เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้
เจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมหนุ่มใหญ่วัย 44 บังคับข่มขืนสองแม่-ลูก มาราธอน 9 ปี แถมชวนเพื่อนร่วมข่มขืนด้วย พร้อมถ่ายคลิปแบล็คเมล์
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ได้พา นางสร้อย (นามสมมติ) อายุ 48 ปี และนางสาวเดียร์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี สองแม่ลูกที่ถูกข่มขืนมาราธอนนานกว่า 9 ปี โดยเฉพาะลูกสาวถูกข่มขืนตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ โดยถูกมอมยาและถ่ายคลิปเอาไว้แบล็คเมล์ เข้าพบ พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เพื่อชี้ตัว นายมนต์ชัย เชื้อสุข อายุ 44 ปี อาชีพซื้อขายรถยนต์มือสอง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่ 505/2555 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันซ้อนแผนและจับกุมตัวนายมนต์ชัย เอาไว้ได้ที่บริเวณหน้า อบต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
จากการตรวจสอบคลิปในโทรศัพท์มือถือของนายมนต์ชัย พบว่ามีคลิปวิดีโอที่นายมนต์ชัยและพวก ล่อลวงเหยื่อมาทำการข่มขืนจำนวนหลายราย รวมถึงมีภาพของผู้เสียหายทั้งสองด้วย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายมนต์ชัย ผู้ต้องหาได้ให้การปฎิเสธว่า ไม่ได้ข่มขืนนางสาวเดียร์ ในขณะอายุ 9 ขวบ แต่ยอมรับว่าได้มีเพศสัมพันธ์กันจริงในระยะเวลาประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ถ่ายวิดีโอเก็บไว้เพื่อดูเองไม่ได้นำไปเผยแพร่แต่อย่างใด เพราะได้ตกลงกับผู้เสียหายว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่ ส่วนข้อหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทางด้าน นางสร้อย ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนแต่งงานกับสามีมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน ขณะที่ลูกสาวอายุ 8 ขวบ สามีต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับมาบ้านเดือนละประมาณ 2 ครั้ง ช่วงเวลาดังกล่าวตนได้รู้จักกับนายมนต์ชัย ซึ่งอยู่บ้านใกล้กับบ้านแม่ของตนที่ จ.ปราจีนบุรี นายมนต์ชัยเข้ามาตีสนิท ตนเห็นว่าเป็นคนดี ชอบถือศีลเข้าวัดทำบุญจึงคบหาพูดคุยด้วย ต่อมานายมนต์ชัย ได้มาชักชวนตนไปทำบุญไหว้พระที่วัดแห่งหนึ่งในย่านจังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะที่เดินทางกลับนายมนต์ชัยได้อ้างว่าปวดท้อง จึงได้ขอเข้าห้องน้ำก่อนโดยเลี้ยวเข้าไปจอดในโรงแรมแห่งหนึ่งในย่านบางพลี และนายมนต์ชัยได้หายเข้าไปในห้องเพียงคนเดียว ส่วนตนนั่งรออยู่บนรถ พักใหญ่นายมนต์ชัยได้ออกมาจากห้อง พร้อมทั้งบอกให้ตนไปเข้าห้องน้ำ ตนหลงเชื่อจึงได้เดินไปเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องพักของโรงแรมดังกล่าว ระหว่างเข้าห้องน้ำนายมนต์ชัยกลับตามเข้าไปล็อกห้องและบังคับข่มขืนตน ซึ่งระหว่างที่ลงมือข่มขืน นายมนต์ชัยได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเอาไว้
ทั้งนี้ หลังเสร็จกิจนายมนต์ชัยยังได้บังคับให้ตนบอกกับสามีว่านายมนต์ชัยเป็นญาติกันมาขอพักอาศัยอยู่ที่บ้านด้วย มิเช่นนั้นจะเอาคลิปที่ถ่ายเอาไว้ให้สามีตนดูและจะทำร้ายทุกคนในครอบครัวด้วย ซึ่งสามีตนต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด เดือนหนึ่งจะกลับมาที่บ้านเพียง 2 ครั้ง จึงเป็นโอกาสให้นายมนต์ชัย ลงมือข่มขืนตนเกือบทุกวัน หากขัดขืนก็จะถูกทำร้ายร่างกาย ตนต้องยอมนายมนต์ชัยมาโดยตลอด เพราะกลัวว่าคนในครอบครัวจะถูกทำร้าย
นางสร้อย กล่าวต่อไปว่า ทุกครั้งที่นายมนต์ชัยต้องการหลับนอนจะเอายาผสมน้ำให้ดื่ม และยังถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย ตนต้องทนทุกข์ทรมานเอาเงินให้นายมนต์ชัยตามที่ต้องการ เพราะหากไม่ให้จะถูกตบตีทำร้ายร่างกาย และยังขู่จะส่งคลิปที่ถ่ายไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์ไปให้สามีและคนอื่นเพื่อประจาน แต่เมื่อได้เงินตามที่ต้องการแล้วก็ไม่ยอมไปไหน หนำซ้ำยังบังคับให้ตนมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นร่วมกับนายมนต์ชัยอีก จนทนไม่ไหวต้องหนีไปอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ถูกนายมนต์ชัยตามกลับมา และเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2555 นายมนต์ชัยกลับมาที่บ้านไม่พบตนและลูกสาว ก็ออกติดตามตนจนเจอ นายมนต์ชัยได้ทุบกระจกรถจนแตกด้วยความโมโห ตนจึงกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่ถูกกระชากโทรศัพท์มือถือและหลบหนีไป
จากนั้นในวันที่ 12 กรกฎาคม ตนได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางพลี ลูกสาวจึงตัดสินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองให้แม่ฟังว่าถูกนายมนต์ชัยข่มขืนตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ โดยนายมนต์ชัยได้ข่มขืนระหว่างที่ตนไปซื้ออาหารที่ตลาดหรือขณะไม่อยู่บ้าน บางครั้งอ้างว่าไปส่งที่โรงเรียนแต่กลับพาไปข่มขืนที่โรงแรมจนถึงเวลาเลิกเรียนก็พากลับมาบ้าน ลูกสาวจะถูกนายมนต์ชัยข่มขืนทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ใครฟัง เพราะนายมนต์ชัยข่มขู่ไว้ว่าหากเล่าให้แม่ฟังก็จะถูกแม่ไล่ออกจากบ้าน และนายมนต์ชัยจะทำร้ายพ่อแม่ และทำร้ายทุกคนในครอบครัวด้วย ลูกสาวกลัวว่าพ่อแม่จะถูกทำร้ายจึงต้องยอม และทุกครั้งยังได้ถ่ายคลิปขณะข่มขืนไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วย ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นายมนต์ชัยได้ใช้อุบายหลอกว่าโทรศัพท์ที่มีคลิปขณะร่วมเพศตกไปอยู่กับนายต้น ต้องเรียกมาเจรจาเพื่อไม่ให้นำไปเผยแพร่หรือขายต่อให้คนอื่น สุดท้ายก็หลอกลูกสาวไปรุมโทรมร่วมกับนายต้น จนต้องเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.บางพลี
อย่างไรก็ตาม สำหรับสภาพจิตใจของ นางสาวเดียร์ ผู้เสียหายวัย 18 ปี ยังไม่ดีขึ้น มูลนิธิปวีณาฯ จึงให้นักจิตวิทยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ และนางปวีณาได้เชิญคุณพ่อของเหยื่อมารับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อพ่อรับทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นแล้วก็ได้เข้าสวมกอดลูกสาวและแม่ พร้อมกับร้องไห้อย่างน่าสงสาร นางปวีณาแนะนำให้พ่อและแม่ดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของลูกสาว และติดตามความคืบหน้าทางด้านคดีต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คลิป เสี่ยรับเหมาข่มขืน แม่-ลูก นาน 9 ปี : เครดิต รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
