เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ครม. เปิดไฟเขียวอนุมัติงบประมาณ 15,000 ล้านบาท พยุงราคายาง 100-104 บาทต่อกิโลกรัม
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ (17 กรกฎาคม) ตนได้นำเรื่องนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขออนุมัติงบประมาณชดเชยให้กับสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และล่าสุดที่ประชุม ครม. อนุมัติงบประมาณในการเข้าแทรกแซงราคายางพาราในท้องตลาดวงเงินรวม 15,000 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินขององค์การส่วนยางที่มีอยู่เดิม 10,000 ล้านบาท และงบประมาณจัดสรรเพิ่มเติมอีก 5,000 ล้านบาท
โดย นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้หากสถานการณ์ราคายางยังไม่ดีขึ้น ก็อาจมีการขอวงเงินเพิ่มอีก 15,000 ล้านบาท รวมเป็น 30,000 ล้านบาท ต่อไป โดยงบประมาณดังกล่าวน่าจะรับซื้อยางได้ในปริมาณรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 200,000 ตัน ซึ่งราคาที่จะแทรกแซงยางพาราดิบจะอยู่ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม และยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 104 บาทต่อกิโลกรัม หากการหารือของคณะอนุกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ซึ่งการได้ข้อสรุปในวันนี้ จะทำให้สามารถรับซื้อยางพาราตามราคาที่กำหนดไว้ได้ภายในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ การขออนุมัติงบประมาณดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากเกษตรกรชาวสวนยางทั้งภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้ กำลังได้รับผลกระทบจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ โดยส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะไทยทำสัญญาซื้อขายยางพาราล่วงหน้าราคาถูกกับประเทศจีน ทำให้มีการกดราคายางให้ถูกลง ประกอบกับเศรษฐกิจกลุ่มยุโรปไม่ดี จึงยิ่งมีแนวโน้มว่าราคายางพาราน่าจะลดลงไปอีก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ราคายางตกต่ำ เกษตรกรชาวสวนยางที่พิษณุโลก หรือภาคเหนือตอนล่างเริ่มเปลี่ยนวิธีไม่ทำยางก้นถ้วย หันมาลงทุนซื้อเครื่องตบและรีดร่วม ๆ 5 หมื่นบาทในการทำยางแผ่นเก็บสต๊อกไว้ จะต้องทำเป็นแผ่นรมควันเก็บสต๊อกไว้ขายช่วงราคาดี ทั้งยังถือว่า ลดความเสี่ยงจังหวะราคายางตกต่ำด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
