศของเมืองคุณหมิง ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาและคำบรรยายของ กบ นิมิตร พิธีกรและโปรดิวเซอร์รายการผู้จากไป รวมทั้งยังแฝงสาระความรู้สอดแทรกเข้ามาได้อย่างกลมกลืน ปิดท้ายด้วยเพลงพื้นบ้านฮาหนีที่หาฟังไม่ได้ง่าย ๆ ทำให้การรับชมรายการในครั้งสุดท้ายนี้ สนุกสนาน เพลิดเพลิน ไปพร้อม ๆ กับความเสียดายอยู่ลึก ๆ ที่จะไม่มีเขาและรายการนี้ให้ได้ชมกันอีกต่อไป

           ถึงแม้ว่า กบ นิมิตร จะจากไปแล้ว แต่เชื่อได้ว่าเขาจะยังเป็นภาพความทรงจำที่ถูกเก็บเอาไว้ในส่วนลึกของภรรยา สาว เจี๊ยบ วรรธนา และลูก ๆ รวมถึงพวกเราทุกคนตลอดไป ไม่ว่าจังหวะชีวิตของพวกเราและเขาจะเป็นจังหวะเดียวกันหรือไม่ก็ตาม ขอไว้อาลัยให้กับผู้ชายคนนี้ กบ นิมิตร จิตรานนท์ ..

















 






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ท่านคมสรณ์ ชี้แจงขั้นตอนส่ง กบ นิมิตร กลับไทยล่าช้า โพสต์เมื่อ 9 พฤษภาคม 2555 เวลา 16:03:17 5,579 อ่าน
TOP