เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการคนค้นฅน
จากสถานการณ์ความรุนแรงชายแดนภาคใต้ที่นับวันยิ่งจะรุนแรงขึ้นตามลำดับ และยากที่จะจบลงในระยะเวลาอันสั้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมากได้รับบาดเจ็บและสังเวยชีวิตกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ไม่เฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งตำรวจและทหารที่มีบทบาทสำคัญในการคลี่คลาย รายงานสถานการณ์ความรุนแรง และเสี่ยงชีวิตในพื้นที่ปลายด้ามขวาน แต่สื่อมวลชนก็มีบทบาทไม่น้อยเช่นกัน
สื่อมวลชนก็เป็นอีกหนึ่งสายงานที่ต้องเกาะติดเหตุการณ์และทำงานบนความเสี่ยงที่ต้องเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุเพื่อบันทึกเรื่องราวและนำเสนอเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง โดย จรูญ ทองนวล ช่างภาพข่าวชายแดนใต้ (ศูนย์ภาพเนชั่น) เป็นสื่อมวลชนคนหนึ่งที่สมัครใจขอลงไปรับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่มากว่า 10 ปี และยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอความจริงผ่านภาพถ่ายภายใต้ความรุนแรงและสถานการณ์ความไม่สงบที่ก่อตัวขึ้น
และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา รายการคนค้นฅน ได้ไปเจาะลึกเรื่องราว จรูญ ทองนวล ช่างภาพข่าวชายแดนใต้ ผู้มีจิตวิญญาณของสื่อ พร้อมกับเกาะติดภารกิจเสี่ยงตายเพื่อตีแผ่เรื่องราวความจริงให้ผู้คนได้รับรู้ ลองไปดูกันเลยค่ะ
ขณะที่พิธีกรกำลังจะไปสัมภาษณ์นั้น ช่างภาพจรูญก็กำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุระเบิดครั้งล่าสุด โดยเขาเล่าว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพียงแต่เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดเล็กหรือใหญ่ หรือที่ไหน ซึ่งเมื่อคนร้ายก่อเหตุ เขาก็ต้องตามไปเก็บภาพตลอด
จากนั้น ช่างภาพจรูญก็ได้รับวิทยุสื่อสารไปยังที่เกิดเหตุที่ อ.รามัญ จ.ยะลา ซึ่งเจ้าตัวก็ขับรถรุดไปที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และนอกจากการเตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพต่าง ๆ ให้พร้อมแล้ว เขายังต้องมีสมาธิและความระมัดระวังบนความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอด โดย นายจรูญ กล่าวว่า ขณะที่ถ่ายภาพก็เก็บเพียงบางส่วนเท่านั้น ไม่ต้องถึงกับละเอียด เนื่องจากต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเป็นผู้เก็บรายละเอียดต่าง ๆ และหากเราเข้าไปอาจจะไปทำลายหลักฐานโดยที่ไม่ตั้งใจก็ได้
นอกจากนี้ นายจรูญยังเล่าต่อไปว่า นอกจากติดตามเก็บภาพเหตุการณ์ภายหลังการระเบิดแล้ว ก็ยังมีงานที่เสี่ยงอันตรายกว่านั้น เช่น ในบางครั้งการปะทะยังไม่จบ เขาก็จะมองว่าการออกมาทำงานทุกครั้งมีความเสี่ยง 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน และก็ต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะเรื่องสมาธิและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ว่าเขากล้าบ้าบิ่น แต่เพราะเขาอยากทำงานที่ได้รับมอบหมายให้อย่างดีที่สุด ซึ่งทางเนชั่นได้มอบหน้าที่ให้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนในพื้นที่ อีกทั้งจรูญก็สมัครใจที่จะทำงานนี้เองด้วยส่วนหนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ จรูญยังคิดปลอบใจตัวเองเสมอว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ไปก่อนหน้านี้ยังมีความเสี่ยงมากกว่าเขาเสียอีก
จากนั้น เมื่อนายจรูญกลับมาถึงห้องพัก สิ่งแรกที่เขาทำคือ การนำรูปที่ถ่ายลงในคอมพิวเตอร์และส่งต่อไปให้กับสำนักข่าว โดยเขากล่าวว่า ภาพจะมี 2 แบบ ก่อนอื่นต้องถ่ายให้เห็นสภาพกว้าง ๆ ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น และถ้ามีเวลาก็เข้าไปเจาะในรายละเอียด เมื่อส่งภาพเสร็จ จรูญก็จะรับฟังข่าวว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น และตอนเช้าก็ค่อยไปทำข่าว ถ้าที่เกิดเหตุอยู่บริเวณถนนใหญ่เดินทางไปได้สะดวกก็จะขับตามไปดู ซึ่งต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
สำหรับในวันหยุด นายจรูญ ได้เดินทางไปเก็บภาพที่วัดมหิงษาราม อ.ปานะเระ จ.ปัตตานี และเยี่ยมพี่ทหารที่รู้จักกัน โดยเขากล่าวว่า เขาไม่ได้รอทำแต่ข่าวเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบเพียงอย่างเดียว เพราะจะคอยแต่เหตุการณ์อย่างเดียวคงไม่ได้ ยังมีข่าวอื่น ๆ อีกมากมายทั้งข่าวเศรษฐกิจ ข่าวศิลปวัฒนธรรม การสร้างงานสร้างอาชีพของคนในพื้นที่ ฯลฯ สำหรับการถ่ายภาพบรรยากาศในวัด จรูญก็ได้เก็บภาพรายละเอียด สถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง โดยส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้ อีกส่วนก็เขียนเป็นสกู๊ปข่าวและเอาไปลงในบล็อก
นอกจากนี้ ช่างภาพจรูญยังได้ไปยัง อ.สุคีริน จ.นราธิวาส ซึ่งแม้ว่าจะต้องเดินทางไกล เดินป่า และลุยน้ำ แต่เขาก็ไม่หวั่นเพื่อเก็บภาพวิถีชีวิตชาวบ้านซึ่งกำลังร่อนทองกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเขากล่าวว่า การทำข่าวพวกนี้ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากสถานการณ์เหมือนได้ชาร์จแบตไปในตัวด้วย เพราะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้มีความรุนแรงเพียงอย่างเดียว ยังมีสิ่งที่สวยงามซ่อนอยู่ในสถานการณ์ที่รุนแรง ซึ่งจรูญก็ต้องไปค้นหา และอยากถ่ายภาพลักษณะนี้อยู่แล้ว
จากการเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของสื่อต่อช่างภาพปลายด้ามขวานผู้นี้ ไม่ได้อยู่ที่เฉพาะฝีมือหรือผลงานการถ่ายภาพเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ จุดยืนหลักคิดในการทำงานที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความจริงใจต่อทุกคน โดย ยะโก๊บหร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี ยอมรับว่า จรูญเป็นคนที่ให้เกียรติกับพี่น้องมุสลิม และเข้าใจอัตลักษณ์ รวมถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิมที่นี่ เมื่อสามารถเข้าถึงทุกคนได้ ต่างฝ่ายต่างก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน ซึ่งในสันติภาพทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ความเข้าใจ ต้องหันหน้ามาคุยกัน
ทั้งนี้ ช่างภาพจรูญ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากจะถ่ายภาพในมุมต่าง ๆ ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากภาพวิถีชีวิต ความเชื่อ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ มีอีกมากมายที่ไม่ได้มีความรุนแรง และยังไม่ได้นำเสนอสู่ภายนอก เป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือ อยู่ที่นี่ก็จะใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในขณะที่คนอื่น ๆ ที่ถ่ายรูปดีกว่ามีเยอะแยะ แต่เขาไม่มีโอกาสได้มาที่จุดนี้ และการที่คนในพื้นที่่มีความสุข เขาซึ่งเป็นช่างภาพเมื่อได้เห็นภาพแบบนี้ก็มีความสุขตามเช่นกัน จึงไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง และอีกอย่างบ้านเมือง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้น่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง
คลิป เจาะลึกภารกิจเสี่ยงตาย จรูญ ทองนวล ช่างภาพปลายด้ามขวาน เครดิตรายการคนค้นฅน โพสต์โดยคุณ LadyBimbettes
