x close

7 พยานฝ่ายผู้ร้อง แจงศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว



ศาลรัฐธรรมนูญ

สมเจตน์ บุญถนอม

พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม

วรินทร์ เทียมจรัส

วรินทร์ เทียมจรัส

ศาลรัฐธรรมนูญ



สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

          ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวน 7 พยานฝ่ายผู้ร้อง ปมให้วินิจฉัยแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 68 จบแล้ว เตรียมไต่สวนพยานฝ่ายผู้ถูกร้องอีก 8 คน วันที่ 6 กรกฎาคม

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 กรกฎาคม) ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง จำนวน 7 คน ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้วินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยขณะนี้ บรรดาฝ่ายผู้ร้องและพยานได้เข้าไปในห้องประชุมแล้ว โดยมีผู้ติดตามทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้องเดินทางมาเข้าร่วมรับฟังการไต่สวนด้วย อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายถาวร เสนเนียม นายพิทูร พุ่มหิรัญ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล

          ก่อนหน้านั้น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา ในฐานะผู้ร้องที่ 1 และพยานฝ่ายผู้ร้อง ในคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้ วินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจเป็นการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ก่อนเข้าให้ปากคำกับศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ในวันนี้จะพยายามเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด โดยไม่หนักใจหรือกดดัน เพราะไม่ได้ตั้งความหวัง เรื่องผลการตัดสิน ทั้งนี้ การยื่นเรื่องถือว่าทำตามหน้าที่ เพราะเห็นภัยจะเกิดขึ้น หากปล่อยไปจะเกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรงและกระจายความขัดแย้ง เกิดการต่อสู้กันมากขึ้น ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับศาลว่าจะเห็นในสิ่งที่จะนำเสนอนี้หรือไม่

          อย่างไรก็ตาม พล.อ.สมเจตน์ ระบุด้วยว่า การชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสำคัญในชีวิต ตั้งแต่ได้รับราชการมา ตนเอาชีวิตและผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประกัน โชคดีที่มีชีวิตรอดมาได้ต่โชคร้ายที่ต้องมาต่อสู้กับคนในชาติเดียวกัน เจ็บปวด ไม่คิดว่าคนไทยคนหนึ่งจะทำร้ายประเทศชาติได้ขนาดนี้ คนไทยคนนั้นคือคนที่เลวที่สุดในประเทศและไม่ควรได้รับเป็นคนไทย เพราะปลุกระดมด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ โดยใช้ประชานิยมเป็นนโยบาย เพื่อปลุกระดมคนในชาติเดียวกัน ขอยืนยันว่า การกระทำในครั้งนี้ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง มีแต่ความมั่นคงของประเทศชาติเท่านั้น ที่เป็นเบื้องหลังในขณะนี้

           ด้านนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะพยานฝ่ายผู้ร้องที่ 5 กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ยังไม่ขอตอบรายละเอียดใด ๆ เพราะจนถึงตอนนี้ ยังไม่ทราบเรื่องว่ามีประเด็นใดบ้าง

         
ขณะที่นายวรินทร์ เทียมจรัส แกนนำกลุ่มสยามสามัคคี ในฐานะผู้ร้องที่ 6 และพยานฝ่ายผู้ร้อง กล่าวว่า การไต่สวนวันนี้ ได้เตรียมการเรียบร้อย ไม่มีปัญหา คาดว่าศาลคงให้เริ่มไต่สวนตามลำดับ โดยส่วนตัวจะอธิบายเรื่องข้อกฎหมายที่ว่ามาตรา 291 ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สามารถแก้มาตราอื่นได้ ดังนั้น ก็ขัดรัฐธรรมนูญ ถือว่าล้มล้างรัฐธรรมนูญเพราะเป็นการเงื่อนไขใหม่ พร้อมจะเสนอมูลเหตุจูงใจ จากข่าวตั้งแต่ปี 2550 ที่ผ่านมา เช่นการให้ ม.112 ทั้งนี้ ย้ำว่า มั่นใจเต็มร้อย และยังเชื่อว่า ศาลไม่มีปัญหาหรือความกดดัน เพราะตุลาการทุกคน ผ่านงานมา 30 - 40 ปี ผ่านวิกฤติมาหมดแล้ว แต่ใครจะเอากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายก็ไม่เป็นไร

          ทั้งนี้ นายวรินทร์ เชื่อว่า หลังจบการไต่สวนแล้ว ใช้เวลาไม่นาน ศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะศาลเห็นพยานหลักฐาน แต่ละฝ่ายทั้งหมดแล้ว

          ด้านนายวันธงชัย ชำนาญกิจ ทนายความอิสระ ในฐานะผู้ร้องที่ 3 และพยานฝ่ายผู้ร้อง กล่าวว่า พร้อมเต็ม 100 ไม่กดดันในการไต่สวนวันนี้ แม้ว่าคดีนี้จะเป็นคดีใหญ่คดีแรกของตนเอง ทั้งนี้ ส่วนตัวมั่นใจในพยานหลักฐานที่นำเสนอไป ด้วยข้อกฎหมายที่ชัดเจนว่า มาตรา 291 ไม่สามารถแก้ตัวเองได้ ขณะเดียวกัน ยังยอมรับว่า กลัวอยู่บ้างเรื่องความปลอดภัย เพราะ 2 - 3 วัน ที่ผ่านมา มีรถยนต์น่าสงสัย มาวนอยู่หน้าบ้านด้วย

           "มั่นใจเบื้องต้น เรื่องข้อกฎหมาย ว่า ม.291 ไม่สามารถแก้ตัวมันเองได้ มั่นใจ มาตรานี้มากกว่า และมาตรา 68 ก็ชัดอยู่" นายวันธงชัยกล่าว

           ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา กล่าวก่อนการชี้แจงการไต่สวนพยานผู้ร้องของศาลรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ที่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งจะขัดต่อมาตรา 68 ที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรามากกว่า อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การร้องครั้งนี้ ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

           ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นมีรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยานผู้ร้องทั้ง 7 คน เสร็จสิ้นแล้ว และในวันพรุ่งนี้ (6 กรกฎาคม) จะทำการไต่สวนพยานฝั่งผู้ถูกร้องอีก 8 คน








เรื่องที่คุณอาจสนใจ
7 พยานฝ่ายผู้ร้อง แจงศาลรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้นแล้ว โพสต์เมื่อ 5 กรกฎาคม 2555 เวลา 09:06:40 1,795 อ่าน
TOP