จับหนุ่มโหด ฆ่าภรรยาสยอง ก่อนโยนศพทิ้งแม่น้ำ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ เรื่องเล่าเช้านี้

            หนุ่มแค้นที่ถูกภรรยาด่า บอกไม่ให้เงิน ไม่ให้อึ๊บ จึงบุกบ้านกระหน่ำแทง ก่อนใช้มีดปาดลำคอ แต่เมื่อเห็นยังไม่ตายจึงถอยรถทับ ก่อนนำศพโยนทิ้งในแม่น้ำ 

            เมื่อวันที่ 28  พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ประเสริฐ พิมเสน พนักงานสอบสวน  สภ.ภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท และมีผู้บาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 2 ตำบลพระแก้ว อำเภอภาชี จึงไปตรวจสอบ ภายในบ้านมีคราบเลือดจำนวนมาก และพบมีดปลายแหลมตกอยู่ 1 เล่ม ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกคนร้ายนำตัวขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป

            ต่อมา ชาวบ้านที่นั่งตกปลาอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาถนนเลี่ยงเมืองสาย 356 หลักกิโลเมตร 4-5 หมู่  4 ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา แจ้งว่า พบคนขับรถกระบะโยนศพทิ้งในแม่น้ำ ก่อนหลบหนีไปทางถนนสายเอเชีย จึงประสานไปยัง พ.ต.ท.ชูสิทธิ์ อุดมกิจมงคล สวป.สภ.พระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน ให้ตั้งจุดสกัดจับ กระทั่งจับตัวคนร้ายได้

            จากการสอบสวนทราบว่า นายภูมินทร์ สมชายดี หรือทิว อายุ 41 ปี เดิมเป็นชาวเวียดนามแต่มาอยู่ในไทยเป็นเวลานานจนได้รับสัญชาติไทย และเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ นอกจากคราบเลือดตามร่างกาย ภายในรถยังพบเสื้อเชิ้ตสีแดงเปื้อนเลือด และมีดปังตอ 2 เล่ม ส่วนตรงกระบะรถ พบฝาตู้เสื้อผ้า จอบ และเสียม 2 อัน มีรอยเลือดจำนวนมาก ซึ่งนายภูมินทร์ สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านางนภาพรรณ สีหราช อายุ 27 ปี  ภรรยา ซึ่งมีอาชีพขายไอศกรีมในตลาดภาชี และคบหากันมา 1 ปี

            โดยนายภูมินทร์ เล่าว่า ดูแลผู้ตาย และลูกติดจากสามีเก่า 3 คน มาตลอด โดยผู้ตายจะขอเงินครั้งละ 3,000-4,000 บาท และตนจะมาหาผู้ตายอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งก่อนเกิดเหตุผู้ตายโทรศัพท์ขอเงิน 4,000 บาท เมื่อตนไม่มีให้ ผู้ตายก็ด่าทอ และบอกว่าถ้าไม่ให้เงินก็ไม่ต้องมาร่วมเพศกับผู้ตายอีก จึงทำให้เกิดความแค้น บุกบ้าน และใช้มีดกระหน่ำแทงที่หน้าอก แต่ผู้ตายไม่เสียชีวิตจึงใช้มีดปังตอปาดคอให้หลอดลมขาด แล้วลากร่างผู้ตายออกจากบ้านจะนำขึ้นรถกระบะ แต่เมื่อเห็นผู้ตายยังขยับตัวอยู่จึงถอยรถทับ ก่อนลากศพขึ้นรถ แล้วงัดเอาฝาตู้เสื้อผ้ามาปิดทับร่างเอาไว้ไม่ให้คนเห็น จากนั้นก็นำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา กระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

            ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำกำลังประดาน้ำงมจนพบศพนางนภาพรรณ พบว่าตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงกว่า 10 แห่ง และมีรอยถูกปาดลำคอ พล.ต.ต.อนุรักษ์ จึงนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และกล่าวว่า เป็นคดีที่โหดเหี้ยมมาก ดีที่ตำรวจจับได้อย่างรวดเร็ว  และได้ตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนแล้ว








อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก