x close

เปิดใจนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยหัวใจแกร่ง


นักวอลเลย์หญิง

นักวอลเลย์หญิง



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น, Youtube.com โพสต์โดย LadyBimbettes

            ถือได้ว่าเป็นข่าวดราม่าที่ครึกโครมสำหรับวงการวอลเลย์บอล และแฟน ๆ นักตบทั้งหลาย จากกรณีทีมนักตบหญิงไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่การแข่งขันระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง "โอลิมปิก 2012" แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อทีมตัวเต็งอย่างญี่ปุ่น พ่าย เซอร์เบีย อย่างน่าเสียดายด้วยคะแนน 3-2 เซ็ต จึงทำให้ประเทศไทย พลาดการเข้ารอบคัดเลือกโอลิมปิกไปในที่สุด ท่ามกลางความสงสัยของแฟนวอลเลย์บอลทั่วโลกว่า ทีมญี่ปุ่นน่าจะเล่นได้ดีกว่านี้...

           แต่ทั้งนี้ ผลการแข่งขันก็ได้ถูกตัดสินออกมาแล้ว และทางสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาตินานาชาติ ก็ได้ออกมาสรุปเรื่องดังกล่าวแล้วว่า ประเทศไทยสามารถเข้ารอบได้ทุกกรณี ยกเว้นถ้าหากทางเซอร์เบียร์ชนะญี่ปุ่น 3-2 เท่านั้น ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่า ทางทีมญี่ปุ่นล็อกเกม ก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัดแต่อย่างใด... เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนั้น แน่นอนว่านักกีฬาทุกคนในทีม และโค้ช ต่างก็ต้องยอมรับกับผลการตัดสิน ถึงแม้ว่าจะติดใจในการเล่นของแมตช์ญี่ปุ่น-เซอร์เบียก็ตาม

           อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นของวานนี้ (29 พฤษภาคม) รายการเจาะข่าวเด่น ได้เชิญนักตบหญิงทีมชาติไทย และโค้ช มาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าวว่า มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร และรู้สึกอย่างไรในตอนนี้

           โดยทาง นาวาอากาศตรีณัฐพนธ์ ศรีสมุทธนาค โค้ชผู้ฝึกซ้อม กล่าวว่า จากการแข่งขันทั้ง 7 แมตช์ ผลออกมาคือ แพ้รัสเซีย, ชนะเซอร์เบีย, แพ้ญี่ปุ่น, ชนะไต้หวัน, ชนะเปรู, แพ้เกาหลี, ชนะคิวบา ซึ่งคะแนนรวมของประเทศไทย มี 12 คะแนน เท่ากับ ประเทศเซอร์เบียร์ ประเทศญี่ปุ่น แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอผลคู่เซอร์เบียและญี่ปุ่นในนัดสุดท้ายด้วย ส่วนสถานการณ์ตอนนั้น ถ้าหากญี่ปุ่นชนะ 3-0 3-1 ญี่ปุ่นจะได้อันดับสาม และได้ไปในฐานะโอลิมปิกอันดับที่ 3  ส่วนไทยก็จะได้ไปด้วย แต่ในฐานะ "เบสท์ของเอเชีย" ซึ่งมีโควต้าเหลือ แต่ทีนี้ญี่ปุ่นกลับแพ้ หรือเลือกที่จะแพ้ เพราะต้องการไปในฐานะ "เบสท์ของเอเชีย" แทนประเทศไทยนั่นเอง



นักวอลเลย์หญิง


            ส่วนทางด้านนักกีฬาวอลเลย์บอลนำโดย กิ๊ฟ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, หนูนา วรรณา บัวแก้ว, หน่อง ปลื้มจิตร์ ถินขาว, แจ็ค อัมพร หญ้าผา, นุส นุศรา ต้อมคำ ตัวแทนจากทีมวอลเลย์บอลหญิง ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยกิ๊ฟ วิลาวัณย์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่มาถึงเมืองไทยว่า ตนบอกกับเพื่อน ๆ ในทีมไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้ เพราะตั้งแต่เรารู้ผลก็ร้องไห้กันมาทั้งคืน แต่พอมาถึงเมืองไทยปุ๊บ เห็นนายกสมาคมฯ เห็นแฟนคลับ ยืนถือป้ายเชียร์ ต่อมน้ำตาก็แตกออกมาทันที ร้องไห้กันแทบจะทุกคน เนื่องจากรู้สึกเสียดายแทนพวกเรา และอยากให้พวกเขาเห็นเราในโอลิมปิก

            เมื่อถามถึงเกมการแข่งขันของแมตช์ เซอร์เบีย และญี่ปุ่น ในฐานะที่ กิ๊ฟ วิลาวัณย์ เป็นกัปตันทีม เธอบอกว่า ปกติแล้วญี่ปุ่นเป็นทีมตัวเต็ง การเล่นของเขาถือว่าเล่นได้ละเอียดมาก เก็บทุกเม็ด เซ็ตทุกลูกแบบไม่มีพลาด ตอนแมตช์ที่ไทยแข่งกับญี่ปุ่น ขนาดลูกที่คิดว่าตีดีที่สุด เขาก็ยังรับได้ ไม่ว่าจะลูกหยอดลูกตบ ญี่ปุ่นเก็บละเอียด แทบไม่มีตีเสียเลย แต่พอมาคราวนี้ ญี่ปุ่นเล่นเหมือนปล่อยบอล เหมือนจงใจให้เสีย

           ด้าน นุศรา กล่าวว่า ก่อนหน้าแมตช์นี้เหมือนกับว่า เพื่อนทีมเกาหลีเขามาพูดในทำนองที่ว่า ถึงแม้ไทยจะชนะคิวบาได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้ไปโอลิมปิก ซึ่งพอตนได้ยินก็เริ่มรู้สึกเอะใจ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร


นักวอลเลย์หญิง

นักวอลเลย์หญิง

          ขณะที่ หน่อง ปลื้มจิตร์ นักตบบอลเร็ว กล่าวว่า ตนเริ่มรู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่ต่อเซ็ตที่ 4 เพราะทางญี่ปุ่นปล่อยเสียไป 7 ลูกติดต่อกัน ทั้ง ๆ ที่ผ่านมา ถ้าหากญี่ปุ่นตีเสียแค่ 3 ลูก ทางโค้ชก็จะเปลี่ยนตัว ขอเวลานอก ปรับแผนการเล่นใหม่ แต่นี่ไม่ได้ทำอะไรเลย ปล่อยให้ตีทิ้งตีขว้าง ลูกที่ไม่น่าเสีย ก็ตีเสีย

          ส่วนทางด้านโค้ช กล่าวเสริมว่า มีคนบอกกับตนว่า แมตช์นี้เป็นแมตช์ที่ญี่ปุ่นจะเลือกว่าจะให้ทีมใดไปโอลิมปิก แต่เหตุผลที่เขายอมแพ้ น่าจะเป็นเพราะว่า ถ้าทีมญี่ปุ่นชนะ ก็จะติดอันดับ 3 ซึ่งจะต้องไปเจอสายแข็ง ส่วนทีมไทยก็ได้เป็นเบสท์ของเอเชีย จะติดอยู่ในสายอ่อน ซึ่งเป็นสายของเจ้าภาพ ทั้งนี้ ทางญี่ปุ่นค่อนข้างจะมีอิทธิพลกับสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ตนจึงคิดว่า เขาน่าจะรู้เรื่องสายการแข่งมาก่อนว่า ทีมไหนเข้าไปจะอยู่ในสายไหนบ้าง ส่วนทีมไทย ไม่รู้อะไรเลย จะเจอสายแข็ง สายอ่อน แค่เข้ารอบเราก็ดีใจแล้ว

         หน่อง ปลื้มจิตร์ ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่เริ่มเล่นวอลเลย์บอลใหม่ ๆ ตนยึดทีมญี่ปุ่นเป็นไอดอล ทั้งวินัย ระเบียบในการเล่นของเขาค่อนข้างเคร่งครัดมาก เรียกได้ว่ายึดเป็นต้นแบบในการเล่นวอลเลย์ของตนเลยก็ว่าได้ แต่พอมาแมตช์นี้ ตนรู้สึกเจ็บ เพราะไม่คิดว่าทีมไอดอลจะไม่มีสปิริตขนาดนี้ และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับวงการวอลเลย์บอล อีกทั้งหลังจบการแข่งขันตอนเช้าต้องลงมาเจอหน้ากัน นักกีฬาญี่ปุ่นก็เหมือนกับรู้สึกผิด ได้แต่ก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมทักทายเหมือนทุกครั้ง

นักวอลเลย์หญิง

         ส่วน กิ๊ฟ วิลาวัณย์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้แมตช์ที่ต้องแข่งกับคิวบา ทุกคนเจ็บแบบสะบักสะบอม แต่เราก็อดทน โค้ชก็บอกให้สู้ เพื่อนก็ให้กำลังใจกันเอง บอกอีกนิดเดียว ๆ ทุกคนในทีมกัดฟันสู้ จนสามารถเอาชนะได้ ตอนนั้นความหวังที่จะได้ไปโอลิมปิกมันอยู่แค่เอื้อม ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่สามารถคว้าเอาไว้ได้

         ด้าน หนูนา วรรณา กล่าวอย่างติดตลกว่า ก่อนแมตช์ดังกล่าว เพิ่งไปกินอาหารญี่ปุ่นกันมา ต่อไปนี้จะไม่กินแล้วปลาดิบ จะกินแต่ปลาแดก พร้อมร้องเพลงคู่กรรมให้ฟังว่า ดั่งนรกชัง หรือสวรรค์แกล้ง  (หัวเราะ)

         เมื่อพิธีกรถามว่าอีก 4 ปี กับการแข่งขันโอลิมปิก จะท้อกันหรือไม่ ด้าน หนูนา วรรณา กล่าวต่อว่า ตนยังตอบไม่ได้ เนื่องจากตอนนี้ตนก็อายุ 31 ปีแล้ว และหวังกับการแข่งขันในปีนี้ไว้สูงมากเลยทีเดียว ขณะที่หน่อง กล่าวเสริมว่า พอจบการแข่งขันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราตั้งใจฝึกซ้อมกันมาก ทุกคนทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ มีเหนื่อยบ้าง แต่พวกเราก็ไม่ท้อ เพราะอยากจะไปโอลิมปิกร่วมกัน
 
นักวอลเลย์หญิง

       ทางด้านโค้ช กล่าวว่า ในวันที่ 8 มิถุนายน ทางทีมไทยจะไปแข่งที่ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2012 ซึ่งสนามที่สองจะต้องเจอทีมญี่ปุ่นอีกครั้ง ด้านนักตบสาวไทยก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ทุกคนในทีมมีแรงฮึดกันอยู่แล้ว สำหรับแมตช์หน้ายังไงก็จะเต็มที่แน่นอน ถ้าชนะญี่ปุ่นได้ คงจะดีใจเหมือนได้แชมป์จักรวาล (หัวเราะ)

        อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าทีมไทยจะไม่ได้ไปโอลิมปิก และกลับมาพร้อมกับความผิดหวัง แต่เชื่อเลยว่าชาวไทยทุกคน พร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้เสมอ ... ทั้งนี้ กระปุกดอทคอม ก็ขอให้นักวอลเลย์บอลหญิงของไทยทุกคน เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นแรงฮึด และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ต่อไปอย่างเข้มแข็ง





เปิดใจนักตบสาวไทยหัวใจแกร่ง ในเจาะข่าวเด่น










 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดใจนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยหัวใจแกร่ง โพสต์เมื่อ 30 พฤษภาคม 2555 เวลา 13:42:14 6,142 อ่าน
TOP