เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กลาโหม ชี้ ใบ สด.9 ของ อภิสิทธิ์ 2 ใบ ข้อมูลไม่ตรงกัน ใช้เป็นหลักฐานเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ไม่ได้ เร่งตรวจสอบเอาผิดคนปลอมเอกสาร ด้านผู้ตรวจการฯ ยันไม่ดองคดี แต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ด้าน ศิริโชค ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โชว์ สด. 9 ยัน อภิสิทธิ์ ไม่เคยหนีทหาร มองเป็นขบวนการทางการเมือง
เมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ชี้แจงต่อสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งสอบถามถึงกรณีที่ นายกมล บันไดเพชร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ร้องเรียนให้ตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าใช้เอกสารหลักฐานปลอม เพื่อเข้ารับราชการเป็นอาจารย์ ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า แต่ยังมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ทางทหาร
ทั้งนี้ ในเอกสารดังกล่าว ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ จะต้องไม่ได้รับการผันผ่อนการเรียกเข้ากองประจำการในยามปกติ เพราะไม่ได้เป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือมีสิทธิขอผ่อนผันตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 29(3) นอกจากนี้ ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน จึงไม่มีรายชื่ออยู่ในระบบบุคคลในราชการทหาร ที่จะสามารถขอรับการผ่อนผันเข้ารับราชการทหารได้
ขณะเดียวกัน เมื่อตรวจสอบต้นขั้วแบบ สด.9 และเอกสารแบบ สด.1 พบว่า นายอภิสิทธิ์ เข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2529 แต่ในใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2531 กลับระบุว่า นายอภิสิทธิ์ เข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2531 เท่ากับว่าข้อมูลทั้งสองฉบับไม่ตรงกัน ดังนั้น ใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย จึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานทางทหารได้
เช่นเดียวกับการขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการ (สด.3) ที่มีการนำใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2531 มาเป็นหลักฐาน ก็จะทำให้แบบ สด.3 ไม่ถูกต้องไปด้วย เพราะข้อมูลในใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2531 ไม่ถูกต้องอยู่ก่อนแล้ว แต่ในแบบ สด.16 ปี พ.ศ.2536 ที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือก และหลักฐานแบบ สด.27 ปี พ.ศ.2530 ที่ระบุว่า นายอภิสิทธิ์เข้าบัญชีทหารกองเกิน กลับลงวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ.2529 ตรงกับต้นขั้วแบบ สด.9 และเอกสารแบบ สด.1 จึงเป็นหลักฐานยืนยันได้ว่า เอกสารแบบ สด.9 แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2531 และ สด.3 ไม่ถูกต้องจริง
ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สำนักผู้ตรวจการฯ กำลังตรวจสอบเอกสารทั้งหมด แต่คงต้องใช้เวลา เพราะเรื่องเกิดมานานแล้ว โดยขณะนี้ได้รับหนังสือตอบกลับจาก พล.อ.อ.สุกำพล มาแล้ว ซึ่งจะตรวจสอบว่าข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กำลังเร่งดำเนินการ เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสังคม
ขณะที่วันนี้ (19 กรกฎาคม) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ารับราชการทหาร โดยไม่ได้หนีทหาร พร้อมโชว์เอกสารใบ สด.9 ของนายอภิสิทธิ์ และทะเบียนบัญชีรายชื่อนักเรียนที่ออกไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการผ่อนผัน และมีหนังสือ สด.41 โดยเอกสารเหล่านี้ สามารถสมัครเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย จปร.ได้ จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า การแถลงข่าวของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น เป็นการแถลงที่เปรียบเสมือนถูกใครบังคับให้มาแถลง และมองว่าเป็นกระบวนการทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังให้ทนายความของ นายอภิสิทธิ์ ดูถ้อยคำบันทึกเทปของ พล.อ.อ.สุกำพล ว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะดำเนินการในขั้นต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
