สั่งงดตั้งด่านช่วงกลางวัน - ผ่อนผันรถไม่ติดป้ายทะเบียน

 

ตั้งด่านตรวจ
 
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

          รอง ผบช.น. กำหนดนโยบายงดการตั้งด่านจราจรในเวลากลางวัน สั่งตั้งด่านจราจรกลางคืนแทน และห้ามมีการตั้งด่านซ้ำซ้อน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

          วันนี้ (17 สิงหาคม) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร แถลงว่า หลังจากที่ได้ประชุม รอง ผบก.น.1-9 รอง ผบก.จร. ในวาระการประชุมงานจราจร บช.น. ประจำวันที่ 14 สิงหาคม และตามที่ บช.น.ได้รณรงค์กวดขันวินัยจราจรมาระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรโดยเฉพาะการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) อาจส่งผลกระทบต่อสภาพการเลื่อนไหลของการจราจร จึงกำหนดนโยบายของ ผบช.น. เป็นแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

          1. การตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ประกอบด้วย

                1.1 ให้งดการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ในเวลากลางวัน

                1.2 การตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ให้ดำเนินการได้หลังพ้นเวลา 21.00 น. เป็นต้นไป

                1.3 ในถนนเส้นเดียวกัน ต้องไม่มีการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ซ้ำซ้อน ไม่ว่าจะเป็น บก.เดียวกันหรือต่าง บก.กันก็ตาม โดยให้ประสานงานกันโดยตรงระหว่างผู้ปฏิบัติ และรายงานพื้นที่ที่จะตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร ให้ศูนย์วิทยุ บก.02 ทราบทุกครั้ง หากศูนย์ได้รับแจ้งการตั้งด่านซ้ำซ้อน ให้รีบแจ้งผู้บังคับบัญชาและผู้ปฏิบัติเพื่อแก้ไขทันที

                1.4 ในการตั้งด่านให้เน้นตรวจจับตามมาตรการ 12 ข้อหาหลัก ซึ่งเป็นนโยบายของ บช.น. การป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด ส่วนข้อหาอื่นให้ใช้มาตรการว่ากล่าวตักเตือน 

                1.5 ในเวลากลางวัน หากฝ่ายป้องกันปราบปราม มีการตั้งด่านป้องกันอาชญากรรม (ว.43) ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเข้าสนับสนุนด้วย

                1.6 ในการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) หากเกิดปัญหาการจราจรติดขัด ให้หยุดการตรวจค้นและเร่งระบายรถโดยด่วน

                1.7 กรณีบนทางด่วน เน้นการกวดขันจับกุมความเร็ว แต่ต้องติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่ามีการใช้เครื่องตรวจจับรถที่ขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด

                1.8 ให้ผู้บังคับบัญชาทั้งในระดับ บก. และระดับ สน.ควบคุมการปฏิบัติในการตั้งด่านกวดขันวินัยจราจร (ว.43) ไม่ให้มีการทุจริตหรือมีการเรียกรับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด

          2. ด้านการกวดขันวินัยจราจร หากตรวจพบผู้กระทำผิดกฎจราจรนอกเหนือจากความผิด 12 ข้อหาหลัก ให้ใช้มาตรการว่ากล่าวตักเตือน โดยใช้ใบเตือนทั้งหมด ผลการออกใบเตือนให้รายงานมายัง บก.จร. เพื่อประมวลผลและกำหนดมาตรการต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิมพ์ของโรงพิมพ์ตำรวจ คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ โดยจะเก็บข้อมูลไว้ที่ บก.จร. หากพบว่าคนเดิมทำผิดข้อหาเดิมอีกก็จะปรับในโทษสูงสุด

          3. เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกได้มีหนังสือถึง บช.น. ขอความร่วมมือในการผ่อนผันการจับกุมรถที่มิได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถเป็นการชั่วคราว เพราะขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดหาและผลิตแผ่นป้ายทะเบียนรถ คาดว่าจะทยอยส่งมอบให้กับเจ้าของรถได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 เป็นต้นไป จึงให้ทุก สน.ใช้มาตรการว่ากล่าวตักเตือนการจับกุมเฉพาะความผิดนี้ไปก่อน

          สำหรับ 12 ข้อหาหลักด้านการจราจร ได้แก่

          1. ข้อหาแข่งรถในทางสาธารณะ

          2. ขับรถเร็ว

          3. แซงในที่คับขัน

          4. เมาแล้วขับ

          5. ขับรถย้อนศร

          6. ไม่สวมหมวกนิรภัย

          7. จอดรถซ้อนคัน

          8. ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน

          9. มลพิษควันดำ

          10. จอดรถในที่ห้ามจอด

          11. การจอดรถบนทางเท้า

          12. การขับรถบนทางเท้า

          นอกจากนี้ รอง ผบช.น. ได้กล่าวถึงกรณีที่จากนโยบายให้ตำรวจจราจรติดกล้องกระดุมหรือกล้องปากกาเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ กรณีผู้ขับขี่โต้แย้งการกระทำความผิด ส่งผลให้สภาทนายความออกมาแสดงความเห็นว่าอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิ ว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง แต่กรณีใช้กล้องดังกล่าวเป็นเพียงแนวคิด ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติยังไม่ถึงขั้นใช้งานจริง กรณีที่ว่าอาจละเมิดสิทธิประชาชนเชื่อว่า เป็นการได้ข้อมูลผิด ๆ เนื่องจากการใช้กล้องนั้นใช้เพื่อควบคุมการทำงานของตำรวจและผลดีก็มีมากมาย โดยจะให้เฉพาะหัวหน้าผู้ควบคุมการปฏิบัติเป็นผู้ติดกล้องเท่านั้น ที่สำคัญใช้ในการป้องกันกรณีพวกที่ชอบอวดเบ่งกับตำรวจด้วย ประชาชนทั่วไปไม่ต้องกลัว
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สั่งงดตั้งด่านช่วงกลางวัน - ผ่อนผันรถไม่ติดป้ายทะเบียน โพสต์เมื่อ 17 สิงหาคม 2555 เวลา 16:48:26 3,724 อ่าน
TOP
x close