ประวัติแฮนด์บอล ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาแฮนด์บอล

          แฮนด์บอล เป็นกีฬาที่หลายคนคุ้นเคย เนื่องจากมักเป็นหนึ่งในประเภทกีฬายอดนิยมในการแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน และยังถูกบรรจุอยู่ในการแข่งขันกีฬาระดับชาติอีกหลายรายการ แล้วที่มาของกีฬาแฮนด์บอลเป็นอย่างไร? วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับประวัติของแฮนด์บอลกัน

ประวัติ แฮนด์บอล
ภาพจาก Tumar / Shutterstock.com

ประวัติแฮนด์บอล


          กีฬาแฮนด์บอล มีที่มาจากประเทศเยอรมนี โดยนาย Konrad Koch ครูพละศึกษาคนหนึ่งแต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก จนกระทั่งปี พ.ศ. 2447 (ค.ศ. 1904) กีฬาแฮนด์บอลก็ถูกพัฒนาขึ้นในทวีปยุโรป และกำหนดกติกาขึ้นโดยอ้างอิงจากกติกาของกีฬาฟุตบอลเป็นหลัก ซึ่งเป็นการดัดแปลงกีฬาฟุตบอลมาเล่นด้วยมือแทน เดิมใช้ผู้เล่นทีมละ 11 คน แต่ลดลงเหลือทีมละ 7 คนแทน เนื่องจากผู้เล่นมีจำนวนมากจนเกินไปทำให้เล่นไม่สะดวก จากนั้นจึงค่อย ๆ แพร่หลายเรื่อยมา

          ในปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928) แฮนด์บอลถูกนำไปสาธิตในงานกีฬาโอลิมปิก และถูกบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในรายการการแข่งขันกีฬาระดับชาติเมื่อปี พ.ศ. 2474 (ค.ศ.1931) และเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายจนถูกบรรจุเข้าเป็นชนิดกีฬาการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก เมื่อปี พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936) ก่อนที่จะเจอกับเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 จนความนิยมลดลง

          ต่อมาในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) ก็ได้มีการแก้ไขกติกาแฮนด์บอลใหม่ ด้วยการนำเอากติกาของกีฬาฟุตบอล และกีฬาบาสเก็ตบอลมาผสมกัน เพื่อฟื้นฟูความนิยมกีฬาแฮนด์บอลให้กลับมาอีกครั้ง ปัจจุบันกีฬาแฮนด์บอลกลายเป็นกีฬาที่นิยมกันไปทั่วโลก

ประวัติ แฮนด์บอล
ภาพจาก ajfi / Shutterstock.com
 

ประวัติแฮนด์บอลในประเทศไทย


          หลังจากที่กีฬาแฮนด์บอลนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยก็เริ่มนำเอากีฬาแฮนด์บอลเข้ามาเมื่อปี พ.ศ. 2482 (ค.ศ. 1939) โดย อาจารย์กอง วิสุทธารมย์ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษาในขณะนั้น ซึ่งในตอนนั้นยังกติกาแฮนด์บอลยังต้องมีผู้เล่นทีมละ 11 คน  จึงทำให้ไม่สะดวก และไม่เป็นที่นิยมในไทยมากนัก

          จนกระทั่งปี พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) อาจารย์ชนิต คงมนต์ ได้บรรจุกีฬาแฮนด์บอลเข้าสอนในโรงเรียนฝึกหัดครูพลานามัย และวิทยาลัยพลศึกษาอื่น ๆ ก่อนที่จะแพร่หลายไปยังโรงเรียนต่าง ๆ จนกลายเป็นหลักสูตรบังคับของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเมื่อปี พ.ศ. 2518 (ค.ศ. 1975) และใช้กติกาการแข่งขันแบบสากลเมื่อปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) และเป็นที่นิยมในประเทศไทยในที่สุด

สนามแข่งขัน กีฬาแฮนด์บอล

กติกา แฮนด์บอล (แบบย่อ)


สนามแข่งขัน แฮนด์บอล


          ขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 40 เมตร กว้าง 20 เมตร มีเส้นรอบสนามและเขตประตู โดยประตูจะต้องมีขนาดสูง 2 เมตร กว้าง 3 เมตร ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่ง มีพื้นที่รอบสนามห่างจากเส้นขอบสนามอย่างน้อย 1 เมตร ห่างจากหลังประตู 2 เมตร
 

ลูกแฮนด์บอล

          
          ต้องทำจากหนังหรือวัสดุสังเคราะห์รูปทรงกลม ผิวไม่สะท้อนแสงและไม่ลื่น สำหรับผู้ชายลูกบอลต้องมีขนาดเส้นรอบวง 58-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 425-475 กรัม สำหรับผู้หญิงลูกบอลต้องมีขนาดเส้นรอบวง 54-56 เซนติเมตร หนักประมาณ 325-400  กรัม และต้องมีลูกบอลสำหรับการแข่งขัน 2 ลูก เมื่อการแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้วจะเปลี่ยนลูกบอลไม่ได้ นอกจากมีเหตุผลอันสมควร

ผู้เล่น


          ทีมหนึ่งต้องส่งตัวผู้เล่น 12 คน (รวมผู้เล่นสำรอง) และลงสนามได้ 7 คน คือ ผู้เล่น 6 คน ผู้รักษาประตู 1 คน โดยสามารถเปลี่ยนตัวเข้าเล่นได้ทุกเวลา และสามารถเปลี่ยนตัวกลับเข้าในสนามใหม่ได้ โดยผู้เล่นจะต้องสวมเสื้อทีมที่ติดหมายเลข 1-20 ไว้ที่เสื้อ โดยมีขนาดตัวเลข สูงอย่างน้อย 20 เซนติเมตร กว้างอย่างน้อย 10 เซนติเมตร สีของตัวเลขตัดกับเสื้ออย่างชัดเจน สวมใส่รองเท้ากีฬา และห้ามใส่เครื่องประดับทุกชนิด

วิธีการเล่น แฮนด์บอล


-  ใช้มือจับ ขว้าง โยน ลูกบอล ส่งต่อกันกับผู้เล่นในทีมตนเอง เพื่อขว้างบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้าม

-  ห้ามใช้ร่างกายส่วนที่ต่ำกว่าหัวเข่าลงไปโดนลูกบอล

-  ผู้เล่นสามารถถือลูกบอลไว้ในมือได้ไม่เกิน 3 วินาที

-  ขณะถือลูกบอลสามารถก้าวขาได้ไม่เกิน 3 ก้าว

-  ห้ามผู้เล่นดึงลูกบอลจากมือของฝ่ายตรงข้าม

-  ห้ามเข้าไปในเขตประตูของฝ่ายตรงข้าม

-  ใช้เวลาในการแข่งขันครึ่งละ 30 นาที พัก 10 นาที หากมีการต่อเวลาพิเศษจะเพิ่ม 2 ครึ่ง ครึ่งละ 5 นาที

การคิดคะแนนการเล่น กีฬาแฮนด์บอล


          หากสามารถขว้างบอลเข้าประตูฝั่งตรงข้ามได้จะคิดเป็น 1 คะแนนต่อ 1 ครั้ง หากมีการทำเข้าประตูตนเองก็จะเสียคะแนนให้กับฝ่ายตรงข้าม เมื่อหมดเวลาใครทำประตูได้มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ

          รู้จักกับประวัติแฮนด์บอลกันแล้ว ก็ขอให้เล่นกีฬากันอย่างมีน้ำใจนักกีฬา และเคารพในกฎกติกาด้วยนะจ๊ะ


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประวัติแฮนด์บอล ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬาแฮนด์บอล อัปเดตล่าสุด 18 มิถุนายน 2567 เวลา 15:00:01 1,398,392 อ่าน
TOP
x close