เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mcot.net, รายการ เรื่องเล่าเช้านี้
ภัยโลกออนไลน์ แก๊งโจ๋ ใช้เฟซบุ๊กรูปสาวหน้าตาดี ลวงเหยื่อชายหนุ่มชิงรถจักรยานยนต์ ตำรวจแกะรอยจนรู้แหล่งกบดานรวบตัวได้ครบแก๊ง
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ โดยเปิดเพจเฟซบุ๊กแฝงตัวเป็นสาวสวย เพื่อหลอกล่อเหยื่อชายหนุ่มให้มาตามจุดนัดพบเพื่อปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์สิน และรถจักรยานยนต์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งความร้องทุกข์จาก นายธีระยุทธ ยุทธกลาง อายุ 19 ปี ว่าถูกหญิงสาวสวยที่รู้จักกันผ่านทางโลกออนไลน์เฟซบุ๊กใช้ชื่อติดต่อพูดคุยกันคือ "พี่เตย คิ้วเข้ม" นัดหมายให้ตนขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เอส 90 สีเขียว ซึ่งเป็นรถโบราณแต่งสวย ไปพบที่บริเวณหน้าวัดศรัทธาราม ใกล้โรงเรียนบุญวัฒนา 1 ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อไปถึงที่นัดพบก็มีกลุ่มคนร้ายจำนวน 6 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจำนวน 3 คัน มาจอดขวางหน้ารถพร้อมกับขู่ทำร้าย โดยอ้างว่ามีปืน ขู่ว่าจะให้ฆ่าทิ้ง หรือจะให้เอารถจักรยานยนต์ไป ตนจึงตัดสินใจให้คนร้ายเอารถจักรยานยนต์ขับหลบหนีไป จากนั้นจึงมาแจ้งความร้องทุกข์
จากนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้แฝงตัวเป็นนักท่องโลกออนไลน์ เข้าไปสมัครเป็นเพื่อนกับผู้ต้องหาตามที่ได้รับแจ้งความจากนายธีระยุทธ จนสืบทราบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายปล้นมานั้น นำไปทำสีอยู่ที่อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ในบ้านหนองสองห้อง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงเข้าตรวจสอบและทราบว่า ผู้ที่เอามาซ่อมคือ นายเกษม รักกลาง อายุ 19 ปี จากนั้นจึงเข้ากับกุมนายเกษม และยังขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมขบวนการได้อีก 4 คนดังกล่าว ได้แก่ น.ส.จันทิมา ชูประเทศ อายุ 19 ปี และเยาวชนชายอายุระหว่าง 14-16 ปี อีก 3 คน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน
จากการสอบสวน นายเกษมให้การรับสารภาพว่า ตนนำรูปแฟนสาวมาเปิดเฟซบุ๊กใช้ชื่อ "พี่เตย คิ้วเข้ม" เพื่อให้หนุ่ม ๆ หลงกลอุบายว่าเป็นหญิงสาวที่ต้องการรู้จัก และเมื่อเหยื่อขอเป็นเพื่อนก็จะชวนพูดคุยกันระยะหนึ่งจนตายใจ ก่อนที่จะนัดเจอกันเพื่อปล้นทรัพย์ ซึ่งทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้งจะเอาแต่เพียงทรัพย์สินที่ติดตัวมา แต่ครั้งนี้ที่ปล้นเอารถจักรยานยนต์ เนื่องจากชอบรถจักรยานยนต์โบราณ จึงวางแผนนัดเจอเหยื่อแล้วลงมือปล้นดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีข้อหาปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก