x close

คดีแฝดวุ่น ศาลค้านประกันแฝดน้อง ตำรวจแฉมีคดีติดตัว



พิสูจน์แล้ว! คดีฝาแฝดติดคุก ตำรวจจับผิดตัวจริง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก  Youtube.com โพสต์โดยคุณ TDSTVlike


           ศาลค้านประกัน นายอานนท์ แฝดน้อง เนื่องจากมีคดีติดตัว ด้าน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชี้แฝดน้องอาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และหมิ่นศาล

            จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายอานนท์ อุ่นวงษ์ หรือ บอย แฝดผู้น้องของ นายอเนก อุ่นวงษ์ หรือ บี มาดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย นายอมรเทพ เชื้อดี จนพิการ โดยนายอานนท์ แฝดผู้น้อง ถูกจับกุมแทน นายอเนก แฝดผู้พี่ ซึ่งศาลได้ตัดสินให้นายอานนท์จำคุก แต่แล้ว นางบุญเกิด อุ่นวงษ์ มารดา ก็ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนว่า มีการสลับตัวกันรับโทษ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

            ล่าสุดวานนี้ (14 พฤษภาคม) นางบุญเกิดได้เดินทางไปยังเรือนจำธัญบุรี พร้อมกับ นายเกษม กัญฑมณี ทนายความ เพื่อเยี่ยมนายอานนท์ และให้นายอานนท์เซ็นหนังสือมอบอำนาจในการแต่งตั้งทนายความ เพื่อยื่นเรื่องพิจารณาคดีการจับผิดตัวต่อศาล นอกจากนี้ยังได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวด้วย โดยนางบุญเกิดได้กล่าวสั้น ๆ ว่า ตนหวังว่าลูกชายน่าจะมีโอกาสได้รับประกันตัวออกมา เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

            ทั้งนี้ นายเกษม กล่าวว่า ศาลได้ให้คำแนะนำว่าควรยื่นขอปล่อยตัวไป พร้อม ๆ กับการยื่นฎีกา เพื่อให้เรื่องเป็นไปในคราวเดียวกัน ซึ่งศาลก็ได้รับเรื่องไว้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะพิจารณาปล่อยตัวหรือไม่ ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

             ต่อมาในช่วงเย็นของวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ศาลได้แจ้งว่า ยังไม่อนุมัติการประกันตัวนายอานนท์ เนื่องจากเมื่อตรวจสอบประวัติแล้วพบว่า นายอานนท์มีหมายจับในคดีวิ่งราว เมื่อปี 2547 และได้หนีศาลเมื่อปี 2549 จนศาลต้องออกหมายจับใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้เมื่อนางบุญเกิดทราบว่า นายอานนท์ ไม่ได้รับการปล่อยตัว จึงเดินหน้าขอยื่นประกันตัวอีกครั้ง โดยให้เหตุผลว่า คดีจับผิดตัว และคดีวิ่งราวทรัพย์เป็นคนละเรื่องกัน

            สำหรับคดีวิ่งราวทรัพย์ของนายอานนท์นั้น เหตุเกิดที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2547 ต่อมาได้มีการสู้คดีกันในชั้นศาล จนถึงปี 2549 แต่นายอานนท์หลบหนีในชั้นศาล คดีดังกล่าวจึงต้องถูกระงับชั่วคราว และได้มีหมายจับออกมาในวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเหตุให้นายอานนท์ ใช้ชื่อของนายอเนก ปิดบังตัวจริงมาตลอด

           ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า เมื่อได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่การตรวจยึดจักรยานยนต์ แต่นายอานนท์แสดงบัตรประกันสังคมว่าเป็นนายอเนก และยอมรับว่าเป็นนายอเนกด้วย ซึ่งเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่า นายอเนกนั้นมีหมายจับในคดีอื่นอีก จึงได้ดำเนินการจับกุม และพิมพ์ลายนิ้วมือ

           ทั้งนี้ ในการพิมพ์ลายนิ้วมือนั้น เป็นการพิสูจน์ตรวจสอบประวัติที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร ว่าคนที่ชื่อนายเอนกมีประวัติก่อคดีหรือถูกออกหมายจับในคดีอื่นอีกหรือไม่  แต่ไม่ได้เป็นการพิสูจน์ว่าเป็นนายอเนกตัวจริง เนื่องจากตามกฎหมายถ้าแสดงบัตร และยอมรับก็ถือว่าเป็นการแสดงตัวบุคคลแล้ว และตลอดเวลาที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายอานนท์ ก็ใช้ชื่อนายอเนกมาโดยตลอด ในการเซ็นเอกสารต่าง ๆ

           พล.ต.ท.จรัมพร  กล่าวต่อว่า การสืบสวนข้อเท็จจริง ในขณะนี้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ต้องดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายในเรื่องจับตัวผิด และต้องนำนายอเนกตัวจริงมาดำเนินคดี ซึ่งกระบวนการนี้ตำรวจไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากพ้นขั้นตอนของตำรวจไปแล้ว
  
            นอกจากนี้ พล.ต.ท.จรัมพร ยังกล่าวอีกว่า ต่อจากนี้ไปมีความเป็นไปได้ที่นายอานนท์ถูกฟ้องกรณีแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน และยังอาจจะถูกแจ้งความในข้อหาหมิ่นศาลอีกด้วย เนื่องจากนายอานนท์กล่าวเท็จในศาล อย่างไรก็ตาม เมื่อตนได้สอบถามนายอานนท์ว่าทำไมต้องยอมรับว่าเป็นนายอเนก แต่นายอานนท์ไม่ยอมตอบอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

           อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า เรื่องที่ผู้ต้องหามีฝาแฝด ตนก็เพิ่งรู้เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการจับกุมผิดคนอย่างแน่นอน เพราะนายอานนท์ยอมรับเองว่าเป็นนายอเนก แต่ต่อจากนี้ไปในการจับกุมผู้ต้องหา คงต้องสังเกตด้วยว่า ผู้ต้องหามีฝาแฝดหรือไม่


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คดีแฝดวุ่น ศาลค้านประกันแฝดน้อง ตำรวจแฉมีคดีติดตัว โพสต์เมื่อ 15 พฤษภาคม 2555 เวลา 08:41:15 2,193 อ่าน
TOP