นายกห่วงวิกฤติยุโรปกระทบส่งออกเร่งหาตลาดใหม่ (ไอเอ็นเอ็น)
นายกรัฐมนตรี จัดรายการ เผย ห่วงเศรษฐกิจยุโรป ที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ย้ำจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ กิตติรัตน์ มั่นใจ รับมือหนี้ยุโรปได้ ยัน จีดีพี ยังโตได้ 5.5-6.5%
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มิถุนายน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน ว่า ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ทำงานร่วมกันในการเก็บข้อมูล และติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยนำข้อมูลมาวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม อาทิ ภาคการส่งออกไปยุโรป มีผลกระทบต่อเนื่องในห่วงโซ่อุปทาน กลุ่มเอสเอ็มอีแค่ไหน ซึ่งสถานะทางการเงินการคลังของประเทศ มีความแข็งแกร่ง หากมีตัวเลขก็พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เรื่องการส่งออก ทางรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วยและหากเกิดอะไรขึ้น จะต้องเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศ ซึ่งรัฐบาลมีหลายนโยบายกระตุ้นการใช้จ่าย ลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและทดแทนการพึ่งพาส่งออก ที่มีมากกว่าร้อยละ 70 โดยต้องเร่งเปิดตลาดใหม่ เพื่อกระจายมูลค่าทางการค้า ส่วนเรื่องที่นักท่องเที่ยวจากยุโรป มาท่องเที่ยวไทยลดลงนั้น ทางรัฐบาลได้เปิดตลาดใหม่จากประเทศจีนช่วยธุรกิจท่องเที่ยว
นายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศยุโรป ที่อาจกระทบต่อส่งออกของประเทศไทย ขณะที่รัฐบาลก็จะเร่งหาตลาดใหม่ เพื่อเป็นตลาดที่รองรับสินค้า จะเน้นการสร้างความแข็งแรงของเศรษฐกิจ พร้อมกับสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะมีการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศยุโรปอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อจะนำมาวิเคราะห์และคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มั่นใจว่า หากประเทศไทยพบกับปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ยุโรป นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจ จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นไปได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้เชื่อว่า ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป จะสามารถดูแลปัญหาของตัวเองได้ ไม่ให้ลุกลาม หรือกระทบกับไทย ขณะที่ รัฐบาลก็ได้จับตาและติดตามปัญหาดังกล่าวของยุโรปอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังมั่นใจว่า เป้าหมายการส่งออกในปีนี้ จะเติบโตที่ ร้อยละ 15 และมั่นใจว่า เศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี โดยรวมปีนี้ จะเติบโตได้ที่ร้อยละ 5.5 ตามคาดการณ์ แม้ว่าจะเผชิญปัญหาวิกฤติหนี้ยุโรปก็ตาม แต่มีการกระตุ้นการบริโภคภายประเทศ และมีการลงทุนของภาครัฐ
